สภาเภสัชกรรม รวมพลังสมาคมวิชาชีพเภสัชกรรม จัดสัปดาห์เภสัช 2553 รณรงค์“รอบรู้เรื่องยา ปรึกษาเภสัชฯ ลดยาเหลือใช้ ปลอดภัย ปลอดโรค”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์

สภาเภสัชกรรม ร่วมกับ เภสัชกรรมสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สมาคมเภสัชกรรมโรงพยาบาล (ประเทศไทย) และสมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) จัดโครงการสัปดาห์เภสัช ประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 26 มิ.ย.-2 ก.ค.2553 รณรงค์ลดยาเหลือใช้ในครอบครัว ภายใต้คำขวัญ “รอบรู้เรื่องยา ปรึกษาเภสัชฯ ลดยาเหลือใช้ ปลอดภัย ปลอดโรค” เพื่อลดปัญหาสุขภาพซ่อนเร้นของระบบสุขภาพไทย เพราะการใช้ยาไม่ถูกต้อง ซ้ำซ้อน หรือเสื่อมคุณภาพ อันอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้ ภญ.รศ.ธิดา นิงสานนท์ นายกสภาเภสัชกรรม เปิดเผยว่า ปัญหาสำคัญที่พบในปัจจุบันคือค่าใช้จ่ายด้านยาที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่ละปีรัฐบาลต้องสูญเสียงบประมาณด้านยาเป็นจำนวนมหาศาล จากข้อมูลในปี 2538-2546 พบว่าภาครัฐมีค่าใช้จ่ายด้านยาประมาณ 1 ใน 3 ของรายจ่ายด้านสุขภาพทั้งหมด และเพิ่มขึ้นทุกปี จนในปี 2548 คิดเป็นเกือบ 50% ของค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพทั้งหมด ที่มีมูลค่าถึง 200,000 ล้านบาท ซึ่งสาเหตุหนึ่งเป็นเพราะมีการใช้ยาหลายขนานร่วมกันซึ่งส่วนหนึ่งเป็นยาต่างประเทศที่มีราคาแพง การจ่ายยาครั้งละหลายๆเดือน จากการที่เภสัชกรได้ลงพื้นที่เยี่ยมผู้ป่วยโรคเรื้อรัง และจากการที่ให้ผู้ป่วยนำยากลับมาเมื่อมาพบแพทย์ทุกครั้ง รวมทั้งจากการศึกษาวิจัย พบว่ามียาเหลือใช้ในครัวเรือนจำนวนมาก สาเหตุเพราะผู้ป่วยซื้อยามาเก็บไว้แล้วไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่หมดเพราะอาการหายไปแล้ว หรือจากการที่แพทย์เปลี่ยนการรักษามาใช้ยาตัวใหม่ ยาเดิมไม่ใช้แล้วแต่ผู้ป่วยยังมียาเหลือจำนวนมาก หรือบางครั้งผู้ป่วยปรับลดขนาดยาที่ใช้เอง หรือผู้ป่วยเสียชีวิต หรือจากการที่ผู้ป่วยใช้ยาไม่ถูกต้องหรือมีความเชื่อผิดๆ ซึ่งปัญหายาเหลือใช้ในครัวเรือนเป็นปัญหาซ่อนเร้นของระบบสุขภาพไทย ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายด้านยาของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยเงียบต่อสุขภาพและความปลอดภัยของผู้ป่วย โดยเฉพาะหากมีการนำยาเหลือใช้ไปให้ผู้อื่นใช้ต่อ เพราะคนอื่นอาจแพ้ยาตัวนั้นเกิดปัญหาตามมาอีก จากการที่เภสัชกรในโครงการของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เข้าเยี่ยมบ้านผู้ป่วยโรคเรื้อรังจำนวน 700 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลทั้งหมด 54 ชุมชน พบว่าผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง ซึ่งต้องใช้ยาหลายขนานร่วมกันในการรักษาโรคนั้น มียาเหลือใช้ในบ้านสูงถึง 3-4 เท่าของยาที่ควรมี หรือประมาณ 300-400% ซึ่งสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากการที่ผู้ป่วยไม่รับประทานยาตามแพทย์สั่งสูงถึง 90% และในจำนวน 90% ที่ไม่รับประทานยาตามแพทย์สั่งนั้น 25% รับประทานยาไม่สม่ำเสมอ ส่วนอีก 65% ผู้ป่วยไม่ยอมรับประทานยาเลย จึงทำให้เกิดปัญหาด้านการใช้ยาและยาเหลือใช้ตามบ้าน อีกทั้งยังอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ จากผลการรักษาที่ไม่ได้ตามเป้าหมาย และภาวะโรคแทรกซ้อนอื่นที่ตามมาได้ ด้วยความตระหนักต่อความสูญเสียและความเสี่ยงดังกล่าว สภาเภสัชกรรม ร่วมกับองค์กรวิชาชีพทางเภสัชกรรมจึงเห็นพ้องกันว่า “สัปดาห์เภสัช” ครั้งที่ 11 ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่26 มิ.ย.-2 ก.ค.2553 นี้จะรณรงค์ลดยาเหลือใช้ในครัวเรือน ภายใต้คำขวัญ “รอบรู้เรื่องยา ปรึกษาเภสัชฯ ลดยาเหลือใช้ ปลอดภัย ปลอดโรค” “ในช่วงสัปดาห์เภสัช ในระหว่างวันที่ 26 มิ.ย.-2 ก.ค. 2553 นี้ จะรณรงค์ให้ประชาชนสำรวจยาเหลือใช้ในบ้าน และวิธีการจัดการที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันจะรณรงค์ให้เกิดกิจกรรมที่เภสัชกรสถานพยาบาลและร้านยาดำเนินการติดตามการใช้ยาของผู้ป่วย และส่งเสริมให้ผู้ป่วยใช้ยาให้ถูกต้อง ด้วยการให้คำปรึกษา ค้นหาปัญหาเรื่องการใช้ยาของผู้ป่วย รวมทั้งการตรวจสอบยาที่ผู้ป่วยนำมาเมื่อมารับบริการแต่ละครั้ง นอกจากนี้ยังรณรงค์ให้ประชาชนอ่านฉลากยาให้ละเอียดก่อนใช้ยาแต่ละครั้ง เน้นให้ถามวิธีการใช้ยาที่ถูกต้องจากเภสัชกรทุกครั้ง โดยเฉพาะยาที่มีเทคนิกพิเศษในการใช้ เช่น ยาพ่นบรรเทาหรือป้องกันการจับหืด เป็นต้น กิจกรรมดังกล่าวอยากให้ทำต่อเนื่องตลอดไปเพื่อสร้างทัศนคติที่ถูกต้อง เพิ่มความร่วมมือในการใช้ยาอย่างปลอดภัย และเพื่อลดปัญหายาเหลือใช้จากการใช้ยาไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพของสังคมไทย” ภญ.