ธนาคารนครหลวงไทยเปิดให้บริการบัญชีเงินฝากประจำ 9 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อปี และบัญชีเงินฝากประจำ 15 เดือน ดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน และสามารถใช้เป็นหลักประกันสินเชื่อได้อีกด้วย รวมทั้งเปิดให้บริการตั๋วแลกเงินที่มีให้เลือกลงทุนได้ทั้งระยะสั้นและระยะกลาง หลังจากที่ได้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันระหว่างธนาคารนครหลวงไทยและธนาคารธนชาต ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำสถาบันการเงินที่ให้บริการทางการเงินที่ครบวงจร
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารนครหลวงไทยได้เริ่มทยอยนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้มีการพัฒนาร่วมกันระหว่างธนาคารนครหลวงไทยและธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) มาเปิดให้บริการแก่ลูกค้าเป้าหมาย ได้แก่ 1. บริการ “บัญชีเงินฝากประจำ 9 เดือน” แบบมีสมุดคู่ฝาก อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน โดยจะจ่ายดอกเบี้ยงวดแรกตั้งแต่เดือนที่ 3 เป็นต้นไป วงเงินรับฝากครั้งแรก 1 แสนบาท ไม่จำกัดวงเงินรวมสูงสุด 2. บริการ “บัญชีเงินฝากประจำ 15 เดือน” แบบมีสมุดคู่ฝาก อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยรายเดือน วงเงินรับฝากครั้งแรกตั้งแต่ 5 แสนบาท ไม่จำกัดวงเงินรวมสูงสุด โดยธนาคารจะโอนดอกเบี้ยให้กับผู้ฝากในบัญชีเงินฝากออมทรัพย์หรือกระแสรายวันที่เปิดไว้กับสาขาในเขตสำนักหักบัญชีเดียวกันกับสาขาที่ผู้ฝากเงินเปิดบัญชีเงินฝากประจำไว้ ทั้งนี้ผู้ฝากยังสามารถใช้บัญชีเงินฝากประจำ 9 เดือน และบัญชีเงินฝากประจำ 15 เดือน เป็นหลักประกันสินเชื่อได้อีกด้วย
นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดให้บริการ “ตั๋วแลกเงินอายุ 2 เดือน” อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.30 ต่อปี วงเงินลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนบาท หากไถ่ถอนก่อน 2 เดือน จะไม่ได้รับดอกเบี้ย และบริการ “ตั๋วแลกเงินอายุ 9 เดือน” อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.50 ต่อปี ลงทุนขั้นต่ำ 5 แสนบาท หากลงทุนในตั๋วแลกเงินขั้นต่ำตั้งแต่ 1 ล้านบาท ขึ้นไปต่อฉบับ ธนาคารจะจ่ายดอกเบี้ยรายเดือนให้กับผู้ลงทุน โดยจะจ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนตั้งแต่ครบ 1 เดือนแรก โดยจ่ายในวันเดียวกับวันที่ลงทุนในตั๋วแลกเงินของทุกเดือน หากไถ่ถอนก่อน 2 เดือน จะไม่ได้รับดอกเบี้ย ไถ่ถอนเมื่อครบ 2 เดือน แต่ไม่ครบ 9 เดือน จะได้รับดอกเบี้ยในอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ปกติตามระยะเวลาฝากจริง และเมื่อครบวันกำหนดชำระเงินตามตั๋วแลกเงินสามารถไถ่ถอนได้ที่สาขาที่ออกตั๋วแลกเงิน
“ธนาคารเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่ได้มีการพัฒนาและสามารถให้บริการร่วมกันได้จะเป็นการตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำสถาบันการเงินที่ให้บริการทางการเงินที่ครบวงจรและเอื้อประโยชน์อย่างสูงสุดแก่ลูกค้าของธนาคารทั้งสองแห่งซึ่งเน้นเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการด้านการเงิน การออม หรือการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง และในช่วงต่อไปธนาคารมีแนวคิดที่จะเน้นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านตั๋วแลกเงินให้เป็นที่ยอมรับมากขึ้น เนื่องจากเป็นตราสารหนี้ที่มีความคล่องตัวเช่นเดียวกับเงินฝากและง่ายต่อการลงทุน” นายชัยวัฒน์ กล่าว