โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง เปิดเกมรุกเต็มพิกัด ประกาศพร้อมบริการทั่วประเทศเป็นรายแรก รองรับการเติบโต ที่คาดว่าจะพุ่งสูงกว่า 40 %

17 Mar 2011

กรุงเทพฯ--17 มี.ค.--พี อาร์ โซลูชั่น

โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง เปิดเกมรุกเต็มพิกัดประกาศพร้อมบริการทั่วประเทศเป็นรายแรกรองรับการเติบโต ที่คาดว่าจะพุ่งสูงกว่า 40 %มั่นใจกวาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ในปี 54

โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง ตอกย้ำความเป็นผู้นำนวัตกรรมหลังคาที่สูงด้วยคุณสมบัติของส่วนประกอบที่แข็งแรง ทนทาน ปลอดสนิมยาวนาน พร้อมบริการแบบครบวงจร เดินเครื่องต่อเนื่อง หลังโกยรายได้กว่า 150 ล้านบาท หลังดำเนินธุรกิจโครงหลังคาสำเร็จรูปอย่างเต็มตัว เมื่อปลายปี 2552 ที่ผ่านมา เปิดศักราชใหม่ ปี 2554 ไตรมาสแรก สร้างยอดขายกว่า 60 ล้านบาท พร้อมเปิดตัว “ธุรกิจระบบหลังคา” เพื่อรองรับขนาดตลาดของอุปกรณ์หลังคาและโครงหลังคาสำเร็จรูปที่มีการขยายตัวต่อเนื่องกว่า 40% การันตีกลางปีนี้ โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง พร้อมเป็นรายแรกของประเทศที่พร้อมบริการครบทุกพื้นที่ คาดว่าจะสามารถกวาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท”

นายนพดล แก้วทับทิม กรรมการผู้จัดการ บริษัท กระเบื้องหลังคาซีแพค จำกัด ในธุรกิจเอสซีจี ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (SCG Building Materials) ผู้ผลิตและจำหน่ายกระเบื้องหลังคาคอนกรีต ตราช้าง ซีแพคโมเนีย และอุปกรณ์หลังคา ตราช้าง กล่าวว่า “โครงหลังคาสำเร็จรูป นับเป็นสินค้านวัตกรรมของเทคโนโลยีหลังคา เป็นตลาดใหม่ที่ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก ปัจจุบัน ตลาดโครงหลังคาสำเร็จรูปกำลังขยายตัว เพิ่มขึ้นอีก 40% และ มีสัดส่วนตลาดเพิ่มขึ้น 2% ( จาก 6% เป็น 8% ) เมื่อเทียบกับโครงหลังคาเหล็กรูปพรรณและโครงหลังคาไม้ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้กันในปัจจุบัน โดยมูลค่าตลาดของโครงหลังคาสำเร็จรูปสูงถึง 640 ล้านบาท เมื่อเทียบกับมูลค่าตลาดรวมของโครงหลังคาทุกประเภทที่ 8,000 ล้านบาท ถือว่าโครงหลังคาสำเร็จรูปเป็นตลาดที่มีมูลค่าสูง ยังมีพื้นที่ในการขยายตัวอีกมาก”

“สำหรับโครงสำเร็จรูป ตราช้าง บริษัทฯ มุ่งพัฒนากระบวนการผลิตและบริการอย่างต่อเนื่อง จนสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ได้รับความสะดวก รวดเร็วในการทำงานเพิ่มมากขึ้น ด้วยคุณภาพและคุณสมบัติของสินค้า อาทิ ไม่ต้องทาสีกันสนิมหรือสีน้ำมัน ติดตั้งง่าย ปลอดภัย ด้วยตะปูเกลียวเคลือบสารกันสนิม แทนระบบการเชื่อมทั่วไป พร้อมรับประกันการติดตั้งนาน 5 ปี อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบคุณภาพ และประสิทธิภาพทั้งในแง่ของสินค้าและการติดตั้ง สอดคล้องกับความต้องการของโครงการบ้านจัดสรรที่ต้องเร่งสร้างบ้านเพื่อส่งมอบให้ลูกค้า ดังนั้น โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง จึงเป็นทางออกที่ดี และได้รับความนิยมของลูกค้ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็นอย่างมาก ประกอบกับการพัฒนาสินค้า บริการ และการสื่อสารการตลาดที่สร้างการรับรู้ เกี่ยวกับตัวสินค้า ส่งผลให้ “โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง” ขยายตัวไปยังกลุ่มบ้านเดี่ยวสร้างเอง และบริษัทฯ รับสร้างบ้านอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ มีลูกค้าใหม่ในกลุ่มโครงการบ้านจัดสรรหันมาใช้โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง มากกว่า 40 โครงการ สามารถโกยรายได้กว่า 150 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา และ คาดว่าจะมีเพิ่มเติมอีกไม่ต่ำกว่า 50 โครงการในปี 54 โดยในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมานี้ สามารถกวาดยอดขายไปแล้ว ไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเป็นไปได้ว่า หากไม่มีผลกระทบใด ๆ จากภาคเศรษฐกิจโดยรวม คาดว่าปีนี้ จะสามารถกวาดรายได้ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท และก้าวขึ้นสู่ที่หนึ่งในใจผู้บริโภคต่อไป “ นายนพดลกล่าว และเพิ่มเติมว่า

“ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับขนาดของธุรกิจอุปกรณ์หลังคาและโครงหลังคาสำเร็จรูปที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ จึงได้เปิดตัว “ธุรกิจระบบหลังคา” (Roof System Business) เพื่อพัฒนาและเพิ่มระบบสินค้าและบริการ สนับสนุนระบบหลังคาแบบครบวงจร (Roof Solution) ให้กับลูกค้าทั้งกลุ่มบ้านเดี่ยวสร้างเองและโครงการบ้านจัดสรร ให้บริการติดตั้งและปรึกษาทุกปัญหาเรื่องหลังคาอย่างครบถ้วน โดย แบ่งเป็น 2 ธุรกิจย่อย คือ ธุรกิจอุปกรณ์หลังคา ตราช้าง (Roof Accessories Business) และ ธุรกิจโครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง (Roof Truss Business) โดยมี นายประกาญจน์ อัยยะภาคย์ ดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการธุรกิจระบบหลังคา ดูแลภาพรวมทั้งหมด”

อย่างไรก็ดี สำหรับทิศทางการดำเนินงาน ของธุรกิจโครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง ในปีนี้ นายประกาญจน์ อัยยะภาคย์ ผู้จัดการธุรกิจระบบหลังคา เผยว่า “ที่ผ่านมา ทีมพนักงานของบริษัทฯ ได้ลงพื้นที่เพื่อพัฒนาขยายตลาดผ่านช่องทางต่างๆ อาทิ ร้านโฮมมาร์ท และ ร้าน SCG Authorize Dealer กว่า 500 ร้านทั่วประเทศ โดยเน้นกลยุทธ์การบริการที่ครบวงจร ผ่านช่องทาง ตราช้าง Roofing Center และ Home Solution ให้บริการการออกแบบ ประมาณการจำนวนและราคาสินค้าที่จะใช้ พร้อมบริการหลังการขายอย่างเต็มรูปแบบ ทั้งการตรวจหน้างาน การติดตั้ง การตรวจคุณภาพงาน และส่งถึงมือผู้บริโภคด้วยการรับประกันการติดตั้งนาน 5 ปี เพื่อเพิ่มความมั่นใจและการันตีถึงคุณภาพและประสิทธิภาพของโครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง ทั้งนี้ เราได้ฝึกอบรมและพัฒนา ช่างติดตั้งโครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง (Truss Builder ตราช้าง) อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นคุณภาพงานด้านวิศวกรรม การผลิต และงานติดตั้ง เนื่องด้วย เป็นสินค้าและเทคโนโลยีใหม่ในตลาด ช่างทั่วไปยังไม่สามารถประกอบติดตั้งเองได้ อีกทั้งวิศวกรทั่วไป ก็ยังไม่สามารถออกแบบเองได้ ดังนั้น เราจึงจัดฝึกอบรมพัฒนาอย่างจริงจังกับทีมงาน ทั้งทีมวิศวกรออกแบบ และทีมช่างติดตั้งของบริษัทฯ ให้ได้มาตรฐาน ผ่านคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเรามีความพร้อมมากที่สุด ปัจจุบันมีช่างในสังกัด โครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้างกว่า 80 ทีมพร้อมให้บริการทั่วประเทศ และมีทีมวิศวกรมืออาชีพสามารถรองรับการเสนอราคากลับได้ภายใน 3 วันทำการ ซึ่งปัจจุบันโครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง มีพื้นที่การขายและบริการครอบคลุมทั่วประเทศเป็นรายแรกของประเทศ ”

“นอกจากนี้เรายังเน้นการพัฒนาศักยภาพของผู้แทนจำหน่ายฯ เพื่อสื่อสารข้อมูลกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการฝึกอบรมสัมมนาในรูปแบบที่หลากหลาย เป็นกันเอง มุ่งให้ความรู้สินค้า และเทคนิคการติดตั้งขั้นพื้นฐาน พร้อมผลักดันการสื่อสารทางการตลาดอย่างเต็มรูปแบบ ทั้ง Mass และ Local Media ครอบคลุมทุกพื้นที่การขายทั่วประเทศ เสริมด้วยกิจกรรมการตลาด below the line เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะยาว เรามุ่งตอบสนองแนวทางในการพัฒนาความสามารถทั้งด้านสินค้าและบริการเพื่อให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหลังคาอย่างแท้จริง สามารถสร้างความมั่นใจในคุณภาพของ ตราช้าง ให้สอดคล้องกับนโยบายการดำเนินธุรกิจ ของ SCG ให้เป็นสินค้าวัสดุก่อสร้างอันดับแรกที่ผู้บริโภคนึกถึงเมื่อจะสร้างบ้าน โดยมุ่งดำเนินธุรกิจโครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง ให้เป็นที่หนึ่งในใจผู้บริโภค “เลือกโครงหลังคาที่ดีที่สุดให้บ้าน เลือกโครงหลังคาสำเร็จรูป ตราช้าง” นายประกาญจน์ กล่าวสรุป

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ บริษัท พี อาร์ โซลูชั่น จำกัด : โทรศัพท์ 0-2656-8059 www.prsolution.co.th

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net