มท.1 สั่งการตั้ง War Room บรรเทาภัยน้ำท่วม

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--ปภ.

กระทรวงมหาดไทย จัดตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอทุกภัย วาตภัย และดินถล่ม ปี 2553 ในส่วนกลาง ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และศูนย์ปฏิบัติการฯ ณ จังหวัดนครราชสีมา พร้อมประสานให้จังหวัดที่ประสบภัยให้จัดจุดรับการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างชัดเจน จัดสรรสิ่งของช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยให้เป็น จัดเตรียมพื้นที่รองรับการอพยพ และวางระบบการอพยพผู้ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย รวมถึงเร่งจัดหาเครื่องอุปโภค บริโภคแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้น นายสุรพล พงษ์ทัดศิริกุล รองปลัดกระทรวงมหาดไทยหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านพัฒนาเมืองและสาธารณภัย กล่าวว่า ในปี 2553 ประเทศไทยเกิดสถานการณ์อุทกภัยครั้งใหญ่ รวม 5 ครั้ง โดยสถานการณ์อุทกภัยครั้งรุนแรงที่สร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างมาก ครั้งที่ 4 ช่วงระหว่างวันที่ 10 กันยายน – 17 ตุลาคม 2553 พื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 17 จังหวัด 42 อำเภอ 267 ตำบล 785 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 21,791 ครอบครัว 54,841 คน ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 12 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร ชัยนาท อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และเพชรบุรี ครั้งที่ 5 ซึ่งเป็นสถานการณ์อุทกภัยครั้งล่าสุด ที่สร้างความเสียหายอย่างหนักและถือว่าวิกฤติที่สุดในรอบหลายปี พื้นที่ประสบอุทกภัย รวม 13 จังหวัด 67 อำเภอ 381 ตำบล ผู้เสียชีวิต 7 ราย ได้แก่ ระยอง ตราด สระแก้ว นครราชสีมา ปราจีนบุรี ลพบุรี นครสวรรค์ ชัยภูมิ สระบุรี เพชรบูรณ์ นครนายก สุพรรณบุรี และศรีสะเกษ นอกจากนี้ ภาวะฝนตกหนักยังทำให้น้ำป่า ไหลหลากเข้าท่วมถนนไม่สามารถสัญจรมาได้ 15 สายใน 4 จังหวัด ดังนี้ นครราชสีมา 9 สาย นครสวรรค์ 1 สาย ลพบุรี 4 สาย สระแก้ว 1 สาย จากการวิเคราะห์สาเหตุที่ทำให้เกิดสถานการณ์อุทกภัยในครั้งนี้ เนื่องจากเกิดภาวะฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเข้าขั้นวิกฤติ มีปริมาณน้ำเกินระดับกักเก็บ โดยเฉพาะเขื่อนลำพระเพลิง เขื่อนลำตะคอง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จนต้องเปิดประตูระบายน้ำอย่างเต็มที่ เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่พื้นที่ท้ายเขื่อน จึงทำให้หลายพื้นที่ต้องประสบอุทกภัยอย่างหนัก โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมา ลพบุรี ปราจีนบุรี เกิดสถานการณ์อุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดในรอบหลายปี สำหรับการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย กระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัย ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยเร็วที่สุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น โดยจัดตั้ง ศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย และดินถล่มปี 2553 ส่วนกลาง ณ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อเป็นศูนย์กลางในการบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานการช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย ส่วนในระดับพื้นที่ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฯ ณ จังหวัดนครราชสีมา พร้อมระดมกำลังเจ้าหน้าที่นำเครื่องมือกู้ภัย รถกู้ภัย รถผลิตน้ำดื่ม เรือท้องแบนจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดในพื้นที่ที่ประสบภัยและพื้นที่ใกล้เคียง เข้าสนับสนุนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่นับตั้งแต่เกิดเหตุ นอกจากนี้ได้นำถุงยังชีพ เครื่องอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค สิ่งของสำรองจ่าย เครื่องนุ่งห่ม น้ำสะอาดไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบภัย อีกทั้งจัดเต็นท์พักอาศัยชั่วคราว สุขาเคลื่อนที่ รถน้ำดื่มออกให้บริการ แก่ผู้ประสบภัย เพื่อให้ผู้ประสบภัยสามารถช่วยเหลือและดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเอง ในระยะแรก โดยขณะนี้การช่วยเหลือในด้านต่างๆ ได้ทยอยเข้าถึงผู้ประสบภัยแล้ว แต่ยังมีบางจุดที่การช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึง เนื่องจากการเดินทางเป็นไปด้วยยากลำบาก กระทรวงมหาดไทย จึงได้ประสานให้จังหวัดที่ประสบภัย ดำเนินการจัดจุดรับการช่วยเหลือหรือ จุดอำนวยความสะดวกแก่หน่วยงาน ที่ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างชัดเจน จัดสรรสิ่งของช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยให้เป็นระบบ หากประเมินสถานการณ์แล้ว คาดว่า สถานการณ์น้ำท่วมขังเป็นเวลานาน ให้จัดเตรียมพื้นที่รองรับการอพยพ และวางระบบการอพยพผู้ประสบภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย เร่งจัดหาเครื่องอุปโภค บริโภค โดยเฉพาะอาหารแห้งและน้ำดื่มแจกจ่ายบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยในเบื้องต้น ทั้งนี้ ในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จังหวัดได้ยึดแนวทางปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังฯเป็นหลักในการดำเนินการ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเฉพาะหน้าของผู้ประสบภัยตามสภาพเหตุการณ์และความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ สำหรับการช่วยเหลือในระยะต่อไป จะได้เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อจ่ายเงินช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลัง เช่น ค่าจัดการศพ แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต รายละ ไม่เกิน 25,000 บาท ค่าซ่อมแซมบ้าน กรณีเสียหายบางส่วน ไม่เกินหลังละ 20,000 บาท บาท กรณีเสียหายทั้งหลัง ไม่เกินหลังละ 30,000 บาท ซึ่งแต่ละจังหวัดมีงบประมาณช่วยเหลือ 50 ล้านบาท หากไม่เพียงพอสามารถ ขอขยายวงเงินตามความจำเป็นและเหมาะสมมายัง ปภ. นอกจากนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ จะได้มีการพิจารณามาตรการพิเศษในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ใน 4 ประเด็นหลัก ได้แก่ 1.พิจารณายกเว้นกฎระเบียบการเบิกจ่ายต่างๆ เพื่อจะเร่งรัด และอำนวยความสะดวกให้หน่วยงานราชการให้สามารถเบิกจ่ายงบประมาณในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที 2.พิจารณาเพิ่มงบทดรองราชการของจังหวัดจาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท เพราะสถานการณ์จำเป็นรุนแรง จึงต้องใช้งบประมาณในการช่วยเหลือมากขึ้น 3. พิจารณาให้มีหน่วยงานประสานงานด้านการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ และ 4. กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนเป็นระยะๆ เพื่อให้ประชาชนได้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยตลอดเวลา ทั้งนี้ หากที่ประชุม ครม. ได้เห็นชอบมาตรการพิเศษดังกล่าวข้างต้นแล้ว กระทรวงมหาดไทยจะได้ประสานจังหวัดที่ประสบภัยดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนดังกล่าวต่อไป เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วและทั่วถึง กระทรวงมหาดไทยขอฝากเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ประสบอุทกภัย ให้หลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำในที่น้ำท่วม ปฏิบัติตามคำแนะนำจากหน่วยงานของรัฐอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำจับปลาในบริเวณที่น้ำท่วมขังหรือทางน้ำไหลผ่าน เพราะกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากอาจพัดจมน้ำเสียชีวิต ตลอดจนเพิ่มความระมัดระวังโรคติดต่อที่มักเกิดในช่วงน้ำท่วมขัง รักษาสุขอนามัยโดยเฉพาะในด้านการขับถ่าย ให้เก็บใส่ถุงที่ปิดมิดชิด จะช่วยป้องกันเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายและโรคระบาดต่างๆ ในช่วงฤดูฝน ท้ายนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากสถานการณ์อุทกภัย สามารถติดต่อขอรับการช่วยเหลือได้ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต หรือทางสายด่วนนิรภัย 1784 เพื่อประสานและ ให้การช่วยเหลือต่อไป

