FTSE ยกอันดับตลาดทุนไทยขึ้นเป็น Advanced Emerging Market เพิ่มความมั่นใจแก่ผู้ลงทุน

ฟุ๊ตซี่ กรุ๊ป (FTSE Group) บริษัทผู้จัดทำดัชนีชั้นนำของโลก ประกาศยกอันดับให้ตลาดทุนไทยขึ้นไปอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำ (Advanced Emerging Market) จากเดิมที่อยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ระดับรอง (Secondary Emerging Market) โดยจะเริ่มนำไปใช้ในการคำนวณ FTSE Global Equity Index Series ในเดือนมีนาคม 2555 นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “การที่ตลาดทุนไทยได้รับการปรับอันดับเป็น Advanced Emerging Market ครั้งนี้จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนทั่วโลกต่อโครงสร้างพื้นฐานของตลาดทุนไทยว่าอยู่ในระดับชั้นนำของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ซึ่งจะช่วยดึงดูดการลงทุนจากผู้ลงทุนสถาบันในต่างประเทศให้เข้ามายังตลาดทุนไทยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากปัจจุบันมีกองทุนขนาดใหญ่ทั่วโลกจำนวนมากที่ใช้ดัชนีและเกณฑ์การจัดอันดับของ FTSE เป็นข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจลงทุน” “ในการปรับอันดับตลาดทุน FTSE พิจารณาจากพัฒนาการของตลาดทุนในหลายๆ ด้าน ซึ่งตลาดทุนไทยได้มีพัฒนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง จากความร่วมมือระหว่างตลาดหลักทรัพย์ฯ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ภาครัฐ และบริษัทหลักทรัพย์สมาชิก โดยเฉพาะตั้งแต่มีการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทยเมื่อปี 2552” นายจรัมพรกล่าว ดร. วิรไท สันติประภพ รองผู้จัดการ สายงานวางแผนกลยุทธ์องค์กร ตลาดหลักทรัพย์ฯ กล่าวว่า “การที่ตลาดทุนไทยได้รับการปรับอันดับเป็นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำของโลก แสดงถึงการยอมรับจากผู้ลงทุนสถาบันในต่างประเทศ เนื่องจากคณะกรรมการของ FTSE ประกอบด้วยผู้จัดการกองทุนอาวุโสและผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันการเงินชั้นนำของโลก โดยตั้งแต่เดือนกันยายน 2553 ตลาดทุนไทยได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน watch list ที่จะได้รับการทบทวนอันดับ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและความมั่นใจในโครงสร้างและกฎเกณฑ์ของตลาดทุนไทยให้กับทั้ง FTSE และผู้จัดการกองทุนต่างประเทศ” “การพิจารณายกอันดับตลาดทุนไทยขึ้นเป็นกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำในครั้งนี้ คณะกรรมการของ FTSE พิจารณาจากองค์ประกอบหลายด้าน ตั้งแต่ความเป็นอิสระของตลาดหลักทรัพย์ฯ การมีระบบการคุ้มครองผู้ลงทุนรายย่อยอย่างเป็นธรรม ระบบที่เอื้อให้ผู้ลงทุนต่างประเทศสามารถเข้ามาซื้อขายได้อย่างสะดวก ระบบบริการหลังการซื้อขายที่มีมาตรฐานสูงเทียบเท่าระดับสากล รวมทั้งมีตลาดอนุพันธ์ที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ คณะกรรมการของ FTSE ยังให้ความสำคัญต่อการทำหน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแลที่ต้องมีความชัดเจนโปร่งใสและมีประสิทธิภาพ และต้องมีบริษัทหลักทรัพย์มีคุณภาพสูงและมีการแข่งขันในระดับที่เหมาะสมอีกด้วย” ดร. วิรไท กล่าว FTSE Global Equity Index Series แบ่งกลุ่มตลาดทุนออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้ว (Developed Market) กลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำ (Advanced Emerging Market) กลุ่มตลาดเกิดใหม่ระดับรอง (Secondary Emerging Market) และกลุ่มตลาดด้อยพัฒนา (Frontier Market) โดยพิจารณาปรับอันดับตลาดทุนและประกาศผลปีละครั้ง ปัจจุบัน ประเทศที่อยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำ มี 9 ประเทศ ประกอบด้วย บราซิล ฮังการี เม็กซิโก โปแลนด์ แอฟริกาใต้ ไต้หวัน สาธารณรัฐเช็ก มาเลเซีย และตุรกี และในรอบนี้ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศเดียวที่ได้รับการปรับอันดับขึ้นอยู่ในกลุ่มตลาดเกิดใหม่ชั้นนำ เกี่ยวกับ FTSE Group - FTSE เป็น Independent Company จัดตั้งขึ้นในปี 1995 ภายใต้รูปแบบ Joint Venture ระหว่าง London Stock Exchange และ Financial Times - ธุรกิจหลักของ FTSE คือ การสร้างและบริหารจัดการดัชนี และข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับดัชนี - ปัจจุบัน FTSE มีสำนักงานในประเทศที่เป็นศูนย์กลางทางการเงิน 13 แห่ง ได้แก่ Beijing, Frankfurt, Hong Kong, London, New York, Madrid, Milan, Mumbai, Paris, San Francisco, Shanghai, Sydney และ Tokyo - FTSE คำนวณค่าดัชนีถึง 120,000 ดัชนีต่อวัน และมีลูกค้าอยู่ใน 77 ประเทศ ทั่วโลก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. S-E-T Call Center 0-2229-2222

• ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
• ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศ
• ข่าวจรัมพร โชติกเสถียร
• ข่าวตลาดหลักทรัพย์
• ข่าวแห่งประเทศไทย