PMB Facade ยก“สุดยอดเทคโนโลยีอัจฉริยะจากออโตเดสก์” เป็นกุญแจสำคัญในการสร้างอาคารระดับโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--Piton Communications

PMB FACADE TECHNOLOGY SDN BHD (PMB Facade) ผู้ผลิตม่านอะลูมิเนียมและอุตสาหกรรมเหล็กชื่อดังในมาเลเซีย เจ้าของผลงานการออกแบบชื่อดังทั้งในท้องถิ่นและระดับนานาชาติมากมาย อาทิ Al-Bidda Tower (โดฮา, กาต้าร์) และ Marina Bay Sands SkyPark (สิงคโปร์) ได้ทำการออกแบบรูปแบบอาคาร และเทคโนโลยีสำหรับอาคารสมัยใหม่ จากแนวความคิดดั้งเดิม เพื่อติดตั้งและทำการทดสอบการใช้งานระบบต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ และการให้บริการ โครงการที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูงเกิดจากการเสนอราคาที่รวดเร็วและแม่นยำ มร.เซิ่งจี้ถง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฎิบัติการ PMB Facade ได้กล่าวถึงกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้โครงการประสบความสำเร็จ กล่าวคือ ในสถาปัตยกรรมหรืออาคารต่างๆ บริเวณด้านหน้าของอาคารเป็นส่วนสำคัญที่สุดของอาคารที่จะเป็นตัวกำหนดคาแรคเตอร์ของส่วนที่เหลือทั้งหมดของอาคาร ถือได้ว่าเป็น “ความประทับใจแรก” ซึ่งในอุตสาหกรรมนี้มีการแข่งขันกันอย่างรุนแรง ดังนั้นการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุดจึงกลายเป็นประเด็นที่นำมาแข่งขันกัน ใครหรือบริษัทใดที่สามารถเสนอราคาได้รวดเร็วที่สุดก็นับว่าได้กำชัยชนะไปแล้วครึ่งหนึ่ง ส่วนอีกครึ่งนั้นคงต้องให้ความสำคัญกับการตรวจสอบประสิทธิภาพการทำงาน ซึ่งนวัตกรรมคุณภาพสูงนับเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถรับมือกับความต้องการและมีโอกาสในการประสบความสำเร็จได้มากกว่า โดยเฉพาะในตลาดนานาชาติ ซึ่ง PMB Facade เลือกใช้นวัตกรรมของออโตเดสก์ในการแข่งขันระดับนานาชาติ โดยเครื่องมือของ 3D Digital Prototyping ทำให้ PMB Facade สามารถเข้าใจองค์ประกอบต่างๆ ของโครงการ และสามารถเสนอราคาได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงของการกำหนดราคาและการแข่งขันเสนอราคาได้ ซึ่งต้นทุนขององค์ประกอบต่างๆ ในการลงทุนต่อไปจะลดลงประมาณ 20% “โครงการของ PMB Facade กว่า 25% ประสบความสำเร็จจากการเสนอราคาที่รวดเร็วและถูกต้องจาก นวัตกรรมของออโตเดสก์อย่าง 3D Digital Prototyping ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจมาก และเหนือสิ่งอื่นใดทีมงานสามารถขายความคิดของพวกเราได้มากขึ้น โดย Digital Prototyping ช่วยให้ลูกค้าของพวกเราเข้าใจวัตถุประสงค์ของการออกแบบได้ พวกเขาสามารถเห็นถึงการทำงานของดีไซน์และความเป็นไปได้ก่อนที่จะทำการก่อสร้าง ซึ่งคุณจะไม่สามารถทำได้ ถ้าคุณใช้กับโปรแกรมที่เป็น 2D” มร.