“โอที” โบกมือลาวงการ ผันตัวเองสู่ผู้บริหารธุรกิจ คาร์แคร์ขั้นเทพ

29 Nov 2010

กรุงเทพฯ--29 พ.ย.--

เล่นเอาใจหายใจคว่ำไปเหมือนกัน เมื่อทราบว่าหนุ่มไฮโซหน้าหล่อ “ โอที รัฐธนินท์ จิรวัฒน์โภคิน ” เด็กหนุ่มอนาคตไกลที่เคยแจ้งเกิดจากละครเรื่อง ลูกไม้หลากสี,เทพสังวาลย์,วัยธรรม,กุลาแสนสวย และพิธีกรอีกหลายรายการ ใครเห็นหน้าหนุ่มคนนี้ต้องร้องอ๋อ เพราะความใสเตะตาของเขานั่นเอง แต่สุดท้ายน้องญิ๋งจะต้องเสียใจ เพราะทราบว่า “ หนุ่มโอที กำลังจะโบกมือลาวงการบันเทิง แล้วก็หันไปโลดแล่นอยู่ในวงการธุรกิจอย่างเต็มตัว

การผันตัวเองในครั้งนี้ของหนุ่ม “โอที” เจ้าตัวคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะต้องบริหารธุรกิจตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม ทั้งศูนย์บริการรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม ภายใต้ชื่อ กัสโต้ คาร์วอซ แอนด์ เซอร์ วิส รวมถึงหมู่บ้านจัดสรรค์โครงการบ้าน มรกต แลนด์ แอนด์ เฮาส์ งานนี้ผู้บริหารคนเก่งขอลงมือด้วยตัวเอง แล้วพูดคุยถึงความเป็นมาในธุรกิจนี้

“ งานในวงการบันเทิงนั้น ถามว่าเลิกเลยมั๊ย ก็คงไม่เชิงครับ เรียกว่า พักก่อนดีกว่า แล้วอนาคตค่อยว่ากันอีกที เพราะจริงๆแล้วตอนนี้ผมก็มีทำ พิธีกรอยู่รายการทางช่อง NBT อยู่บ้าง คือจริงๆแล้วงานในวงการบันเทิง ผมมองว่าเป็นโอกาสที่ดีครั้งหนึ่งในชีวิตเลยน่ะ ผมได้ทั้งเพื่อน ได้สังคมอีกแบบหนึ่ง ได้เรียนรู้ในเรื่องของความอดทนในการทำงาน รวมถึงการวางตัวกับคนรอบข้างด้วย แต่พอช่วงที่ผมเรียนจบปริญญาเมื่อประมาณเกือบ 2ปีที่แล้ว ผมก็นั่งคิดๆดูว่า จริงๆแล้วครอบครัวของผมเองก็เป็นครอบครัวของการทำธุรกิจมากกว่า ซึ่งผมก็จะต้องสานต่อทั้งในส่วนของธุรกิจ หมู่บ้านจัดสรรค์ หรือโรงงานผลิตไม้แปรรูปของครอบครัวด้วย ผมจึงไปเรียนรู้สักพักนึง และผมก็เกิดความคิดว่า ผมอยากทำธุรกิจสักอย่างเป็นของตัวเองบ้าง ”

แต่ที่สำคัญต้องเกี่ยวกับรถด้วย เพราะผมเป็นคนบ้ารถมากๆ ผมจึงขอทุนคุณพ่อมาทำธุรกิจคาร์แคร์ โดยตอนแรกพ่อก็ไม่สนับสนุนหรือมั่นใจในตัวผมนักหรอกครับ แต่ก็ให้ทุนมาในที่สุด เพราะอย่างน้อยก็คงถือเป็นประสบการณ์

การทำธุรกิจยากลำบากอย่างไรบ้าง?

จริงๆแล้วการทำงานทุกงาน หรือการทำธุรกิจมันมีอุปสรรค์ทั้งนั้นแหละครับ ยิ่งผู้ใหญ่หลายๆท่านบอกผมว่า ต้องเหนื่อยมากหน่อยน่ะ เพราะในช่วงที่ผมเปิดธุรกิจนี้เป็นช่วงหน้าฝน คนไม่ค่อยล้างรถด้วย และไหนจะเศรษฐกิจอีก แต่ผมก็ผ่านมันมาได้

แต่กว่าจะผ่านมาได้ก็เกือบแย่ครับ ก็ต้องขอบคุณทั้งกำลังใจและคำแนะนำจากทั้งพ่อและแม่ รวมถึงลูกค้าหลายๆท่านว่า เราลองทำแบบนั้นสิ แบบนี้สิ เราต้องสู้น่ะ! รวมถึงขอบคุณ สาขาการตลาดที่ผมจบมา เพราะความรู้ที่เรียนมา ผมนำมาใช้ทุกอย่างเลยครับ ตอนนี้ก็อยู่ในจุดที่ค่อนข้างพอใจมากขึ้น คือเรามียอดรถเข้ามาก อย่างวันเสาร์-อาทิตย์นี่ถึง 50 กว่าคันต่อวันเลยก็มี ซึ่งมันพิสูจน์ได้ว่า โปรโมชั่นต่างๆที่ผมค่อยๆคิดและปรับ รวมถึงมาตราฐานการบริการมันใช้ได้ครับ

จุดแข็งของที่นี่?

จุดแข็งของเรา จริงๆแล้วกัสโต้ คาร์วอซ เรามีสโลแกนว่า “ เป็นมากกว่าความสะอาด” คือนอกจากเรื่องของความสะอาด ที่เราต้องไม่พลาด รวมถึงการแบ่งชนิดของผ้าและฟองน้าในการทำความสะอาดรถแต่ละส่วนแล้ว เรายังมีบริการอื่นๆที่แตกต่างจากคาร์แคร์ทั้วไป ทั้งห้องรับรองที่สะอาดกว้างขวาง มีทีวีขนาดใหญ่, มี Free Wifi ,มีเก้าอี้นวดไฟฟ้า รวมถึงร้านกาแฟสดไว้บริการลูกค้าด้วย คือผมอยากให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการกับเราแล้ว รู้สึกประทับใจกับที่นี่ และ อยากจะกลับมาใช้บริการเราอีกครับ มันคือมาตรฐานการบริการครับ

ขั้นตอนการเข้ารับบริการเริ่มต้นจากอะไร?

เริ่มจากจุดแรกคือจุดรับรถก่อนเลย หลังจากนั้นก็เข้าในส่วนของการล้างรถ ที่เราจะมีการแยกฟองน้าในการทำความสะอาด จากนั้นขั้นตอนต่อไปคือการเช็ดแห้งที่มีการแยกประเภทผ้า รวมถึงการดูดฝุ่น จากนั้นเราจะมีพนักงานเช็คความสะอาดอีกทีก่อนปล่อยรถ ส่วนโปรแกรมอื่นๆก็เป็นโปรแกรมขัดเคลือบสี ลบรอยขนแมว ,โปรแกรมฟอกเบาะ-พรม ,โปรแกรมแก้ไขไฟหน้าเหลือง โดยเราใช้น้ายาพรีเมี่ยมยี่ห้อ Meguiar’s ทั้งหมด ดังนั้นโปรแกรมต่างๆเหล่านี้ จึงเป็นที่นิยมมากในกลุ่มลูกค้าของเรา เรียกว่าช่วงนี้มีจองคิวกันเลยครับ

เพื่อนๆนักแสดงแวะมาใช้บริการบ้างมั๊ย?

ก็มีเพื่อนๆมาใช้บริการบ้างครับ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นดารา-นักแสดงที่บ้านอยู่ละแวกแถวนี้ครับ แบบบางคนผมงงเลยว่า อ้าว! พี่เค้าบ้านอยู่แถวนี้หรอ เช่นคุณหญิง ณัชชา,พี่นุ้น เชิญยิ้ม,พี่จตุรงค์,พี่แดนนี้ ศรีภิญโญ,พี่ธงชัย ประสงค์สันติ นอกนั้นก็จะเป็นลูกค้าทั่วไปครับ มีทั้งพนักงานบริษัท เจ้าของธุรกิจ จนถึงทั้งตำรวจ ทหารก็มี คือหลากหลายอาชีพ และส่วนใหญ่ก็เป็นลักษณะปากบอกต่อทั้งนั้นเลยครับ ซึ่งผมก็รู้สึกดีน่ะครับ เพราะถือว่าการที่เราพยายามรักษาคุณภาพการบริการมันได้ผลครับ

มาดผู้บริหารขนาดนี้ ทำเองบ้างรึเปล่า?

ก็มีบ้างครับ แต่ถ้าผมลงไปเช็ดรถแล้ว ผมจะคอยบอกคอยสอนพนักงานว่า จุดไหนใช้ได้แล้ว จุดไหนยังผิดพลาดอยู่ ให้เค้าค่อยๆปรับไป แต่หน้าที่หลักของผมจริงๆคงเป็นเรื่องของการ นั่งคิดโปรโมชั่นที่จะมาเล่นกับลูกค้าในแต่ละเดือนมากกว่า ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่จะให้ความสนใจมาก จนมีลูกค้าหลายๆท่านมาพูดกับผมเล่นๆว่า เดือนหน้าขอแบบโปรโมชั่นแรงๆเลยน่ะ

เอาวงการบันเทิงมาผนวกกับธุรกิจอย่างไรบ้าง?

คงจะเป็นเรื่องของความรับผิดชอบในการทำงาน และเรื่องภาพลักษณ์ในการทำงาน คือเราต้องสร้างภาพลักษณ์ให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นในตัวเราครับ แต่อีกสิ่งนึงที่สำคัญมาก คือเรื่องการบริหารลูกน้องให้ศรัทธาและเชื่อฟังเรา ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ฉนั้นบางครั้งเราต้องอดทนและใจเย็นมากๆครับ

วางเป้าหมายธุรกิจไว้อย่างไรบ้าง?

คือจริงๆแล้วตอนนี้ ผมดูแลธุรกิจอยู่สองตัวครับคือ หมู่บ้านจัดสรรค์ของคุณพ่อซึ่งกำลังจะขึ้นเป็นโครงการที่ 3 เร็วนี้แล้ว ส่วนในเรื่องของธุรกิจคาร์แคร์นั้น ตอนนี้คงเป็นเรื่องของการต่อยอดทางธุรกิจมากกว่า คือผมวางแผนไว้ว่า เร็วๆนี้จะขยายสาขาที่สองอยู่ที่ย่าน รังสิตครับ แล้วก็เปิดขายแฟรนไชด์ รวมถึงน้ายาโดยใช้แบรนด์ กัสโต้ ด้วย

เครดิต: นิตยสาร TV INSIDE คอลัมส์ Lifestyle ดารา

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit