ปภ.เตือนน้ำในเขื่อนเหลือน้อย ชาวนาลุ่มน้ำเจ้าพระยาชะลอการปลูกข้าวนาปี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--ปภ.

กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เตือนเกษตรกรในจังหวัดภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาทั้งในเขตและนอกเขตชลประทานชะลอการปลูกข้าวนาปีออกไปก่อน เพื่อป้องกันผลผลิตได้รับความเสียหายจากการขาดแคลนน้ำ เนื่องจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำเหลือน้อย ประกอบกับอาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วงในระยะนี้ นายอนุชา โมกขะเวส อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำในเขื่อนขนาดใหญ่ของประเทศ พบว่า อยู่ในภาวะวิฤตปริมาณน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยฉพาะเขื่อนภูมิพลมีปริมาณน้ำ ร้อยละ 32 และเขื่อนสิริกิติ์มีปริมาณน้ำร้อยละ 36 แต่ต้องกันไว้ใช้สำหรับการอุปโภค บริโภค และรักษาระบบนิเวศน์ในลำน้ำเป็นหลัก จึงไม่สามารถสนับสนุนน้ำเพื่อทำการเกษตรได้ และแม้ว่าระยะนี้จะมีฝนตกในหลายพื้นที่แต่ส่วนใหญ่ฝนตกในบริเวณพื้นที่ท้ายเขื่อน ทำให้ไม่มีน้ำไหลเข้าสู่เขื่อนเพิ่มเติม รวมทั้งจากรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยายังระบุอีกว่า ช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคม 2553 อาจเกิดภาวะฝนทิ้งช่วง ส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำยาวนานมากยิ่งขึ้น ประกอบกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ออกประกาศให้เลื่อนการทำนาปีในเขตชลประทานที่รับน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ แต่จากการสำรวจพื้นที่เพาะปลูกข้าว โดยเฉพาะพื้นที่ภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา พบว่า เกษตรกรในบางพื้นที่เริ่มหว่านข้าวทำนาปีบ้างแล้ว ซึ่งมีความเสี่ยงที่ต้นข้าวจะขาดแคลนน้ำในระยะเติบโต ส่งผลให้ข้าวยืนต้นตาย ดังนั้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จึงขอเตือนให้เกษตรกรในจังหวัดภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะในเขตชลประทานที่รับน้ำจากเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ รวมถึงพื้นที่นอกเขตชลประทานชะลอการปลูกข้าวนาปีออกไปก่อน โดยเลือกปลูกพืชอายุสั้นที่ใช้น้ำน้อยแทน รวมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำ แผนการจัดสรรน้ำ สภาพอากาศ เพื่อจะได้วางแผนทำนาหรือปลูกพืชให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำในพื้นที่ ทั้งนี้คาดว่าเกษตรกรจะเริ่มเพาะปลูกได้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนสิงหาคม 2553 เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้คาดหมายสภาวะอากาศในช่วงดังกล่าวว่าจะมีฝนตกกระจายเพิ่มขึ้น ทำให้ปริมาณน้ำไหลลงสู่เขื่อนเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้สามารถจัดสรรน้ำสำหรับการทำนาและเพาะปลูกพืชได้ อย่างไรก็ตามปรากฎการณ์เอลนิโญ่ได้ส่งผลให้สภาพภูมิอากาศของโลกค่อนข้างแปรปรวน ทำให้ไม่สามารถคาดหมายลักษณะอากาศได้อย่างชัดเจน จึงขอให้เกษตรกรติดตามสถานการณ์น้ำและสภาวะอากาศอย่างใกล้ชิดก่อนดำเนินการเพาะปลูกพืชหรือหว่านข้าวนาปี ท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจาก การขาดแคลนน้ำอุปโภค และบริโภค สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 0-2243-2200 ฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปภ.

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+ลุ่มน้ำเจ้าพระยาวันนี้

กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน

นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ.สสล. กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและรับมือปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สสล. ได้บูรณาการความร่วมมือและการยกระดับปฏิบัติการแบบ Single Command โดย กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบวันต่อวัน และบูรณาการข้อมูล hotspot

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...