เซิ่งจี้ถง กล่าว เกลียวที่สมบูรณ์แบบของ “Tornado Tower” เกือบ 90,000 ตารางเมตรที่สร้างขึ้นในคอนเซ็ปท์ตึกระฟ้าที่บิดเป็นเกลียว ซึ่งเป็นไปได้ยากในทางปฎิบัติ แต่ด้วยเทคโนโลยีของออโตเดสก์ คานของอาคารที่ออกแบบในรูปผนังม่านแนวขวางที่เปรียบเสมือนเกราะของอาคาร นับเป็นฟีเจอร์สำคัญของการออกแบบ เนื่องจากความซับซ้อนที่แตกต่างจากโครงสร้างภายในธรรมดาที่มีลักษณะตรง แต่ Al-Bidda Tower หรือ The ‘Tornado Tower’ (โดฮา, กาตาร์) ที่รูปทรงของอาคารมีลักษณะบิดเป็นเกลียว เสาภายในตัวอาคารที่มีรูปร่างเดียวกับภายนอกอาคาร ทำให้ต้องแก้ปัญหากับโครงสร้างที่ซับซ้อนนั้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราจึงต้องสร้างตัวต้นแบบดิจิตอล ทีมงาน PMB Facade ใช้นวัตกรรมของออโตเดสก์จำลองภาพการดีไซน์ของ “เกลียว” ด้วยระบบสามมิติ โดยจำลองการหมุนเกลียวของตัวอาคารในทุกๆ ระดับ หลังจากนั้นจึงใช้การจำลองแบบดิจิตอล จำลองประสิทธิภาพการทำงานเสมือนจริงขึ้นมา ด้วยเครื่องมือเหล่านี้ทำให้ทีมงานสามารถระบุมุม, ตำแหน่ง และขนาดคานของอาคารได้อย่างแม่นยำ นั่นก็หมายถึง ความผิดพลาดต่างๆ ก็จะลดลงและสามารถแก้ไขได้ตั้งแต่ขั้นแรกของการออกแบบ ถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นกว่าในอดีตสำหรับ PMB Facade ที่จะเปลี่ยนไอเดียในการออกแบบอาคารให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา “ด้วยนว้ตกรรม 3D Digital Prototyping ของออโตเดสก์ ทำให้เราสารมารถคำนวณและจำลองประสิทธิภาพการทำงานจริงด้วยระบบดิจิตอล ก่อนการก่อสร้างจริง ดังนั้นเราจึงสามารถลดเวลาในการออกแบบและเพิ่มเวลากับนวัตกรรมได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายวัสดุและของเสียลงได้อีก 15%” มร.เซิ่งจี้ถง กล่าว “SkyPark” PMB Facade ได้รับความไว้วางใจจาก Marina Bay Sands (MBS) ในการออกแบบอาคาร SkyPark ที่มีความกว้างกว่า 12,400 ตารางเมตร และสามารถจุคนได้ถึง 3,900 คน ซึ่งมีความยาวมากกว่าหอไอเฟลเมื่อเทียบกันในแนวราบ หรือเป็นสี่เท่าครึ่งของเครื่องบินเจ็ทจัมโบ้ A380 ซึ่งอาคาร SkyPark นี้ตั้งอยู่บนโรงแรมของ MBS ที่มีความสูงกว่า 200 เมตร โดยวัสดุที่ใช้ภายนอกในการสร้างคานจะต้องต้านแรงโน้มถ่วงของโลก ซึ่งถือได้ว่าเป็นคานที่ใหญ่ที่สุดอันหนึ่งของโลก ซึ่งโครงสร้าง “ลอยฟ้า” นี้นับเป็นผลงาน Masterpiece ที่ตอกย้ำความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของ PMB จนถึงทุกวันนี้ PMB Facade ใช้นว้ตกรรมของออโตเดสก์ในการออกแบบและตรวจสอบสภาพที่ซับซ้อนของการ “ลอย” และการออกแบบภายนอกด้วยแบบจำลองดิจิตอล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการออกแบบสำหรับน้ำหนักและความปลอดภัย นอกจากนี้ทีมงานยังสามารถแปลงเทคนิคแบบสองมิติ หรือ 2D บนกระดาษร่าง ให้เป็นสามมิติ หรือ 3D ได้อย่างง่ายดาย แล้วรวมผลงานที่ได้ทั้งหมดให้เป็นรูปแบบดิจิตอลในทีเดียวเพื่อนำเสนอในแบบ 3D เพื่อการตัดสินใจของผู้สร้าง ซึ่งในส่วนนี้เป็นส่วนที่จะช่วยในการนำเสนอแนวความคิดออกมาได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ “นวัตกรรมของออโตเดสก์ช่วยให้เราจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา และทำให้เรามั่นใจได้ว่าเรามีความร่วมมือที่ดีกับลูกค้า, รวมทั้งสามารถนำเสนอการออกแบบ และกลุ่มงานที่หลากหลายของเราให้แก่ลูกค้ารับรู้ได้” มร.