กรุ๊ปเอ็มเผย 4 ศาสตราวุธสื่อดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งปี 54

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--29 มี.ค.--เอ็มอินเตอร์แอคชั่น

กรุ๊ปเอ็ม (ประเทศไทย) และบริษัท เอ็มอินเตอร์แอคชั่น จำกัด ในเครือกรุ๊ปเอ็ม ผู้นำการบริหารและจัดการธุรกิจสื่อสารการตลาดอย่างครบวงจรให้กับบริษัทมีเดียเอเยนซี่ในเครือ WPP เช่น มายด์แชร์ มีเดียเอชซีไอเอ มีเดียคอม และแม็กซัสเผยในวันนี้ในงาน groupm FOCAL 2011powered by Google ถึงภาพรวมการสื่อสารการตลาดผ่านสื่อดิจิตอลประจำปี 2554 ว่า นักการตลาดต้องให้ความสนใจกับ 4 แนวโน้มหลักของสื่อดิจิตอล คือ ความนิยมในออนไลน์วีดีโอคอนเทนต์ ความนิยมในสมาร์ทโฟน การใช้งาน search และโซเชียลมีเดียเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ และพัฒนาการของข้อมูลอุตสาหกรรมเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาแคมเปญให้บรรลุวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด สุภาณี เดชาบูรณานนท์ ประธานกรรมการ กรุ๊ปเอ็ม ประเทศไทย กล่าวถึงที่มาของงาน groupm Focal 2011 ว่า “กรุ๊ปเอ็มในฐานะผู้นำด้านการสื่อสารการตลาดและประชาสัมพันธ์ที่มีเครือข่ายทั่วโลก และมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านการใช้สื่อดิจิตอล ตั้งใจจัดงาน groupm FOCAL 2011 ขึ้น ซึ่งคำว่า FOCAL นี้ มีที่มาจากคำว่า FOCAL POINT หรือ จุดรวมแสง เราเชื่อว่า ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็วและสับสนวุ่นวาย ทีมงานของเรา กรุ๊ปเอ็มและเอ็มอินเตอร์แอคชั่น จะสามารถทำหน้าที่รวบรวม สรุปประเด็น และชี้แนวทางที่ชัดเจนได้ว่า สิ่งใดที่สำคัญต่อธุรกิจในแต่ละปี และเป็นสิ่งที่ลูกค้า ในฐานะนักการตลาดควรต้องโฟกัส หรือให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพื่อประโยชน์ต่อลูกค้า และอุตสาหกรรมการตลาด โฆษณา ประชาสัมพันธ์ของไทยในภาพรวม” ศิวัตร เชาวรียวงษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็มอินเตอร์แอคชั่น จำกัดในเครือกรุ๊ปเอ็ม กล่าวถึงแนวโน้มการสื่อสารผ่านสื่อดิจิตอลในปีนี้ว่า “ประเด็นหลักที่นักการตลาดไม่ควรพลาดและสำคัญในปีนี้มีอยู่ 4 ประการซึ่งเป็นแนวทางทางที่จะใช้พัฒนาแคมเปญเพื่อชิงความสนใจจากกลุ่มผู้บริโภคให้รับรู้สารจากแบรนด์ ประเด็นแรกคือ วีดีโอคอนเทนต์ ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นในหมู่ผู้บริโภคในวงกว้าง ไม่ได้กระจุกตัวอยู่ในเฉพาะบางกลุ่มบางคนอีกต่อไป เนื่องจากการแข่งขันที่สูงมากในกลุ่มผู้ประกอบการที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงทำให้การเข้าถึงออนไลน์วีดีโอคอนเทนต์สะดวกขึ้นและได้รับความนิยมมากขึ้น เห็นได้จากกลุ่มศิลปินที่นิยมหันมาสร้าง Youtube Channel ของตัวเองมากขึ้น หรือเว็บไซต์ชั้นนำของประเทศอย่าง mthai sanook kapook ต่างนำวีดีโอคอนเทนต์ขึ้นมาจัดวางในตำแหน่งสำคัญในหน้าแรก ประเด็นที่สองคือ ความนิยมในสมาร์ทโฟนที่สูงขึ้น สร้างโอกาสในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายด้วยรูปแบบใหม่ๆ เช่นการสร้างโมบายล์แอพพลิเคชั่น อย่างไรก็ตามนักการตลาด ควรใช้โมบายล์แอพพลิชั่นดังกล่าวเพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ และเพิ่มความถี่ในการติดต่อสื่อสารมากกว่าที่จะหวังขยายฐานลูกค้าเพิ่มจากการใช้สื่ออินเทอร์เน็ต เนื่องจากผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนในปัจจุบันยังเป็นส่วนน้อยเมื่อเทียบกับผู้ใช้งานโทรศัพท์มือถือทั้งหมด 70 ล้านคน และยังเป็นกลุ่มเดียวกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตซึ่งปัจจุบันขยายจำนวนเพิ่มเป็น 24 ล้านคน นอกจากนี้ยังควรศึกษาวิธีการประชาสัมพันธ์แอพพลิเคชั่นผ่านทางเครือข่ายโฆษณาบนมือถือด้วยเช่นกัน ประเด็นที่สามคือ การใช้งาน Search และโซเชียลมีเดียเพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ เนื่องจากการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีมากขึ้น ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการต่างๆ ทั้งที่เจ้าของสินค้าเผยแพร่ออกมา และที่ผู้บริโภคแลกเปลี่ยนความเห็นกันในอินเทอร์เน็ตจึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นด้วย การหาข้อมูลโดยใช้ Search และโซเชียลมีเดียเป็นเรื่องที่ทำได้สะดวก โดยจากผลวิจัยพบว่า 56% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตกล่าวว่า ความเห็นของบุคคลอื่นๆในโซเชียลมีเดียเปลี่ยนทัศนคติที่เขามีต่อแบรนด์ หรือสินค้านั้นๆ ได้ ทั้งนี้ กระบวนการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคอาจใช้เวลาถึง 60 วัน ในขณะที่จำนวนแหล่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่ใช้พิจารณาประกอบการตัดสินใจซื้อมีมากถึง 11 แหล่ง นักการตลาดจึงควรให้ความสนใจกับการจัดการข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับสินค้า และบริการของตัวเอง และการทำ Search Engine Marketing ให้มากขึ้นเป็นพิเศษ ประเด็นที่สี่ คือ พัฒนาการของข้อมูลอุตสาหกรรมวงการโฆษณาออนไลน์ ที่ผ่านมาข้อมูลเกี่ยวกับสื่อดิจิตอลในประเทศไทยยังขาดการพัฒนา ทำให้นักการตลาดขาดความมั่นใจในการตัดสินใจ ส่งผลให้งบโฆษณาออนไลน์ยังอยู่ที่ไม่เกิน 2% ซึ่งในปี พ.ศ.2554 นี้จะมีพัฒนาการด้านนี้อย่างเด่นชัด ส่งผลให้นักการตลาดมีความมั่นใจมากขึ้น ลูกค้าบางรายได้ตั้งเป้าใช้เงินโฆษณาออนไลน์สูงขึ้นจากเดิมกว่าสี่เท่าตัว หรือมากกว่างบที่เคยใช้มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550-2553 รวมกัน” คุณศิวัตรกล่าว ความท้าทายของนักการตลาดยุคดิจิตอลอยู่ที่ การนำ 4 ประเด็นเหล่านี้มาใช้ในแคมเปญการตลาดอย่างเหมาะสมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการสื่อสารกับกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่มากที่สุด

