ค่ายเด็กเก่งสมองไว..รุ่น หนูน้อยตามรอยอัจฉริยะใช้แรงบันดาลใจจากคนเก่งฝึกเด็กไทยให้คิดต่างและมีกลยุทธ์แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์

30 Jan 2012

กรุงเทพ--30 ม.ค.--สถาบันวิจัยและพัฒนาการศึกษาพิเศษ มศว

ค่ายเด็กเก่งสมองไว..รุ่น หนูน้อยตามรอยอัจฉริยะใช้แรงบันดาลใจจากคนเก่งฝึกเด็กไทยให้คิดต่างและมีกลยุทธ์แก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ปัจจุบันเด็กรุ่นใหม่มักจะมีต้นแบบหรือไอดอลในการดำเนินชีวิตอยู่ในใจ ซึ่งภาพที่ปรากฏของบุคคลที่ประสบความสำเร็จจะสวยหรู แต่หารู้ไม่ว่าคนเหล่านั้นกว่าจะประสบความสำเร็จ ต้องผ่านขั้นตอนความลำบาก ผิดหวัง มากี่ครั้ง ดังนั้นเด็กจะเลียนแบบตามสิ่งที่เห็นภายนอก เมื่อทำตามไม่สำเร็จก็จะล้มเลิกเปลี่ยนแผนเปลี่ยนเป้าหมายในชีวิต ซึ่งเปลี่ยนโดยไม่รู้เลยว่าแท้จริงตนเองชอบอะไร สนใจอะไร แม้จะมีศักยภาพในตนเองมากแค่ไหนเมื่อไม่รู้จักวิธีใช้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ค่ายเด็กเก่งสมองไว รุ่น หนูน้อยตามรอยอัจฉริยะ ครั้งนี้ จึงหวังกระตุ้นเด็กไทยได้สร้างแรงบันดาลใจจากคนเก่ง สะท้อนชีวิตก่อนจะเก่งต้องมุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่ท้อถอย และรู้จักคิดแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างสร้างสรรค์ โดยเชื่อว่าเด็กไทยทุกคนมีสิทธิเป็นอัจฉริยะได้ในอนาคต ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาการศึกษาพิเศษ ฝ่ายวิชาการ เปิดเผยว่า คนเก่งหรือผู้ที่เป็นอัจฉริยบุคคลนั้น เด็กมักจะซึมซับความชอบ ความสนใจจากภาพที่เห็นตามสื่อต่างๆ มักจะเป็นแรงบันดาลใจหรือความฝันที่สวยหรู โดยไม่ได้คำนึงถึงองค์ประกอบอื่นหรือหนทางของความสำเร็จ ผู้ที่เป็นอัจฉริยะนั้นต้องเป็นผู้คิด ริเริ่ม ไม่ใช่ลอกเลียน แต่เด็กรุ่นใหม่ก็จะเลียนแบบไอดอลของเค้าตลอดเวลา ซึ่งในชีวิตคนๆ หนึ่งย่อมมีความซับซ้อนกว่าสิ่งที่สื่อต่างๆ นำเผยแพร่อยู่แล้ว ต้องมีทั้งด้านลบและด้านบวก ดังนั้นค่ายเด็กเก่งสมองไว รุ่น หนูน้อยตามรอยอัจฉริยะ จะจุดประกายฝันให้เด็กไทยได้รู้จักคนเก่ง หรืออัจฉริยบุคคลในหลายแง่มุม นักอัจฉริยะทั่วโลกไม่ใช่แค่เรียนเก่ง คิดเก่ง แต่จะต้องเป็นผู้ที่รู้จักแก้ปัญหาเก่งด้วย จากสภาพการเรียนการสอนในโรงเรียนสมัยก่อนฝึกฝนให้เด็กมุ่งเรียนรู้จุดใดจุดหนึ่ง เช่น โจทย์ปัญหาในวิชาคณิตศาสตร์ มักมีขั้นตอน มีวิธีทำ ถ้าผิดตรงไหนก็มักจะสามารถรู้และบอกได้ว่าคำตอบที่ถูกต้องควรจะเป็นเช่นไร