“โคอุระคุเอ็น” ราเมนอันดับ 1 แห่งญี่ปุ่นผุดสาขาแรก “เกตเวย์ เอกมัย”

01 Aug 2011

กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--Media Front

นายมากิโอะ โออิกาวา รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท ทิพย์พัฒน อาร์เขต จำกัด เปิดเผยว่า ร้านราเมนที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น หรือ โคอุระคุเอ็น เตรียมเปิดตัวสาขาแรกในประเทศไทย ณ ศูนย์การค้า “เกตเวย์ เอกมัย” ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการต้นปีหน้า

“เป็นครั้งแรกที่ โคอุระคุเอ็น เปิดสาขาในต่างประเทศ” นายมากิโอะ กล่าวและว่า โคอุระคุเอ็นครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุดในธุรกิจราเมนที่ญี่ปุ่น เนื่องจากจุดแข็งทางธุรกิจในหลายๆด้าน คือ การใช้ส่วนผสมที่ดี พร้อมด้วยสูตรการทำแป้งราเมนเฉพาะที่เข้ากันกับรสชาติของน้ำซุป รวมถึงราคาย่อมเยาและการบริการที่น่าประทับใจทำให้ร้านราเมนโคอุระคุเอ็นครองใจลูกค้าญี่ปุ่นได้จวบจนทุกวันนี้ และเปิดบริการถึง 400 สาขาครอบคลุมทั่วประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน

“เรามั่นใจว่า ร้านราเมนสาขาแรกที่เกตเวย์ เอกมัย จะได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบราเมนอย่างแน่นอนไม่เฉพาะชาวญี่ปุ่นที่อาศัยที่อยู่ในประเทศไทย ที่รู้จักโคอุระคุเอ็นราเมนเป็นอย่างดี และเราตั้งใจที่จะขยายสาขาเพิ่มในประเทศไทยในอนาคตอันใกล้” นายทซึเตะ นิอิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวและว่า โคอุระคุเอ็นได้รับการสนับสนุนสิทธิพิเศษทางการค้าระหว่างประเทศจากการสนับสนุนของ JRO (Organization to Promote Japanese Restaurants Abroad)

โคอุระคุเอ็นก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2497 โดยนายทซูกาสะ นิอิดะ บิดาของนายทซึเตะ นิอิดะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารคนปัจจุบัน และสืบทอดกิจการจนทำให้ โคอุระคุเอ็น กลายเป็นกลุ่มธุรกิจราเมนที่ใหญ่ที่สุดและมีโรงงานผลิตราเมนใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นจนถึงทุกวันนี้

นายชัยพงศ์ ภู่สุนทรศรี รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัท ทีซีซี แลด์ รีเทล จำกัด ผู้พัฒนาโครงการเกตเวย์ เอกมัย กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯมุ่งพัฒนาโครงการเกตเวย์ เอกมัย ให้เป็นศูนย์การค้าสมัยใหม่ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์คนเมืองในปัจจุบัน โดยเน้นการนำเสนอสินค้าและบริการที่ทันสมัย

สำหรับโครงการเกตเวย์ เอกมัย ตั้งอยู่บนทำเลที่โดดเด่นของถนนสุขุมวิท ห่างจากสถานีขนส่งสายตะวันออกเพียงเล็กน้อย เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีชาวญี่ปุ่นอยู่มากแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ดังนั้นโครงการเกตเวย์ เอกมัยจึงน่าจะตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยย่านเอกมัยและบริเวณใกล้เคียงได้เป็นอย่างดี

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net