ข่าวกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย+สุรพล พงษ์ทัดศิริกุลวันนี้

กทม. ยกระดับแผนปฏิบัติการป้องกันรับมือฝุ่น PM2.5 เข้มตรวจแหล่งกำเนิดฝุ่น ลดผลกระทบสุขภาพประชาชน

นางสาววรนุช สวยค้าข้าว รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม (สสล.) กทม. รักษาราชการแทน ผอ.สสล. กล่าวถึงความคืบหน้าการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการป้องกันและรับมือปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่า สสล. ได้บูรณาการความร่วมมือและการยกระดับปฏิบัติการแบบ Single Command โดย กทม. ได้ประสานความร่วมมือกับกระทรวงมหาดไทย (มท.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรมควบคุมมลพิษ กรมอุตุนิยมวิทยา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตาม วิเคราะห์ และประเมินสถานการณ์ฝุ่น PM2.5 แบบวันต่อวัน และบูรณาการข้อมูล hotspot

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หร... NT หนุนพัฒนาระบบแจ้งเตือนภัยแห่งชาติ "T-Alert" ยกระดับความปลอดภัยประชาชนทั่วประเทศ — บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เดินหน้าสนับสนุนการยกร...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย C... ชาวเชียงใหม่ อยุธยา อุดรฯ นครศรีฯ และกรุงเทพฯ เตรียมตัวให้พร้อม! — ทรู ร่วม ปภ. พร้อมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ระดับจังหวัด 13 พ.ค. นี้ พร้อมย้...

กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกั... NT ยืนยันความพร้อม ร่วมทดสอบระบบแจ้งเตือนภัย Cell Broadcast ในพื้นที่จริง — กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้...