ทริสเรทติ้งเพิ่มอันดับเครดิตองค์กร “บ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี” เป็น “A-” จาก “BBB+”แนวโน้ม “Stable”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--19 ส.ค.--ทริสเรทติ้ง

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ประกาศเพิ่มอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “A-” จากเดิมที่ระดับ “BBB+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตที่เพิ่มขึ้นสะท้อนถึงสถานะทางการเงินของบริษัทที่แข็งแกร่งขึ้นจากความสำเร็จในการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เมื่อเดือนมกราคม 2554 และผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งของบริษัทในธุรกิจยางธรรมชาติ ตลอดจนการมีฐานลูกค้าที่กระจายตัว ความสำเร็จของกลยุทธ์ในการลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติ และความรู้ความเชี่ยวชาญในธุรกิจยางธรรมชาติ ทว่าความแข็งแกร่งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติและแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงความคาดหวังว่าบริษัทจะรักษาผลการดำเนินงานที่ดีเอาไว้ได้ทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลงของวงจรธุรกิจ นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะรักษาสภาพคล่องและความยืดหยุ่นทางการเงินให้เพียงพอเพื่อรับมือกับความผันผวนของอุตสาหกรรมยางธรรมชาติและความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจโลก ทริสเรทติ้งรายงานว่า บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีเป็นผู้นำในการแปรรูปและจำหน่ายยางธรรมชาติในประเทศไทย โดยมีโรงงานแปรรูป 19 แห่งในภาคใต้และภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยและอีก 2 แห่งในประเทศอินโดนีเซีย ณ เดือนมีนาคม 2554 บริษัทมีกำลังการผลิตยางแปรรูปทั้งสิ้น 977,020 ตันต่อปี และมีส่วนแบ่งทางการตลาดในตลาดยางธรรมชาติทั่วโลกสำหรับช่วง 3 เดือนแรกของปี 2554 อยู่ที่ 9.78% ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 7.85% ในปี 2553 ด้วยประสบการณ์ที่ยาวนานรวมทั้งการมีข้อมูลข่าวสารที่รอบด้านทั้งในส่วนของอุปสงค์และอุปทานยางธรรมชาติทำให้ผู้บริหารสามารถบริหารกิจการของบริษัทผ่านวงจรธุรกิจทั้งในช่วงขาขึ้นและขาลงโดยยังคงรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้ ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทมียอดจำหน่ายยางแปรรูปทั้งสิ้น 251,361 ตัน เพิ่มขึ้น 19.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยางประมาณ 84% ให้แก่ผู้ประกอบการโดยตรง แม้ว่ายอดขายของบริษัทจะกระจุกตัวอยู่ในอุตสาหกรรมยางล้อเป็นส่วนใหญ่ แต่บริษัทก็มีฐานลูกค้าที่ค่อนข้างหลากหลายและกระจายตัวอยู่ในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้ผลิตยางล้อขนาดกลางและขนาดเล็กด้วย บริษัทมียอดส่งออกคิดเป็น 85% ของปริมาณขายในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2554 โดยมีลูกค้าหลักคือประเทศจีนซึ่งคิดเป็น 42% ของปริมาณยอดส่งออกทั้งหมด ทริสเรทติ้งกล่าวว่า ปัจจุบันผู้ผลิตยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลกประกอบด้วยประเทศไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ผลผลิตโดยรวมจากทั้ง 3 ประเทศคิดเป็น 66% ของผลผลิตทั่วโลกที่มีปริมาณ 10.29 ล้านตันในปี 2553 โดยประเทศไทยเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด ด้วยผลผลิตรวมทั้งสิ้น 3.07 ล้านตัน รองลงมาได้แก่ประเทศอินโดนีเซีย (2.83 ล้านตัน) และประเทศมาเลเซีย (0.94 ล้านตัน) ประมาณ 70% ของยางธรรมชาติใช้เป็นวัตถุดิบในอุตสาหกรรมยางล้อ ที่เหลือ 30% ใช้ในอุตสาหกรรมถุงมือยาง ถุงยางอนามัย และรองเท้า การบริโภคยางธรรมชาติทั่วโลกในปี 2553 อยู่ที่ 10.67 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 13.2% จากปีก่อนหลังจากที่ลดลงอย่างมากจากปัจจัยหลายประการ ทั้งวิกฤติการเงินโลก ภาวะสินเชื่อตึงตัว และการลดลงอย่างมากของการบริโภคภาคเอกชน ทั้งนี้ การฟื้นตัวของการบริโภคยางธรรมชาติเป็นผลมาจากการฟื้นตัวในตลาดสหรัฐอเมริกาและอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในตลาดเกิดใหม่โดยเฉพาะในประเทศจีนและอินเดีย ทริสเรทติ้งกล่าวถึงอุตสาหกรรมยางแปรรูปว่าเป็นอุตสาหกรรมที่มีต้นทุนวัตถุดิบคิดเป็นประมาณถึง 95%-98% ของต้นทุนการแปรรูป ผู้ประกอบการมีความเสี่ยงจากความผันผวนของราคายางธรรมชาติเป็นอย่างมากซึ่งส่งผลทำให้กำไรและกระแสเงินสดมีแนวโน้มแปรปรวน เพื่อที่จะลดความเสี่ยงดังกล่าว บริษัทศรีตรังแอโกรอินดัสทรีจึงปรับเปลี่ยนนโยบายทางการตลาดโดยใช้กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Back-to-Back และพยายามซื้อขายโดยตรงกับผู้ผลิตสินค้าและเกษตรกร กระนั้นก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้านราคาในช่วงที่ราคายางมีความผันผวนในระดับสูงไปได้ บริษัทรายงานผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยทั้งรายได้และกำไรอยู่ในระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งเป็นผลมาจากราคายางธรรมชาติและยอดส่งมอบสินค้าที่สูงขึ้น ทั้งนี้ ราคาขายเฉลี่ยในปี 2553 ของบริษัทอยู่ที่ 97.7 บาท/กิโลกรัม เพิ่มขึ้น 66% จากปี 2552 ราคายังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ที่ 145.7 บาท/กิโลกรัมในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 ซึ่งเป็นผลมาจากอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและอุปทานยางธรรมชาติที่ลดลงจากสภาวะอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย ในด้านของปริมาณการขาย บริษัทมียอดส่งมอบเพิ่มขึ้น 15% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมาอยู่ที่ 485,664 ตันในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 ซึ่งมากกว่าการเพิ่มขึ้นของการบริโภคยางธรรมชาติทั่วโลก บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นก่อนค่าเสื่อมราคาเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.79% ในปี 2553 และ 4.06% ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2554 และมีเงินทุนจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 2,709 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อนทั้งๆ ที่มีภาระภาษีเพิ่มขึ้นและได้รับเงินปันผลที่ลดลงจากบริษัทย่อย โครงสร้างเงินทุนของบริษัทแข็งแกร่งขึ้นโดยลำดับ โดยส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 10,415 ล้านบาท ณ เดือนธันวาคม 2553 มาอยู่ที่ 19,071 ล้านบาท ณ เดือนมิถุนายน 2554 จากความสำเร็จในการเข้าไประดมทุนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เมื่อเดือนมกราคม 2554 และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนก็ปรับตัวดีขึ้น โดยลดลงมาอยู่ที่ 51.99% ณ เดือนมิถุนายน 2554 จาก 69.12% ณ เดือนธันวาคม 2553 ทริสเรทติ้งกล่าว บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (STA) อันดับเครดิตองค์กร: เพิ่มเป็น A- จาก BBB+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable (คงที่)