รศ.ธิดา กล่าว สำหรับข้อแนะนำที่ทำอย่างไรจะไม่ให้มียาเหลือใช้ในบ้าน ทำได้ดังนี้ - อ่านฉลากให้ถี่ถ้วนก่อนใช้ยา ควรอ่านให้เข้าใจว่าใช้อย่างไร ต้องใช้ต่อเนื่องจนยาหมดหรือไม่ หรือใช้นานเท่าใด ยาบางชนิด เช่นยาปฏิชีวนะ ต้องกินติดต่อกันจนหมด เพื่อให้ได้ผลในการรักษา หรือยาหยอดตา เมื่อเปิดใช้แล้วเกิน 1 เดือน ให้ทิ้งไป เป็นต้น ถ้าปฏิบัติตามคำแนะนำบนฉลาก จะช่วยลดยาเหลือใช้ - นำยาที่เหลืออยู่ไปพบแพทย์ตามนัด หากท่านมีโรคประจำตัวหรือโรคที่ต้องใช้ยาต่อเนื่อง และต้องไปพบแพทย์ตามนัด อย่าลืมนำยาที่เหลืออยู่ไปด้วยทุกครั้งที่ไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์ทราบถึงจำนวนยาที่เหลืออยู่ และสั่งจ่ายยาตามจำนวนที่หักยาเดิมให้พอถึงวันนัดครั้งต่อไป แทนที่จะสั่งยาให้ตามจำนวนวัน ซึ่งทำให้มียาเดิมเหลือค้างอยู่จำนวนหนึ่ง หากแพทย์มีการเปลี่ยนยาให้ใหม่ และท่านใช้ร่วมไปกับยาเดิม จะทำให้ได้รับยามากเกินไปจนอาจเป็นอันตราย แต่ถ้าท่านไม่ใช้ ยาเดิมนั้นก็จะเป็นยาเหลือใช้ - ไม่ควรซื้อยาบรรเทาอาการคราวละมากๆ ยาบรรเทาอาการ เช่น ลดไข้ แก้ปวดศีรษะ แก้หวัด หลังจากหายแล้วถ้าเหลืออยู่ จะกลายเป็นยาเหลือใช้ สิ่งที่ไม่ควรทำ - อย่านำยาเหลือใช้ไปให้คนอื่นใช้ ขณะเดียวกันก็อย่ากินยาที่คนอื่นให้มา เพราะอาการคล้ายกันแต่อาจไม่ใช่โรคเดียวกัน ขนาดยาก็อาจไม่เหมาะสม และอาจเกิดอาการแพ้ยาได้อีกด้วย - อย่านำยาเหลือใช้มารวมในซองยา หรือขวดยาเดียวกัน - อย่าแกะยาออกจากแผงหากยังไม่ใช้ - อย่าเก็บยาในตู้เย็น ยกเว้นยาที่มีฉลากระบุไว้ - อย่าเก็บยาในรถที่จอดทิ้งไว้เพราะความร้อนจะทำให้ยาเสื่อม - อย่าหยุดยาเอง เพราะแพทย์จะเข้าใจผิดว่าอาการที่เลวลงเป็นเพราะโรค แล้วเพิ่มยาให้อีก อย่าซื้อยากินเองโดยไม่ปรึกษาเภสัชกร เพราะถ้าได้รับยาจำนวนมากจากสถานพยาบาลแล้วอาจได้รับยาซ้ำซ้อน สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวสมาคมวิชาชีพเภสัชกรรม+สมาคมเภสัชกรรมชุมชนวันนี้

