สัตวแพทย์ ส.คช. ร่วมสนับสนุน กทม. จับช้างเร่ร่อน

06 Sep 2011

กรุงเทพฯ--6 ก.ย.--ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย

เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2554 นายสัตวแพทย์ขจรภัทร บุญประเสริฐ รักษาการหัวหน้างานฝ่ายอนุรักษ์และบริบาลช้าง พร้อมทีมควาญช้าง โรงพยาบาลช้าง ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ เข้าพบ นายธีระชน มโนมัยพิบูลย์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในโอกาสที่สัตวแพทย์พร้อมทีมควาญช้าง โรงพยาบาลช้าง สถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ ช่วยเหลือจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับช้างเร่ร่อนตามนโยบายการแก้ไขวิกฤตช้างไทย สนับสนุนโครงการช้างยิ้มของกรุงเทพมหานคร ในการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันยังมีผู้ฝ่าฝืนนำช้างเข้ามาเร่ร่อนหารายได้ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจังหวัดปริมณฑลอย่างต่อเนื่อง

น.สพ.ขจรภัทรฯ เปิดเผยว่า “ในเดือนสิงหาคม 2554 กรุงเทพมหานครและทีมสัตวแพทย์ ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย สามารถจับกุมผู้กระทำผิดเกี่ยวกับช้างเร่ร่อนได้ทั้งสิ้น จำนวน 7 ราย โดยในวันอังคารที่ 2 สิงหาคม 2554 สามารถจับกุมได้บริเวณซอยศรีนครินทร์ 40 แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 1 ราย วันศุกร์ที่ 11 สิงหาคม 2554 สามารถจับกุมได้บริเวณถนนชัยพฤกษ์ หมู่ที่ 5 ตำบลบางสลับ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี 3 ราย ต่อมาเมื่อวันพุธที่ 17 สิงหาคม 2554 จับกุมได้บริเวณ ซอยสุขสวัสดิ์ 78 (ซอยวัดชังเรือง) ตำบลบางปลากด อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ และเมื่อวันศุกร์ที่ 19 สิงหาคม 2554 จับกุมได้ที่บริเวณซอยแบริ่ง 66/7 สำโรงเหนือ จังหวัดสมุทรปราการ

และรายล่าสุดเมื่อวันจันทร์ที่ 22 สิงหาคม 2554 สามารถจับกุมได้ที่ บริเวณซอยท่าปรงอินประเสริฐ ตำบลมหาชัย อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ควาญช้างที่ถูกจับกุมได้กรุงเทพมหานครจะถูกนำตัวส่งไปยังพนักงานสอบสวนท้องที่ดำเนินคดี ส่วนช้างของกลางทั้ง 7 เชือก นั้น สารวัตรปศุสัตว์จังหวัด ได้กักตัวไว้เพื่อ ตรวจโรคระบาดเป็นเวลา 30 วัน ที่ศูนย์อนุรักษ์ช้าง จังหวัดกาญจนบุรี พร้อมกันนี้ศูนย์อนุรักษ์ช้างไทย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ และกรุงเทพมหานคร ได้ยืนยันความพร้อมในการสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ และบุคลากร ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาช้างเร่ร่อนในพื้นที่จังหวัดปริมณฑล หากพบเห็นช้างเร่ร่อนหารายได้ สามารถแจ้งมายังสายด่วน กทม. 1555 ตลอด 24 ชั่วโมง ส่วนประชาชนในพื้นที่จังหวัดอื่นๆ สามารถแจ้งไปยังสำนักปศุสัตว์จังหวัดได้โดยตรง”

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net