ก.ล.ต. กระตุ้นบริษัทหลักทรัพย์เตรียมพร้อมรับการแข่งขันจากการเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียน

28 Jan 2011

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--ก.ล.ต.

นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวภายหลังการประชุมประจำไตรมาสกับสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ถึงความคืบหน้าในเรื่องการพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์ การยกระดับการให้บริการของบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ให้เป็นมาตรฐานสากล รวมถึงการพัฒนาของสมาคมสู่ความเป็นองค์กรกำกับดูแลสมาชิก ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อทั้งธุรกิจหลักทรัพย์ ผู้ลงทุน และตลาดทุนโดยรวม สรุปได้ดังนี้

1. การเตรียมความพร้อมของ บล. สู่การเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียน

ก.ล.ต. ได้เน้นย้ำให้สมาคมศึกษากฎระเบียบของประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งหากสมาคมพบอุปสรรคให้รีบเสนอ ก.ล.ต. เพื่อนำไปหารือในการประชุม ก.ล.ต. อาเซียน ( ASEAN Capital Markets Forum : ACMF)

และที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้สื่อสารทำความเข้าใจกับ บล. มาเป็นระยะ โดยจัดประชุมกับ บล. ตามลักษณะโครงสร้างธุรกิจ เพื่อซักซ้อมความเข้าใจและรับฟังความคิดเห็นจาก บล. ทุกแห่ง ซึ่งพบว่า บล. ส่วนใหญ่

ได้มีการวางแผนปรับตัวรองรับการแข่งขันจากการเปิดเสรีและการเชื่อมโยงตลาดทุนที่กำลังจะมาถึงในระยะเวลาอันใกล้ อย่างไรก็ดี บล. บางกลุ่มยังไม่ได้เตรียมความพร้อมในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากต้องรอนโยบายจากบริษัทแม่ ก.ล.ต. จึงได้แจ้งเตือนให้ บล. เร่งพิจารณาและให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เพราะท้ายที่สุด บล. จะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

ทั้งนี้ ในส่วนของสมาคม บริษัทสมาชิกได้ร่วมศึกษารายละเอียดกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเกี่ยวกับระบบการซื้อขาย แผนการตลาด และรูปแบบของการประกอบธุรกิจที่จะเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียน

ทั้งนี้ ที่ประชุมมีความเห็นว่า เพื่อให้การขับเคลื่อนในส่วนของประเทศไทยดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควรจะมีการจัดตั้งคณะทำงานซึ่งประกอบไปด้วยผู้แทนจาก ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ฯ และสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อพิจารณาเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงตลาดทุนอาเซียน นอกจากนี้ ก.ล.ต. ได้แจ้งให้ บล. รวบรวมปัญหาอุปสรรคตลอดจนข้อคิดเห็นต่าง ๆ เพื่อเสนอให้สมาคมพิจารณาก่อนเสนอ ก.ล.ต. ต่อไป

2. การทำความรู้จักลูกค้าก่อนแนะนำการลงทุน

เพื่อให้ บล. สามารถให้คำแนะนำในหลักทรัพย์แก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสม สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ลูกค้าแต่ละรายรับได้ ซึ่งจะช่วยลดโอกาสการลงทุนผิดพลาด สมาคมจึงจะกำหนดแบบสอบถามเพื่อให้บล. ใช้ในการทำความรู้จักลูกค้าและแนะนำประเภทตราสารการลงทุนให้แก่ลูกค้าได้อย่างเหมาะสม (KYC / suitability) โดยสมาคมมีเป้าหมายที่จะให้ บล. ทุกแห่งเริ่มใช้แบบสอบถามนี้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2554

3. การสนับสนุนสมาคมไปสู่ SRO

สมาคมได้ยืนยันเจตนารมณ์ที่จะยกระดับเป็นองค์กรกำกับดูแลตนเอง (Self-Regulatory Organization: SRO) เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจหลักทรัพย์และสมาชิกของสมาคม รวมทั้งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนโดยทั่วไป ซึ่ง ก.ล.ต. พร้อมสนับสนุนให้สมาคมทำหน้าที่ SRO และในระยะต่อไปจะเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายให้รองรับการปฏิบัติหน้าที่ของสมาคมในฐานะ SRO ได้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งจะทำให้ SROมีบทบาทหน้าที่ในการกำกับดูแลสมาชิกได้ตามที่ ก.ล.ต. มอบหมาย

นายธีระชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การเชื่อมโยงกับตลาดทุนอาเซียนเป็นเรื่องสำคัญที่ ก.ล.ต. และสมาคมจะต้องกระตุ้นให้ บล. มีการเตรียมความพร้อมและยกระดับหลักเกณฑ์การกำกับดูแลให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล

ในขณะเดียวกัน ก.ล.ต. พยายามที่จะลดอุปสรรค หาช่องทางและส่งเสริมให้ บล. ประกอบธุรกิจและมีแหล่งรายได้หลากหลายช่องทางมากขึ้น ซึ่ง บล. เองก็จะนิ่งเฉยไม่ได้ เพราะการแข่งขันในธุรกิจหลังจากการเปิดเสรีจะต้องมีความรุนแรงมากขึ้นอย่างแน่นอน”

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ นายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ กล่าวว่า “ในการประชุมครั้งนี้ สมาคมได้เสนอร่างข้อบังคับให้ ก.ล.ต. พิจารณาทั้งในส่วนโครงสร้างและการดำเนินงานของสมาคมที่ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการเป็น SRO ซึ่ง ก.ล.ต. ได้ให้ข้อคิดเห็นและความช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ลดข้อกังวลของสมาคม โดยสมาคมจะเดินหน้าในเรื่องนี้ต่อไปและมีแผนที่จะทำหน้าที่ SRO ภายในปี 2554 นี้”

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit