IVL ประกาศรายได้ 9 เดือน 71,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เหตุหลักจากการรับรู้กำไรในการลงทุน

11 Nov 2010

กรุงเทพฯ--11 พ.ย.--อินโดรามา เวนเจอร์

บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์ (IVL) ผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์ชั้นนำของโลก ประกาศผลกำไรสุทธิในรอบ 9 เดือนปีนี้ ที่6,552 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้รวมเป็น 71,739 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21 เปอร์เซ็นต์ และ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBIDA) ในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 13 เปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ 9,543 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ยอดขายเพิ่มขึ้น 16 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 20,422 ล้านบาท โดยรายได้ในไตรมาสที่ 3 ของปีนี้เท่ากับ 3,090 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 412 เปอร์เซ็นต์ จาก 573 ล้านบาทในไตรมาส 3 ของปีที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 40 เปอร์เซ็นต์ จากไตรมาส 2 ของปีนี้

รายได้จากการขาย PET ในไตรมาส 3 ของปีนี้เพิ่มขึ้น 32 เปอร์เซ็นต์ จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากปริมาณการขาย และราคาขายที่เพิ่มขึ้น รายได้ที่เพิ่มขึ้นมีส่วนสำคัญมาจากโครงการลงทุน กรีนฟิลด์ ในประเทศสหรัฐอเมริกา, Alphapet ซึ่งได้เริ่มทำการผลิตทั้งสองสายพานในไตรมาสที่ผ่านมา พร้อมกับความต้องการ PET ในตลาดโลกที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยในส่วนของธุรกิจ PET มีกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBIDA) ในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น 17 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน

ในส่วนธุรกิจเส้นใยโพลีเอสเตอร์ และเส้นด้ายขนสัตว์ IVL มีรายได้เพิ่มขึ้น 24 เปอร์เซ็นต์ และ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBIDA) เพิ่มขึ้น 54 เปอร์เซ็นต์ ในระยะเวลา 9 เดือนแรกของปีนี้ เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยหลักจากการเพิ่มขึ้นของกำไรเบื้องต้น (margin) ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการเพิ่มมูลค่า (value added) ให้กับผลิตภัณฑ์ของบริษัท ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนที่แข็งค่าขึ้นและความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นด้วย โดยเฉพาะการดีดตัวของราคาเส้นใยฝ้ายส่งผลให้เกิดความต้องการเส้นใยโพลีเอสเตอร์มากขึ้นเพื่อนำมาใช้ทดแทนในการผลิต

ธุรกิจ PTA มีกำไรเบื้องต้นที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่มากขึ้น ขณะที่กำลังการผลิตนั้นเพิ่มสูงขึ้นถึง 101 เปอร์เซ็นต์ แม้ว่ารายได้และ กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีเงินได้ ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBIDA) ทรงตัวในช่วงเวลา 9 เดือน แต่ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมานั้นได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมา 2 ของปีนี้ โดยในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา IVL ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้น ใน บมจ. ทีพีที ปิโตรเคมิคอล (TPT) จาก 54.7 เปอร์เซ็นต์ เป็น 99.9 เปอร์เซ็นต์ ด้วยเงินลงทุน 2,896 ล้านเหรียญ (95 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งเป็นการลงทุนที่มีส่วนในการผลักดันให้เกิดกำไรสูงสุด

นายอาลก โลเฮีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร IVL เปิดเผยว่า “การลงทุนที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นถึงมูลค่าที่เพิ่มขึ้น และเราเองยังรู้สึกยินดีที่ได้เห็นผลตอบแทนในการลงทุน (ROE) ในช่วงระยะเวลา 9 เดือน อยู่ที่ 39 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเรายังจะเดินหน้าขยายธุรกิจที่คุ้มค่า รวมทั้งให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมด้วยการเพิ่มปฏิบัติการรีไซเคิลให้เป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของเรา ในปัจจุบันเราได้ดำเนินการรีไซเคิล 36,000 tpa PET ให้เป็นวัตถุดิบรีไซเคิล (Flake to Resin) ในโรงงาน AlphaPet ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถนำไปใช้ในสินค้าประเภทเครื่องดื่ม ที่มีความต้องการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในหมวดสินค้าอุปโภคบริโภค โดยปฏิบัติการในโครงการนี้คาดว่าจะสามารถดำเนินการได้อย่างสมบูรณ์ในไตรมาส 4 ของปี พ.ศ. 2554”

เกี่ยวกับ บมจ. อินโดรามา เวนเจอร์

บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศไทย (ตัวย่อใน Bloomberg คือ IVL TB) เป็นผู้ผลิตโพลีเอสเตอร์ครบวงจรชั้นนำจากประเทศไทย พร้อมด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่งอยู่ทั่วโลก และมีฐานการผลิตกระจายอยู่ทั้งในเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ผลิตภัณฑ์ของบริษัทถูกนำไปใช้โดยผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์รายใหญ่ ทั้งในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร เครื่องดื่ม เครื่องใช้ในครัวเรือน สินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ ยานยนต์ เครื่องนุ่งห่ม และสินค้าอุตสาหกรรม ผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทได้แก่ PTA เม็ดพลาสติก PET และเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ซึ่งจัดจำหน่ายไปทั่วโลก ไอวีแอลมีพนักงานประมาณ 3,500 คนทั่วโลก และมียอดขายรวมในปี 2552 เท่ากับ 2.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