ข่าวมีเดียเอเยนซี่+มาร์เก็ตติ้งวันนี้

ปุ๋ยตรากระต่ายชูความสำเร็จแคมเปญออนไลน์ คว้ารางวัล Best Use of Social Awards จาก MAAT

ปุ๋ยตรากระต่าย โดยบริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้นำธุรกิจนวัตกรรมการเกษตรของไทย นำโดยนายวิโรจน์ เตือนวีระเดช รองกรรมการผู้จัดการ ธุรกิจปุ๋ย ตอกย้ำความสำเร็จของแคมเปญบนสื่อออนไลน์แพลตฟอร์ม TIKTOK คว้ารางวัล Best Use of Social Awards ประเภท Bronze จากสมาคมมีเดียเอเยนซี่และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย (MAAT) ในงานประกวดรางวัลด้านสื่อและโฆษณาประจำปี 2567 (ครั้งที่ 4) ที่จัดขึ้นเพื่อมอบรางวัลให้กับแคมเปญสื่อโฆษณาที่โดดเด่นในสาขาต่างๆ โดยปุ๋ยตรากระต่ายได้ร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ Bom Cassava นำเสนอเนื้อหาในรูปแบบ

นายวิศรุต พูลวรลักษณ์ รองประธานกรรมการผู้... เมเจอร์ ซีนีแอด จัดงาน "Technical Sales Training" — นายวิศรุต พูลวรลักษณ์ รองประธานกรรมการผู้จัดการ นายสุรเชษฐ์ อัศวเรืองอนันต์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริ...

มีเดียคอม (ประเทศไทย) บริษัทตัวแทนผู้บริห... มีเดียคอม เอเยนซี่หนึ่งเดียวจากไทย คว้า 2 รางวัลใหญ่จากเวที THE FESTIVAL OF MEDIA GLOBAL AWARDS 2020 — มีเดียคอม (ประเทศไทย) บริษัทตัวแทนผู้บริหารการวางแผ...

WAVEMAKER (เวฟเมคเกอร์) มีเดียและคอนเทนต์... คริสติน่า วชรเนตร นำทัพเปิดตัว “WAVEMAKER” เอเยนซี่สายพันธุ์ใหม่ในเครือ กรุ๊ปเอ็ม — WAVEMAKER (เวฟเมคเกอร์) มีเดียและคอนเทนต์เอเยนซี่แบรนด์ใหม่ล่าสุดในเคร...

สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ Digita... DAAT DAY Digital 4.0 — สมาคมโฆษณาดิจิทัล (ประเทศไทย) หรือ Digital Advertising Association (Thailand) (DAAT) ร่วมกับ กันตาร์ ทีเอ็นเอส (ไทยแลนด์) เปิด...

ขอเชิญชวนน้องๆนักเรียน นักศึกษาและผู้สนใจ... ปล่อยของ ประลองตัวตน กับคนโฆษณาในงาน MADD_โชว์ของ 2017 : Creative Zombie 4.0 — ขอเชิญชวนน้องๆนักเรียน นักศึกษาและผู้สนใจ เข้าร่วมกิจกรรมสุดคูลเพื่อสัมผัสต...

สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย รายงานเม็ดเงินโฆษณาไตรมาส 3 ลดลง จับตามองทีวีดิจิตอลโตขึ้น พร้อมย้ำปรับเปลี่ยนบนความเปลี่ยนแปลงเพื่อความอยู่รอด

สมาคมมีเดียเอเยนซี่ และธุรกิจสื่อแห่งประเทศไทย รายงานมูลค่าการใช้สื่อในปี 2559 ลดลง -10% จากปีที่แล้ว สื่อที่เติบโตสูงคือทีวีดิจิตอล ...