ภาพข่าว: การประชุมวิชาการ The 15th Asian Conference on Clinical Pharmacy ( ACCP 2015 ) ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพฯ

ศ.นพ. รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการ ประชุมวิชาการ The 15th Asian Conference on Clinical Pharmacy (ACCP-2015) ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพฯ โดยมี สุชาติ เกตุนวม รองผู้จัดการทั่วไป, โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพฯ ต้อนรับ สำหรับ การประชุมวิชาการในครั้งนี้ โดยความร่วมมือของวิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศไทย สภาเภสัชกรรม และสมาคมวิชาชีพเภสัชกรรมต่างๆ มีผู้เข้าร่วมประชุมจากประเทศในแถบภูมิภาคเอเชียประมาณ 8 00 – 1,000

The 15th Asian Conference on Clinical Pharmacy (ACCP-2015)

ศ.นพ. รัชตะ รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานเปิดการประชุมวิชาการ The 15th Asian Conference on Clinical Pharmacy (ACCP-2015) ณ ห้องคอนเวนชั่นฮอลล์ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ กรุงเทพฯ โดยความร่วมมือของวิทยาลัยเภสัชบำบัดแห่งประเทศ...

สมาคมเภสัชกรรมชุมชน จัดพิธีประกาศผลการประกวดสุดยอดเภสัชกรชุมชนรุ่นใหม่ดีเด่น“หมอยา..talent” ปี 4 (Patient Counseling Event)

ขอเรียนเชิญสื่อมวลชนร่วมพิธีประกาศผล การประกวดสุดยอดเภสัชกรชุมชนรุ่นใหม่ดีเด่น “หมอยา..talent” ปี 4 (Patient Counseling Event) เพื่อค้นหาสุดยอดเภสัชกรชุมชนรุ่นใหม่ ครั้งที่ 4...

ภาพข่าว: แสดงความยินดี ภก.ดร. คทา บัณฑิตานุกูล

ภญ. ช้องมาศ นิติศฤงคาริน นายกสมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) เป็นประธานเปิดงานการบรรยายพิเศษเรื่อง “Current Community Pharmacy Practices in USA” โดย ดร. แนนซี่ ลี หลิน พร้อมแสดงความยินดีกับ ภก.ดร. คทา บัณฑิตานุกูล ในโอกาสที่ได้รับพระราชทานปริญญา...

ภาพข่าว: ศ.กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์ ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย ร่วมสัมมนาโรคข้อ

ศ.กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย ให้เกียรติเป็นวิทยากรพิเศษในงานสัมมนา “โรคข้อที่พบบ่อยในร้านขายยาและผลแคลเซียม แอล ทรีโอแนต ต่อกระดูกและกระดูกอ่อน” ที่จัดโดย...

ภาพข่าว: สมาคมเภสัชกรรมชุมชน ร่วมกับ ไบโอโกรว์ จัดสัมมนาวิชาการโรคข้อฯ

สมาคมเภสัชกรรมชุมชน (ประเทศไทย) ร่วมกับ บริษัท ไบโอโกรว์ (ทีเอช) จำกัด จัดสัมมนา “โรคข้อที่พบบ่อยในร้านขายยาและผลแคลเซียม แอล ทรีโอแนต ต่อกระดูกและกระดูกอ่อน” ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศ.กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการศูนย์...

ปฏิทินข่าวกิจกรรมประจำวันนี้(24 มีนาคม 2556)

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2556 08.00 น. สมาคมเภสัชกรรมชุมชน จัดงานสัมมนา“โรคข้อที่พบบ่อยใน ร้านขายยาและผลแคลเซียม แอล ทรีโอแนต ต่อกระดูกและ กระดูกอ่อน” ณ โรงแรม สวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด 08.00 น. ไบโอโกรว์ ร่วมกับ สมาคมเภสัชกรรมชุมชน จัดสัมนาทาง วิชาการภาย...

ปฏิทินข่าวกิจกรรมประจำวันพรุ่งนี้(24 มีนาคม 2556)

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2556 08.00 น. สมาคมเภสัชกรรมชุมชน จัดงานสัมมนา“โรคข้อที่พบบ่อยใน ร้านขายยาและผลแคลเซียม แอล ทรีโอแนต ต่อกระดูกและ กระดูกอ่อน” ณ โรงแรม สวิสโซเทล เลอ คองคอร์ด 08.00 น. ไบโอโกรว์ ร่วมกับ สมาคมเภสัชกรรมชุมชน จัดสัมนาทาง วิชาการภาย...

ศ.กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์ ให้เกียรติเป็นวิทยากรบรรยายในงานสัมมนาวิชาการ

ศ.กิตติคุณ นพ.เสก อักษรานุเคราะห์ ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู สภากาชาดไทย รับเชิญวริญา ณ ระนอง ผู้บริหารแห่งไบโอโกรว์ เป็นวิทยากรบรรยายพิเศษภายใต้หัวข้อ “โรคข้อที่พบบ่อยในร้านขายยาและผลแคลเซียม แอล ทรีโอแนต ต่อกระดูก...