ข่าวตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์+ศรีตรังแอโกรอินดัสทรีวันนี้

STA รับรางวัล THE EDGE BILLION DOLLAR CLUB 2023 SINGAPORE

นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล (ซ้าย) กรรมการผู้จัดการใหญ่และกรรมการบริหาร บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เข้ารับรางวัล THE EDGE BILLION DOLLAR CLUB 2023 จากสำนักข่าว THE EDGE ประเทศสิงคโปร์ โดยเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนสูงสุด สาขายานยนต์และชิ้นส่วน-ขนส่ง (Automobiles & Auto Parts Transportation) ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพิจารณาจากบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์หรือ Singapore Exchange (SGX) ที่จดทะเบียนมาแล้วไม่ต่ำกว่า 4 ปี และมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ ณ

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตล... ตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ เชื่อมโยงการลงทุน DR Linkage ไทย-สิงคโปร์ — นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พ...

นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุ... "กรุงไทย" ผนึกตลาดหลักทรัพย์ไทย-สิงคโปร์ เชื่อมโอกาสลงทุนหุ้นนอกด้วย DR — นายรวินทร์ บุญญานุสาสน์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดเงินตลาดทุน ธนาคารกรุงไทย ร่วมง...

MTS Capital ในเครือ MTS Gold Group จับมือ... "MTS Capital" จับมือ ตลาดหลักทรัพย์ Singapore เปิดโลกการลงทุนสู่ตลาดชั้นนำของเอเชีย — MTS Capital ในเครือ MTS Gold Group จับมือตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ (SGX...

ก.ล.ต. ไทย และ MAS สิงคโปร์ ร่วมแสดงความยินดีและสนับสนุนการริเริ่มโครงการ Depository Receipt (DR) Linkage ของตลาดหลักทรัพย์ไทยและสิงคโปร์ เพื่อยกระดับการเชื่อมโยงตลาดทุนข้ามพรมแดน

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และหน่วยงานกำกับดูแลตลาดเงินและตลาดทุนสิงคโปร์ (The Monetary...