เซิ่งจี้ถง กล่าว การใช้นวัตกรรมของออโตเดสก์ PMB Facade ลดการสูญเสียวัสดุได้ถึง 15% จากการพิจารณาแบบจำลองที่แม่นยำและทำให้โครงการเสร็จตามเวลาที่กำหนด หากไม่มีนวัตกรรมของออโตเดสก์การก่อสร้างอาจต้องใช้เวลามากขึ้นอย่างน้อยอีก 30% จากเวลาที่กำหนด ผลลัพธ์ที่ได้และผลสำเร็จของโครงการนี้เกิดขึ้นได้เพราะประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นของการออกแบบที่สามารถทำให้บริษัทนำโมเดลที่มาจากแนวความคิดออกสู่ตลาดได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ข้อได้เปรียบในการแข่งขันของ Digital Prototyping PMB Facade เลือกใช้นวัตกรรมของออโตเดสก์ในการสร้างความยืดหยุ่นให้กับการออกแบบ เพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จให้กับโครงการ ลดการสูญวัสดุโดยไม่จำเป็น เพิ่มความเร็วในกระบวนการคิดค้นและแปลงแนวความคิดให้เป็นรูปธรรม รวมถึงอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันระหว่างการออกแบบและทีมงาน และที่สำคัญที่สุด PMB Facade ช่วยสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าและทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในกระบวนการขั้นต้นของการออกแบบและกระบวนการตัดสินใจ ซึ่งช่วยให้ลูกค้าเข้าใจแนวคิดในการออกแบบได้ดีขึ้น และลูกค้ายัง “มองเห็น” วิธีการออกแบบก่อนที่ทำการก่อสร้าง “เราไม่สามารถทำพลาดได้ เรามีส่วนร่วมในโครงการที่จะกลายเป็นสถานที่สำคัญและเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ มันไม่มีโอกาสครั้งที่ 2 สำหรับบริษัทท้องถิ่นที่จะชนะในการเสนอราคาระดับประเทศ เราต้องแข่งขันกับคู่แข่งจากทั่วโลก และเราก็ทำสำเร็จด้วยนวัตกรรม Digital Prototyping จากออโตเดสก์” มร.เซิ่งจี้ถง กล่าวทิ้งท้าย ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนวัตกรรมของออโตเดสก์ ท่านสามารถอ่านได้จาก http://asean.autodesk.com/invento # # # เกี่ยวกับออโตเดสก์ ออโตเดสก์ อิงก์ เป็นผู้นำระดับโลกด้านซอฟต์แวร์เพื่อการออกแบบ 3D งานเอ็นจิเนียร์และเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ สำหรับอุตสาหกรรมหลากหลายไม่ว่าจะเป็นการผลิต, การออกแบบและก่อสร้าง และมีเดียและเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 ที่ได้เริ่มเปิดตัวซอฟต์แวร์ AutoCAD บริษัทออโตเดสก์ได้พัฒนาซอฟต์แวร์ต่างๆออกมาต่อเนื่องเพื่อช่วยลูกค้าสัมผัสประสบการณ์จินตนาการในรูปแบบดิจิตอลก่อนที่สร้างจริง บริษัทที่ติดอันดับ Fortune 100 รวมทั้งบริษัทเจ้าของรางวัลอะเคเดมี่อะวาร์ดด้าน Best Visual Effects ทั้ง 15 บริษัท ต่างใช้ซอฟต์แวร์ออโตเดสก์ เป็นเพื่อนคู่ใจในการออกแบบ วิช่วลไลซ์ และจำลองจินตนาการสร้างสรรค์เพื่อประหยัดเวลา ต้นทุน แต่ยังได้คุณภาพ นวัตกรรมล้ำสมัย เพื่อความได้เปรียบในการแข่งขันที่เป็นหนึ่ง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ท่านสามารถอ่านได้จาก www.autodesk.com. ? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 026905681 Piton Communications สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวอุตสาหกรรมเหล็ก+ระดับนานาชาติวันนี้

กลุ่มเหล็กรุ่นใหม่ เข้าพบ 'เอกนัฏ' ประสานเสียงให้กำลังใจ ดันยกเลิกเหล็ก IF กันเหล็กนำเข้าไร้มาตรฐาน

วันที่ 23 เมษายน 2568 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ให้การต้อนรับคณะกลุ่มครอบครัวเหล็ก Generation 2 เพื่อหารือแนวทางการส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเหล็กไทย โดยมีนายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ประธานคณะที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ด้านยุทธศาสตร์ นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายพงศ์พล ยอดเมืองเจริญ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและโฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม นายบรรจง สุกรีฑา รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม

ข่าวดี!!! กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือบ.เอ็... กรมพัฒนาฝีมือแรงงานผนึกเอ็นเอส บลูสโคป พัฒนาช่างเมทัลชีท 3 พันคน คิกออฟโซนอีสาน — ข่าวดี!!! กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือบ.เอ็นเอส บลูสโคป เปิดโปรแกรมฝึกอบรม...

7 พันธมิตรกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ประกอบด้วย... วิ่งฅนเหล็ก2024 ระดมได้3.3ล้าน มอบช่วยเหลือสังคมสะสม40ล้าน — 7 พันธมิตรกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ประกอบด้วย บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือ (SS...

เอสเอสไอจัดสัมมนาออนไลน์ฟรี The Green Steel Apocalypse ขับเคลื่อนความรู้เทคโนโลยีผลิตเหล็กรักษ์โลก

บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัสตรี จำกัด (มหาชน) หรือเอสเอสไอ ขอเชิญผู้สนใจทุกท่าน เข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ฟรีผ่าน Microsoft Team ในหัวข้อ "The Green Steel Apocalypse" (วิวัฒนาการของอุตสาหกรรมเหล็ก...

กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ “Logistics Business... เอสวีแอล กรุ๊ป ร่วมพลิกโฉมโลจิสติกส์ด้วยโซลูชั่นครบวงจร ในงาน TILOG-LOGISTIX 2024 — กลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ “Logistics Business Group” ภายใต้ “เอสวีแอล กรุ๊...

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567 บริษัท จี... GJS เตรียมลงทุน 1.5 พันล้านบาทยกระดับศักยภาพการผลิต — เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2567 บริษัท จี เจ สตีล จำกัด (มหาชน) ( GJS ) เปิดเผยการตัดสินใจลงทุนจำนว...

เอสเอสไอประกาศนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกลุ่มบริษัท มุ่งสู่องค์กรผู้นำและพัฒนานวัตกรรมด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน

เอสเอสไอประกาศนโยบายการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของกลุ่มบริษัทเอสเอสไอ โดยกำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ และแนวทางการดำเนินงาน มุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ...

นายนาวา จันทนสุรคน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ... ฅนเหล็กมินิมาราธอนมอบเงินมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาส-ผู้ประสบภัย — นายนาวา จันทนสุรคน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหวิริยาสตีลอินดัส...

การปล่อย GHG ปริมาณมากในอุตสาหกรรมเหล็ก ส... เทคโนโลยีลดการปล่อย Emission ในอุตสาหกรรมเหล็ก และก้าวต่อไปสำหรับอุตสา-หกรรมเหล็กไทย — การปล่อย GHG ปริมาณมากในอุตสาหกรรมเหล็ก ส่งผลให้ต้องมีการเร่งปรับปร...

7 พันธมิตรกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ประกอบด้วย... SSIร่วมพันธมิตรจัดวิ่งฅนเหล็กเพื่อสังคม2023 รายได้ช่วยผู้ด้อยโอกาสรวม15ครั้ง37ล้านบาท — 7 พันธมิตรกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก ประกอบด้วย บริษัท สหวิริยาสตีลอินดั...