‘เมกาเชฟ’ ทุ่ม 25 ล้าน ลุยตลาดปี 55 พร้อมรุก “โซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค” เจาะกลุ่มเป้าหมาย

02 Mar 2012

กรุงเทพฯ--2 มี.ค.--สินวารีพัฒนา

น้ำปลาและซอสหอยนางรม ‘เมกาเชฟ’ ผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสไทยเกรดพรีเมียม ได้รับการการันตีมาตรฐานคุณภาพระดับสากล เมื่อชนะเลิศรางวัลเหรียญทองประเภทซอสปรุงรส ในงาน The Wrest Point Royal Hobart Fine Food Awards ซึ่งจัดร่วมกับสถานเอกอัครราชทูตไทยประจำนครโฮบาร์ต ประเทศออสเตรเลีย ในระหว่างวันที่ 12-14 สิงหาคม 2554 ที่ผ่านมา ถือเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสจากประเทศไทยเจ้าแรกและเจ้าเดียวที่ได้รับรางวัลดังกล่าว

นายภาส นิธิปิติกาญจน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท สินวารีพัฒนา จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสในเครือ เมกาเชฟ เปิดเผยว่า “เป็นความภูมิใจของเมกาเชฟที่ได้รับรางวัลจากสถาบันซึ่งเป็นที่ยอมรับระดับสูงในวงการอาหารออสเตรเลียและในระดับสากล ทั้งน้ำปลาและซอสหอยนางรมที่ได้เหรียญทอง หรือน้ำพริกเผาและซีอิ๊วขาว ที่ได้เหรียญเงินและทองแดงตามลำดับ ทั้งนี้เพราะกว่าจะชนะเลิศรางวัลเหรียญทอง เมกาเชฟต้องผ่านการทดสอบรสชาติและตรวจสอบคุณสมบัติด้านต่าง ๆ จากเชฟผู้มีชื่อเสียงกว่าสามสิบคน บนเวทีที่รายล้อมไปด้วยผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสจากทั่วโลก รวมถึงทุกแบรนด์จากประเทศไทยที่มีวางจำหน่ายในออสเตรเลีย นอกเหนือจากจุดเด่นในด้านรสชาติ ปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งที่ทำให้เมกาเชฟได้รับรางวัลในครั้งนี้ คือเรื่องของคุณประโยชน์และความปลอดภัยที่ผู้บริโภคจะได้รับ ซึ่งเป็นปรัชญาหลักที่เมกาเชฟยึดถือเสมอมา ในฐานะผลิตภัณฑ์เครื่องปรุงรสที่ปราศจากสารพิษ และมีคุณค่าทางอาหารสูง”

ทุ่มงบ 25 ล้าน ลุยตลาดปี 55

ปัจจุบัน น้ำปลาเกรดพรีเมียม ‘เมกาเชฟ’ มีวางจำหน่ายตามซูเปอร์มาร์เก็ตและดิสเคานท์สโตร์ทั่วไป ทั้งหมด 4 ขนาด คือ 100 มล. ราคา 13 บาท 200 มล. ราคา 20 บาท 500 มล. ราคา 32 บาท และ 700 มล. ราคา 42 บาท ส่วนซอสหอยนางรมมีจำหน่าย 2 ขนาด คือ 240 มล. ราคา 29 บาท และ 600 มล. ราคา 59 บาท

การเติบโตของตลาดในปี 2554 ที่ผ่านมา เมกาเชฟ มีรายได้รวมที่ 130 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน (2553) 20 ล้านบาท คิดเป็น 20% ทั้งนี้เฉพาะในส่วนของผลประกอบการในต่างประเทศมีอัตราเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว คือคิดเป็น 100% เมื่อวัดจากเริ่มเปิดตลาดส่งออกในเดือนตุลาคมปี 2552 ถือเป็นอัตราการเติบโตที่ค่อนข้างเร็ว และยังมีแนวโน้มขยายตัวได้อีก ซึ่งทางเมกาเชฟตั้งเป้าหมายสำหรับผลประกอบการปี 2555 ไว้ที่ 150 ล้านบาท โดยคาดหวังกับตลาดในต่างประเทศว่าจะเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัวเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

ส่วนตลาดในประเทศ จากเหตุการณ์น้ำท่วมในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี 2554 ทำให้อัตราเติบโตขยับขึ้นจากปีก่อนเพียง 5% ขณะที่ในตลาดน้ำปลาโดยรวมมีมูลค่า 4, 000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดสินค้าพรีเมียม 10% คิดเป็นมูลค่า 400 ล้านบาท เมกาเชฟมีส่วนแบ่งอยู่ที่ 20-25% อยู่ในอันดับ 1-2 ของตลาด

สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดปี 2555 ทางสินวารี ฯ ยังคงใช้นโยบายเชิงรุกด้วยความเชื่อมั่นในแนวโน้มการเติบโตของกลุ่มผู้บริโภคที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น โดยเตรียมงบประมาณส่วนประชาสัมพันธ์ไว้ที่ 25 ล้านบาท แบ่งเป็นตลาดต่างประเทศ 10 ล้าน และตลาดในประเทศอีก 15 ล้านบาท ซึ่งผู้จัดการทั่วไปของบริษัทสินวารี ฯ กล่าวว่า “ปัจจุบัน เมกาเชฟวางแผนสำหรับงบประมาณด้านการตลาดไว้ที่ประมาณปีละ 20-30 ล้านบาท แต่ในกรณีที่ต่อไปในอนาคตเราต้องขยายตลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศที่เติบโตค่อนข้างเร็ว การจัดสรรงบประมาณส่วนนี้ก็ต้องขยับตามไปด้วย ส่วนในประเทศ ปีนี้เมกาเชฟจะมีหนังโฆษณาออกมา เป็นการส่งสารถึงผู้บริโภคอีกทางหนึ่ง ซึ่งเราเน้นในเรื่องประโยชน์ต่อสุขภาพและความปลอดภัย นอกจากนั้นก็เป็นส่วนของกิจกรรมต่าง ๆ การพบผู้บริโภค ณ จุดขาย หรือโปรโมชั่นที่เราทำเป็นประจำอยู่แล้ว”

“อีกช่องทางหนึ่งในการสร้างฐานผู้บริโภคที่เราให้ความสำคัญมากคือโซเชียลมีเดีย ในตอนนี้เรามีแฟนเพจทาง facebook.com/MegachefThailand แล้วห้าพันกว่าคน ซึ่งตรงนี้เรามีกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งการเล่นเกมชิงของรางวัล หรือการส่งข่าวสารจากทางเมกาเชฟ รวมถึงแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้เกี่ยวกับอาหารในระหว่างผู้ที่สนใจ เป้าหมายของเราคือกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่สนใจเรื่องการกินหรือการทำอาหารเพื่อสุขภาพ ที่เราเชื่อว่าช่องทางการสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียยังสามารถขยายตัวออกไปได้อีกมาก เพราะเป็นการสื่อสารโต้ตอบได้ในระยะเวลาอันสั้น และเข้าถึงได้บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ถือเป็นพื้นที่สื่อประเภทหนึ่งที่อยู่ไปได้อีกนาน ที่สำคัญคือใช้งบประมาณเพียง 1-2 ล้านบาทต่อปีเท่านั้น” นายภาส กล่าวปิดท้าย-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net