อ.บึงกาฬจ.หนองคาย เตรียมจัดการแข่งขันเรือยาวประเพณีไทย-ลาว ครั้งที่11 อย่างยิ่งใหญ่ริมฝั่งแม่น้ำโขง

03 Aug 2010

กรุงเทพฯ--3 ส.ค.--เทศบาลตำบลบึงกาฬ

อำเภอบึงกาฬ เชิญเที่ยวงานแข่งขันเรือยาวประเพณีไทย-ลาว 10 - 12 กันยายนนี้.

เทศบาลตำบลบึงกาฬร่วมกับ อบจ.หนองคายและพี่น้องประชาชน อ.บึงกาฬ จ.หนองคาย ขอเชิญเที่ยวงานแข่งเรือยาวประเพณีไทย-ลาวครั้งที่ 11 ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีระหว่างวันที่10-12กันยายนนี้ ณ.สนามกีฬาโรงเรียนอนุบาลวิศิษฐ์อำนวยศิลป์ ซึ่งในปีนี้ทางจังหวัดได้เตรียมความพร้อมในทุกๆด้านเพื่อจัดงาน โดยในปี้นี้ รางวัลชนะเลิศมูลค่าสูงถึง 500,000 บาท มีการเพิ่มเงินรางวัลของทุกลำดับให้สูงขึ้น และได้เพิ่มรางวัลอื่นๆอีกมากมายรวมมูลค่ากว่าล้านบาท

ในวันที่ 10 กันยายน จะเป็นวันเปิดงานอย่างเป็นทางการเวลาประมาณ 09.00น.จะมีขบวนอัญเชิญถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพฯ ซึ่งประกอบด้วยริ้วขบวนที่สวยงาม จากหน่วยงาน องค์กร ชุมชน และคุ้มต่างๆ ร่วมในขบวนเป็นจำนวนมาก หลังจากนั้นจะมีพิธีเปิดงานบนเวทีบริเวณริมฝั่งโขงโดยผู้แทนจากประเทศไทย และ สปป.ลาว กล่าวเปิดงานพร้อมกับการแสดงของดารา นักร้อง ศิลปินดังจากค่ายต่างๆมากมาย ภายในงานจัดให้มีกิจกรรมร่วมสนุก สินค้าการเกษตร และ OTOP พร้อมพบกับมหกรรมอาหารอร่อย ย้อนรอยความสัมพันธ์ไทย – ลาว ตลอดแนวเขื่อนป้องกันตลิ่งพังตั้งแต่หน้าเทศบาลตำบลบึงกาฬจนถึงหน้าสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาหนองคายเขต 3 ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร อีกทั้งในปีนี้ช่วงค่ำได้จัดให้มีการแสดงคอนเสริต์ของศิลปินชื่อดังจากค่ายต่างๆพร้อมแสง สี เสียง อลังการ

และวันสุดท้าย(12กันยายน)จะเป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศเรือยาวทุกประเภท พร้อมพิธีมอบรางวัล และจัดพิธีปิดอย่างยิ่งใหญ่ ซึ่งท่านสามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทางช่องNBT เวลา 17.00-18.00น หรือ ทางวิทยุกระจายเสียง สวท.บึงกาฬ F.M.104.25 Mhz. , สวท.หนองคายF.M.90.50 Mhz. และสถานีวิทยุท้องถิ่น กว่า 200สถานีทั่วจังหวัดหนองคายและจังหวัดใกล้เคียง โดยในวันพฤหัสบดีที่ 19 สิงหาคม 2553 จะมีการแถลงข่าวการจัดงาน ณ. ห้องอเนกประสงค์ 1 กรมประชาสัมพันธ์ กรุงเทพฯ เวลา 13.00 น. นายยุทธนา ศรีตะบุตร ในฐานะประธานจัดงาน การแข่งขันเรือยาวประเพณีไทย-ลาวในครั้งนี้ จึงขอเชิญชวนทุกท่านทั้งใกล้และไกลรวมถึงนักท่องเที่ยวทั้งในและนอกประเทศเชิญเที่ยวชมงานส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์มีชื่อเสียงมายาวนานและเป็นการเสริมสร้างความสามัคคีมิตรภาพไทย-ลาวที่มีต่อกันมายาวนานเพื่อสืบสานกันต่อไป