ปภ.เตือน 44 จังหวัดรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ระหว่างวันที่ 23-24 ก.พ. 54

23 Feb 2011

กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--ปภ.

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 44 จังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือและภาคตะวันออกแจ้งเตือนประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสภาพอากาศแปรปรวน ฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรงในช่วงวันที่ 23-24 กุมภาพันธ์ 2554 ซึ่งอาจทำให้บ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย พร้อมสั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง ตลอดจนจัดเตรียมอุปกรณ์ เครื่องมือให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ทันทีที่เกิดภัย

นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนชื้น ทำให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่เสี่ยงภัยบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคเหนือ และภาคตะวันออก รวม 44 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร อุดรธานี หนองคาย เลย หนองบัวลำภู อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร กำแพงเพชร พิจิตร นครสวรรค์ อุทัยธานี พิษณุโลก ตาก สุโขทัย เพชรบูรณ์ อุตรดิตถ์ ลำปาง เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตและสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวดำเนินการแจ้งเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเตรียมการป้องกันอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง ซึ่งอาจสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้

โดยหมั่นติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด พร้อมสั่งการให้มิสเตอร์เตือนภัยในพื้นที่เสี่ยงภัยเฝ้าระวังสถานการณ์ภัยแจ้งเตือนประชาชน และรายงานสถานการณ์ภัยแก่ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยระดับจังหวัด อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งจัดเตรียมเครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ให้อยู่ในสภาพพร้อมให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที และหากเกิดสถานการณ์รุนแรงให้ดำเนินการตามขั้นตอนของแผนป้องกันภัยของจังหวัดและอำเภอ

นายวิบูลย์ กล่าวเตือนประชาชนที่อาศัยในพื้นที่เสี่ยงภัยทั้ง 44 จังหวัดเตรียมความพร้อมรับมือพายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง โดยติดตามรับฟังพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดเก็บสิ่งของที่สามารถปลิวไปตามลมได้ไว้ในที่มิดชิด ตรวจสอบบ้านเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง รวมถึงตัดแต่งกิ่งไม้บริเวณรอบบ้าน เพื่อป้องกันการโค่นล้มทับบ้านเรือนได้รับความเสียหาย หลีกเลี่ยงการหลบพายุฝนฟ้าคะนองใต้ต้นไม้ ใกล้ป้ายโฆษณา เสาไฟฟ้า หรือสิ่งปลูกสร้างที่ไม่แข็งแรงเพราะอาจถูกล้มทับได้ รวมถึงไม่อยู่ใกล้วัตถุที่เป็นสื่อนำไฟฟ้าและไม่สวมใส่เครื่องประดับ เช่น ทองคำ เงิน เป็นต้น งดเว้นการใช้โทรศัพท์มือถือและเครื่องมือสื่อสารทุกชนิดบริเวณที่โล่งแจ้ง เพราะขณะเกิดพายุฝนฟ้าคะนอง อาจเกิดฟ้าผ่า ทำให้ได้รับอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนเกษตรกรให้จัดทำที่ค้ำยันต้นไม้หรือที่กำบัง เพื่อป้องกันพืชผลทางการเกษตรได้รับความเสียหาย สุดท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสภาพอากาศแปรปรวน พายุฝนฟ้าคะนอง และลมกระโชกแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทางสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป