คุณค่าที่เพิ่มขึ้น: 911 Black Edition ใหม่ รุ่นพิเศษจำนวนจำกัด

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--27 ม.ค.--เอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส

สตุ้ดการ์ด. ภายในฤดูใบไม้ผลิปี 2011 โลกของ 911 จะมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้นด้วยการนำเสนอรถใหม่รุ่นพิเศษที่มีขุมพลังเครื่องยนต์ 345 แรงม้า (254 กิโลวัตต์) ขนาดเครื่องยนต์ 3.6 ลิตรนั่นคือรุ่น 911 Black Edition ซึ่งมีคุณสมบัติของแพ็คเกจอุปกรณ์ตกแต่งที่มีทั้งรุ่นคูเป้และรุ่นเปิดประทุนอีกด้วย และแน่นอนรุ่นนี้มีเพียงสีดำเท่านั้น ด้วยความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่เหมือนใครและสนนราคาที่คุ้มค่าทำให้ 911 คาเรร่ารุ่น 911 Black Edition มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีจำนวนจำกัดอยู่ที่ 1,911 คันเท่านั้นและราคาค่าใช้จ่ายต่างๆ จะประมาณเดียวกันกับรุ่นที่เป็นรุ่นพื้นฐานและรุ่นดั้งเดิม โดยทั้งสองรุ่น 911 Black Edition จะทำการเปิดตัวเข้าสู่ตลาดโลกอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน 2011 นี้ 911 Black Edition ได้รับการพ่นสีดำธรรมดามาเป็นสีมาตรฐานและมีสีดำ Basalt black metallic มาให้เลือกเป็นอุปกรณ์เลือกติดตั้งด้วยเช่นกัน หลังคาเปิดประทุนจะเป็นผ้าสีดำ อีกทั้งล้อ 19 นิ้ว 911 Turbo II สีดำเพื่อเพิ่มความดุดันและสง่างามให้กับภายนอกตัวรถเข้าไปอีกด้วย นอกจากนี้ขอบล้อยังได้รับการออกแบบให้มองเห็นตัวเบรคคาลิปเปอร์สีดำ 4 ลูกสูบ แบบอลูมิเนียมโมโนบล๊อคที่ชัดเจน ฟิล์มสีเทาบนกระจกหน้าด้านบนยังติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานให้กับรุ่น 911 Black Edition นี้ เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและคมชัดด้วยเช่นกัน ตัวอักษร “Black Edition” สีดำที่สลักอยู่บนกาบประตูเหล็กแสตนเลสยังช่วยทำให้เห็นถึงความมีคุณภาพของการออกแบบภายในที่สูงและเน้นให้เห็นถึงความเป็นรถสปอร์ตอย่างแท้จริง สีภายในเป็นสีรูปแบบเดียวกับสีภายนอกเพื่อความต่อเนื่องที่ลงตัวอีกด้วย เบาะนั่งแบบหนังบางส่วนคุณภาพสูงได้รับการติดตั้งมาเป็นมาตรฐาน หรือหากต้องการยังสามารถเลือกตกแต่งด้วยการติดตั้งหนังเพิ่มเติมให้กับภายในของตัวรถได้อีกด้วย พวงมาลัยจะเป็นแบบพวงมาลัยสปอร์ต หน้าปัดต่างๆ ยังคงอยู่ในสีดำ บนฝาปิดช่องเก็บสัมภาระนั้นจะมีป้ายที่ติดเพื่อบ่งบอกถึงความเป็นรุ่นที่มีจำนวนจำกัดของ 911 Black Edition คันนี้อีกด้วย ในทางกลับกันการตกแต่งบนแผงกระดานบนรถ คันเกียร์ หรือช่องระบายอากาศจะได้รับการตกแต่งด้วยอลูมิเนียมเพื่อเพิ่มความโดดเด่นที่คมชัด คอนโซลกลางทางด้านหลังยังเป็นสีที่ใช้กับสีภายนอกเช่นเดียวกัน ไฮไลต์ของความเป็นอคูสติกในรุ่น 911 Black Edition นั้นได้มาจากระบบ BOSE ? Surround Sound - System ซึ่งติดตั้งมาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานและมีการทำงานประสานกันเป็นพิเศษกับการตกแต่งภายในที่ประกอบด้วยลำโพง 13 ตัว (12 ตัวในรุ่นเปิดประทุน) ที่ใช้งานร่วมกับซับวูฟเฟอร์และลำโพงกลาง รวมทั้งช่องขยายเสียงดิจิตอล 7 ช่องทางที่ให้ผลผลิตรวมถึง 385 วัตต์ เพื่อให้ประสบการณ์ของเสียงที่ดีเยี่ยม ระบบ PCM หรือ Porsche Communication Management ติดตั้งมากับรถทั้งรุ่นคูเป้และรุ่นเปิดประทุน ระบบค้นหาเส้นทางแบบโมดูลจีพีเอส (GPS) มาเป็นมาตรฐานใน 911 Black Edition เช่นเดียวกัน อุปกรณ์แพ็คเกจ 911 Black Edition ยังเพิ่มประสิทธิภาพด้วยการติดตั้งแพ็คเกจเพิ่มเติมให้กับรถด้วย อาทิเช่น ระบบ Park Assist, ระบบ Cruise Control, ระบบ Automatic anti-dazzle interior and exterior mirrors และระบบ Rain sensor เทคโนโลยีในรุ่น 911 Black Edition นี้จะสอดคล้องกับรุ่นคาเรร่าที่มีมาตรฐาน : ภายใต้ฝาหลังนั้นจะพบกับเครื่องยนต์หกกระบอกแบน ซึ่งเป็นเครื่องยนต์มาตรฐานของรุ่นคาเรร่าที่สามารถผลิตขุมพลังแรงม้าสูงสุดได้ถึง 345 แรงม้า (245 กิโลวัตต์) ที่รอบเครื่องยนต์ 6,500 รอบต่อนาทีจาก 3,614 ซีซี ผนวกเข้ากับการทำงานของเกียร์ 6 สปีด จะทำให้คาเรร่าคันนี้สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 289 กิโลเมตร / ชั่วโมง(180 ไมล์ต่อชั่วโมง) ในทั้งสองรุ่น อัตราการเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในรุ่นคูเป้นั้นใช้เวลาแค่เพียง 4.9 วินาทีและสำหรับรับรุ่นเปิดประทุนนั้นใช้เวลาเพียงแค่ 5.1 วินาทีเท่านั้น นอกเหนือจากสมรรถนะที่น่าประทับใจแล้วระดับการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงนั้นยังมีอัตราที่ดีอีกด้วย : รุ่นคูเป้นั้นบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิง (NDEC) รวมที่ 10.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ส่วนรุ่นเปิดประทุนของคาเรร่านี้บริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีก 10 ลิตรเท่านั้น อุปกรณ์พิเศษทางเทคนิคต่างๆ ในรุ่น 911 Black Edition นี้จะเหมือนกับรุ่นคาเรร่าอื่นๆ รวมไปถึงระบบเกียร์อัจฉริยะ Porsche-Doppelkupplungsgetriebe (PDK) อีกด้วย ซึ่งระบบเกียร์อัจฉริยะคุณภาพและสมรรถนะดีเยี่ยม PDK นี้สร้างบันทึกหน้าใหม่ให้กับตลาดรถยนต์สปอร์ตด้วยสมรรถนะที่เป็นเลิศของระบบเกียร์ 7 จังหวะ อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็ว โดยที่การไหลลื่นของขุมพลังนั้นจะไม่มีการสะดุดอีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นสิ่งเหล่านี้ยังช่วยในการประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงที่ 9.8 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร สำหรับรุ่น คูเป้และ 9.9 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ในรุ่นเปิดประทุน ซึ่งถือได้ว่าเป็นอัตราที่ลดลงถึง 10 ลิตรเลยทีเดียว อัตราเร่งนั้นทำได้อย่างดีเยี่ยมเช่นกันเมื่อติดตั้งเกียร์ PDK เข้าไปนั่นคือ รุ่นคูเป้ใช้เวลาเพียงแค่ 4.7 วินาที และรุ่นเปิดประทุนเพียงแค่ 4.9 วินาทีเท่านั้น การตอบสนองสามารถเพิ่มเติมให้ดีขึ้นได้ด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เสริมแพ็คเกจ Sport Chrono Plus เข้าไป ระบบ Launch Control ทำงานเพื่อการเร่งเครื่องจากการหยุดนิ่งด้วยความเร็วสูงสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยกลยุทธ์การเปลี่ยนเกียร์ที่รวดเร็วแบบรถสปอร์ต เพื่อเพิ่มอรรถรสการขับขี่แบบสปอร์ตด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่งระบบ Launch Control นี้ยังช่วยลดอัตราเร่งเครื่องยนต์สูงสุดลงได้ถึง 0.2 วินาที หากติดตั้งระบบเกียร์ PDK เลยทีเดียว ความเป็นสปอร์ตและความสะดวกสบายของรุ่น 911 Black Edition นี้สามารถเพิ่มขึ้นได้หากต้องการเช่นเดียวกัน อาทิเช่นด้วยระบบ Porsche Active Suspension Management (PASM) จะทำให้ตัวถังนั้นมีความเป็นสปอร์ตมากขึ้นด้วยการลดตัวรถลงถึง 20 มิลลิเมตร หรือเพิ่มประสิทธิภาพการเบรคด้วยการติดตั้งอุปกรณ์เสริมเลือกติดตั้ง Porsche Ceramic Composite Brake (PCCB) ได้เช่นเดียวกัน สำหรับประเทศไทย ท่านสามารถค้นหาหรือสอบถามเกี่ยวกับยนตรกรรมหรูอย่าง 911 Black Edition รุ่นพิเศษที่มีจำนวนจำกัดนี้ได้จาก บริษัท เอเอเอส ออโต้เซอร์วิส จำกัด ผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยเท่านั้น ที่พร้อมศูนย์บริการที่มีมาตรฐานและทีมบริการ (Service Teams) ที่มีประสบการณ์ ซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากทางโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมันนีโดยตรง ที่พร้อมให้บริการรถปอร์เช่ของท่าน และซื้อรถยนต์ปอร์เช่จากทางเอเอเอสเท่านั้นที่สามารถได้สิทธิ์การรับประกันจากโรงงานปอร์เช่ประเทศเยอรมนีนาน 9 ปี ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรถยนต์ปอร์เช่ 911 Black Edition ได้ที่แผนกขาย โทร. 02-522-6655 ต่อ 101-102 หรือเยี่ยมชมเว็บไซด์ได้ที่ www.porsche.co.th หมายเหตุ: ผู้สื่อข่าวสามารถเข้าไปค้นหาข่าวสารและรูปภาพของปอร์เช่ 911 Black Edition ได้ใน Porsche Press Database ที่เว็บไซด์ https://presse.porsche.de สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวเครื่องยนต์+เอกลักษณ์วันนี้

โรยัล เอ็นฟีลด์ เปิดตำนานบทใหม่ครั้งแรกในไทย! ส่ง Royal Enfield Classic 650 จุดประกายตำนานคลาสสิก พร้อมขุมพลัง 650 Twin

Classic 650 ใหม่ เติมเต็มคาแรกเตอร์ งานประกอบ และเสน่ห์ในแบบฉบับคลาสสิก ถ่ายทอดทุก DNA ของตระกูล Classic ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ 650 Twin ที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก Royal Enfield Classic 650 พร้อมวางจำหน่ายแล้ววันนี้ในประเทศไทย ราคาเริ่มต้น 249,900 บาท ที่โชว์รูมทั่วประเทศ Royal Enfield (โรยัล เอ็นฟีลด์) ผู้นำระดับโลกในตลาดมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง (250cc-750cc) ประกาศเปิดตัว Royal Enfield Classic 650 อย่างเป็นทางการในประเทศไทย มอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ที่ถ่ายทอด DNA อันเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล Classic

ปรับไลน์อัพใหม่ ใส่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็... มาสด้าเปิดตัว NEW MAZDA CX-30 ESSENTIAL จัดสรรอุปกรณ์ใหม่ เพิ่มรุ่นเริ่มต้น — ปรับไลน์อัพใหม่ ใส่เทคโนโลยีสกายแอคทีฟเต็มคัน ราคาใหม่ 899,000 บาท คุ้มค่าเก...

ในงาน Security Analyst Summit 2025 แคสเปอ... การโจรกรรมเทเลเมติกส์ครั้งใหญ่ แคสเปอร์สกี้พบช่องโหว่คุกคามความปลอดภัยของรถยนต์ — ในงาน Security Analyst Summit 2025 แคสเปอร์สกี้ได้นำเสนอผลการตรวจสอบความ...

อาจารย์ภาควิชาเคมีเทคนิค คณะวิทยาศาสตร์ จ... MICROCAP เครื่องผลิตออกซิเจนด้วยพลังจุลสาหร่าย นวัตกรรมเพิ่มคุณภาพอากาศให้คนเมือง โดย อ.จุฬาฯ — อาจารย์ภาควิชาเคมีเทคนิค คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ คิดค้นเครื่อ...

MPV เรือธงที่พร้อม 'ตอบโจทย์ทุกจังหวะชีวิ... เกีย เซลส์ (ประเทศไทย) เปิดตัว The new Kia Carnival HEV 7-seater — MPV เรือธงที่พร้อม 'ตอบโจทย์ทุกจังหวะชีวิตของครอบครัว' เปิดราคาเริ่มต้นที่ 2,499,000 บา...