ผลการบริหารจัดการหนี้สาธารณะภาครัฐ ประจำเดือนมิถุนายน 2553และรายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2553

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--กลุ่มการประชาสัมพันธ์ สำนักงานปลัดกระทรวงการคลัง

นายจักรกฤศฏิ์ พาราพันธกุล ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ขอสรุปผลการดำเนินการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐประจำเดือนมิถุนายน 2553 พร้อมทั้งรายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2553 ดังนี้ 1. การกู้เงินภาครัฐ เดือนมิถุนายน 2553 กระทรวงการคลังได้ลงนามสัญญาเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 วงเงิน 80,000 ล้านบาท และได้มีการเบิกเงินกู้ภายใต้วงเงินดังกล่าว จำนวน 33,000 ล้านบาท รวมถึงจากวงเงินเดิมที่ได้ลงนามไว้อีก 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้กระทรวง การคลังได้ดำเนินการกู้เงินในประเทศเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณโดยการออกพันธบัตรรัฐบาล 17,000 ล้านบาท ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้กู้เงินในประเทศ เพื่อดำเนินกิจการทั่วไป 1,120 ล้านบาท อนึ่ง รัฐบาลได้ลงนามในสัญญากู้เงินจากธนาคารโลกและธนาคารพัฒนาเอเชีย วงเงินรวม 156.4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 5,097.62 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นสัญญากู้เงินกับธนาคารโลก จำนวน 79.3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2,584.67 ล้านบาท และสัญญากู้เงินกับธนาคารพัฒนาเอเชีย 77.1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเทียบเท่า 2,512.96 ล้านบาท (คำนวณตามอัตราแลกเปลี่ยนขายถัวเฉลี่ยของเงินบาทกับเงินเหรียญสหรัฐ ณ วันลงนามในสัญญา คือ 32.5935 บาทต่อ 1 เหรียญสหรัฐ) เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2553 ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553 ภาครัฐได้กู้เงินในประเทศรวม 443,526 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินของกระทรวงการคลัง 397,572 ล้านบาทและของรัฐวิสาหกิจ 45,954 ล้านบาท 2. การปรับโครงสร้างหนี้ภาครัฐ 2.1 เดือนมิถุนายน 2553 หนี้ในประเทศ รัฐวิสาหกิจได้ดำเนินการปรับโครงสร้างหนี้ โดยทำการ Roll Over วงเงินรวม 5,154 ล้านบาท โดยธนาคารอาคารสงเคราะห์ และการรถไฟแห่ง ประเทศไทยได้ทำการ Roll Over หนี้เดิม จำนวน 3,000 ล้านบาท และ 1,000 ล้านบาท ตามลำดับ และองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้ทำการ Refinance หนี้เดิม วงเงินรวม 1,154 ล้านบาท 2.2 ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553 หนี้ในประเทศ กระทรวงการคลังได้ดำเนินการปรับโครงสร้าง หนี้ในประเทศ วงเงินรวม 209,670 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็น 1) การแปลงตั๋วเงินคลังเป็นพันธบัตรรัฐบาล 23,000 ล้านบาท 2) การปรับโครงสร้างตั๋วสัญญาใช้เงิน ที่ครบกำหนด 25,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญา ใช้เงิน 3) การปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF 1) ที่ครบกำหนด 69,440 ล้านบาท โดยการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ จำนวน 55,000 ล้านบาท และตั๋วสัญญาใช้เงิน จำนวน 14,440 ล้านบาท 4) การปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินระยะที่สอง พ.ศ. 2545 (FIDF 3) ที่ครบกำหนด 10,000 ล้านบาท โดยการออกตั๋วสัญญาใช้เงิน และ 5) การปรับโครงสร้างหนี้เงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 โดยการออกพันธบัตรออมทรัพย์ ไทยเข้มแข็งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน82,230.29 ล้านบาท สำหรับรัฐวิสาหกิจนั้นได้ทำการ Roll Over หนี้เดิมรวม 121,919 ล้านบาท 3. การชำระหนี้ภาครัฐ เดือนมิถุนายน 2553 กระทรวงการคลังได้ดำเนินการชำระหนี้โดยใช้เงินงบประมาณรวม 7,636 ล้านบาท ซึ่งแบ่งเป็นการชำระคืน เงินต้น 747 ล้านบาท ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมรวม 6,889 ล้านบาท ช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีงบประมาณ 2553 กระทรวงการคลังได้ชำระคืนต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมโดยเงินงบประมาณรวม 123,648 ล้านบาท รายงานหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2553 ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 พฤษภาคม 2553 มีจำนวน 4,144,260 ล้านบาท หรือร้อยละ 42.59 ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,806,656 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงิน 1,097,566 ล้านบาท หนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน 178,398 ล้านบาท และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน 61,640 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นสุทธิ 35,278 ล้านบาท โดยหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง และหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้น 32,720 ล้านบาท และ 13,791 ล้านบาท ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกัน และหนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ ลดลง 10,761 ล้านบาท และ 472 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนหน่วยงานอื่นของรัฐนั้นไม่มีหนี้คงค้าง การเพิ่มขึ้นสุทธิของหนี้สาธารณะคงค้างเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนที่ผ่านมานั้น ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้นของ หนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง โดยเพิ่มขึ้นสุทธิ 32,720 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดจากรัฐบาลได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณ ประมาณ 37,000 ล้านบาท และได้เบิกเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 เพื่อดำเนินการตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จำนวน 27,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินการออกพันธบัตรรัฐบาลเพื่อปรับโครงสร้างหนี้พันธบัตรรัฐบาลที่ออกภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินและจัดการเงินกู้เพื่อช่วยเหลือกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2541 (FIDF 1) ที่ครบกำหนดในเดือนเมษายน 2553 จำนวน 8,000 ล้านบาท และนำเงินที่ได้ไปชำระคืนต้นเงินกู้ระยะสั้นและเงินในบัญชีเงินฝากกระทรวงการคลัง (FIDF 1 และ FIDF 3) เป็นเงิน 2,385.70 ล้านบาท สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็นสถาบันการเงินเพิ่มขึ้นสุทธิ 13,791 ล้านบาท ที่สำคัญเกิดจากการเพิ่มขึ้น ในส่วนของหนี้ต่างประเทศที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินบาทต่อสหรัฐที่สูงขึ้น ทำให้การเปลี่ยนแปลงสุทธิของหนี้ต่างประเทศในรูปเงินดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อแปลงเป็นเงินบาทเพิ่มขึ้น รวมถึงการเบิกจ่ายเงินกู้จากแหล่งเงินกู้ต่างๆ สูงกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้ ตามลำดับ สำหรับหนี้รัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงินที่รัฐบาลค้ำประกันลดลงสุทธิ 10,761 ล้านบาท รายการที่สำคัญเกิดการลดลงของหนี้ในประเทศ เนื่องจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเบิกจ่ายเงินกู้จากแหล่งเงินกู้ต่างๆ ต่ำกว่าการชำระคืนต้นเงินกู้ หนี้สาธารณะ จำนวน 4,144,260 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหนี้ต่างประเทศ 370,350 ล้านบาท หรือร้อยละ 8.94 และหนี้ในประเทศ 3,773,910 ล้านบาท หรือร้อยละ 91.06 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง และเป็นหนี้ระยะยาว 3,931,267 ล้านบาท หรือร้อยละ 94.86 และหนี้ระยะสั้น 212,993 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.14 ของยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ส่วนวิจัยนโยบายหนี้สาธารณะ สำนักนโยบายและแผน สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ โทร. 0 2265 8050 ต่อ 5512

ข่าวสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ+การบริหารจัดการหนี้ภาครัฐวันนี้

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2559

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 มิถุนายน 2559 มีจำนวน 5,924,055.53 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 42.83 ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,373,288.14 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่ไม่เป็น สถาบันการเงิน จำนวน 1,021,940.40 ล้านบาท หนี้ของรัฐวิสาหกิจที่เป็นสถาบันการเงิน (รัฐบาลค้ำประกัน) จำนวน 517,517.92 ล้านบาท และหนี้หน่วยงานของรัฐ จำนวน 11,309.07 ล้านบาท และเมื่อเปรียบ

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือน พ.ค. 2559 และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดย สบน. ประจำเดือน พ.ค. 2559

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 พฤษภาคม 2559 มีจำนวน 5,977,353.33 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ...

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2559

สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 พฤษภาคม 2559 มีจำนวน 5,977,353.33 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 43.35 ของ GDP โดยแบ่งเป็น หนี้ของรัฐบาล จำนวน 4,415,020.02 ล้านบาท...

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ณ สิ้นเดือนเมษายน 2559

นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะ คงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 เมษายน 2559 มีจำนวน 6,050,595.88 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.09...

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2559

นางสุณี เอกสมทราเมษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ในฐานะรองโฆษกสำนักงานบริหาร หนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะ คงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 มีนาคม 2559 มีจำนวน 6,013,649.86...

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2559

นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 29 กุมภาพันธ์ 2559 มีจำนวน 6,005,787.17 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ...

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้างและผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ณ สิ้นเดือนมกราคม 2559

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 มกราคม 2559 มีจำนวน 5,980,660.67 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.06...

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐ ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 31 ธันวาคม 2558 มีจำนวน 6,005,124.74 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44...

รายงานสถานะหนี้สาธารณะคงค้าง ณ สิ้นเดือนพฤศจิกายน 2558 และผลการบริหารจัดการหนี้ภาครัฐที่ดำเนินการโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ

นายธีรัชย์ อัตนวานิช รองผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ ได้แถลงข่าวการดำเนินงาน ของสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ดังนี้ หนี้สาธารณะคงค้าง ณ 30 พฤศจิกายน 2558 มีจำนวน 5...