ซึ่งขณะนี้ศาสตร์ทางคณิตศาสตร์มีความซับซ้อนมากขึ้น อาจจะไม่ได้เจอโจทย์ปัญหาที่แก้ได้แบบตรงไปตรงมาต้องใช้ศาสตร์ด้านอื่นมาช่วยคิดวิเคราะห์มากขึ้นไม่มีคำตอบตายตัว ความจำเป็นในการแก้ปัญหาทำอย่างสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพ จึงจำเป็นมากขึ้น ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ กล่าวต่อว่า กิจกรรมการฝึกความพร้อมเรื่องการแก้ไขปัญหามีส่วนช่วยให้เด็กสามารถแยกแยะและถ่ายโยงความแตกต่างระหว่างทฤษฎีและภาคปฏิบัติได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นจึงได้มีการฝึกกระบวนการแก้ปัญหา (Problem Solving) ที่กลายเป็นทักษะพื้นฐานที่สำคัญในการฝึกเด็ก เพราะอัจฉริยบุคคลจะมีทักษะกระบวนการแก้ปัญหาเป็นกระบวนการทำงานที่สลับซับซ้อนของสมองที่ต้องอาศัย สติ ปัญญา ทักษะ ความเข้าใจ ความคิด การรับรู้ ความชำนาญ รูปแบบพฤติกรรมต่างๆ ประสบการณ์เดิมทั้งทางตรง (มีผู้อบรมสั่งสอน) และทางอ้อม (เรียนรู้ด้วยตนเอง) กฎเกณฑ์ ข้อสรุป การพิจารณา การสังเกต และการใช้กลยุทธ์ทางปัญญาที่จะวิเคราะห์ สังเคราะห์ ความรู้ความเข้าใจต่างๆ อย่างมีวิจารณญาณ มีเหตุผลและจินตนาการ เพื่อหาแนวปฏิบัติให้ปัญหาทั้งหมดสิ้นไป บรรลุจุดมุ่งหมายที่ต้องการและการได้มาซึ่งความรู้ใหม่ ด้วยสิ่งที่กล่าวมานี้จะเห็นว่าการเป็นอัจฉริยะไม่ใช่เรื่องง่ายแต่ก็ไม่ยากเกินฝึกฝนซึ่งก็ต้องอาศัยความตั้งใจ มุ่งมั่นอย่างสม่ำเสมอ กิจกรรมในค่ายเด็กเก่งสมองไว รุ่น หนูน้อยตามรอยอัจฉริยะ จะเป็นกิจกรรมที่สนุกอย่างครบเครื่องในทักษะที่เราต้องการต้องการจะฝึกให้เด็ก นั่นคือ ทักษะการคิด และทักษะการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ คนเก่งที่ไปไม่ถึงจุดหมายนั่นเพราะแก้ปัญหาไม่ได้ และล้มเลิกไป ซึ่งผู้ปกครองก็ไม่ควรปล่อยให้ลูกหลานเราต้องไปเจอชะตากรรมแบบนั้น ซึ่งค่ายเด็กเก่งสมองไวครั้งนี้จัดสำหรับเด็กอายุ 4-6 ปี จัดวันที่ 23-27 เมษายน พ.ศ. 2555 เพื่อให้เด็กสามารถเรียนรู้กิจกรรมได้อย่างครบถ้วน ผู้ปกครองท่านใดสนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สถาบันวิจัยและพัฒนาการศึกษาพิเศษ ฝ่ายเด็กที่มีความสามารถพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โทร.02-2602601 กด 11-12 หรือ 02-2596173 และสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ http://rise.swu.ac.th และ www.giftedcenter.org

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

กส