“นมวัวแดง” ชูนมโคสดแท้ 100% รุกหนักปี 55 ย้ำพร้อมรับมือ FTA-AEC ด้วย ดาต้าเบส นวัตกรรมเพาะเลี้ยงโคนมล้ำหน้าในกลุ่มอาเซียน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--9 ก.พ.--โฟร์ฮันเดรท

“นมวัวแดง” ก้าวสู่ทศวรรษที่ 6 รุกหนัก เน้น Brand Awareness ย้ำนมคนไทยใช้นมโค 100% เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ขยายฐานคนดื่มนมออร์แกนิค ส่งออกโคนมรับมือFTA ต่อเนื่อง AEC เสริมภูมิคุ้มกันเกษตรกรไทย ชูแกร่งนวัตกรรมบนฐานองค์ความรู้ 50 ปี เลี้ยงโคนมเหนือคู่แข่งภูมิภาคอาเซียน หวังปีนี้เติบโตกว่า 8 % หรือคิดเป็นมูลค่า กว่า 1,000 ล้านบาท ในมูลค่าตลาดไทยกว่า 40,000 ล้านบาท นายนพดล ตันวิเชียร รองผู้อำนวยการ รักษาการ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยว่า นับตั้งแต่วันที่ 16 มกราคม 2505 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯและสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริคที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก ได้ทรงประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนมและศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์ค อย่างเป็นทางการ นั่นคือวันแห่งประวัติศาสตร์สำหรับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทย เพราะถือเป็นอาชีพพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงมีพระราชวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลและลึกซึ้ง ที่ทรงอยากให้เกษตรกรชาวไทย ได้มีความมั่นคงทางด้านอาหารในอนาคต และพึ่งพาตนเองได้ ตลอดระยะเวลา 50 ปีของภารกิจในการส่งเสริมเกษตรกรไทยให้รู้จักเข้าใจในการเลี้ยง โคนม และสร้างแบรนด์ให้กับ “นมวัวแดง” ของ อ.ส.ค. นับเป็นภารกิจที่สร้างความภาคภูมิใจให้แก่บุคลากรของ อ.ส.ค.เป็นอย่างมากที่มีส่วนร่วมในการเสริมสร้างสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยและ “นมวัวแดง” ถือเป็นนมโคสดแท้ 100% ที่อยู่เคียงคู่สังคมไทยมาตลอด 50 ปี “ภารกิจหลักของ อ.ส.ค. คือการสร้างความมั่นคงเข้มแข็งให้เกิดขึ้นกับกลุ่มเกษตรกร ผู้เลี้ยงโคนมและความมั่นคงด้านอาหารของไทย ซึ่งทำให้ค่านิยมการดื่มนมโคเกิดขึ้นในสังคม กระทั่งสร้างมูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมนมในเมืองไทยเติบโตในปัจจุบันถึงกว่า 40,000 ล้านบาท ในอัตราเติบโตต่อเนื่องโดยเฉลี่ยต่อปีกว่า 8 % และภารกิจที่ท้าทายสำหรับการก้าวเข้าสู่ทศวรรษที่ 6 ของ อ.ส.ค.นี้ เรากำลังยืนอยู่ท่ามกลางภาวการณ์แข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้น ทั้งการเปิดเขตการค้าเสรี กับ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ซึ่งจะมีผลให้การนำเข้านมผงจากทั้งสองประเทศภาษีเป็น 0 ในปี 2568 และประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ในปี 2558 นี้ ซึ่งอ.ส.ค. ที่มีเครือข่ายเกษตรกรโคนมเป็นสมาชิกอยู่ทั่วประเทศได้เริ่มให้ความรู้ สร้างภูมิคุ้มกันต่อเนื่องมาเป็นระยะ เพื่อให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมปรับตัวและพัฒนากระบวนการผลิตให้สามารถแข่งขันได้” โดยเน้นการสร้าง Brand Awareness เพิ่มขึ้น เพราะจุดแข็งสำคัญของ อ.ส.ค. คือ เป็น นมโคสดแท้ 100% ไม่ผสมนมผง ในขณะที่ข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการตอกย้ำต่อผู้บริโภคใน วงกว้างอย่างเพียงพอ ประกอบกับความจงรักภักดีต่อแบรนด์ “นมวัวแดง” ยังคงได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ยุทธศาสตร์ในปี 55 นี้ จึงจะเน้นการจัดกิจกรรมต่อเนื่องเพื่อตอกย้ำให้เกิดความตระหนักและกระตุ้นให้เห็นถึงประโยชน์สูงสุดของการดื่มนมโคสดแท้ 100% ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาคที่จะเสริมกลยุทธ์ให้ตัวแทนจำหน่ายเข้มแข็งยิ่งขึ้น พร้อมๆกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เสริมความเข้มแข็งให้กับ “นมวัวแดง” โดยจะขยายฐานการผลิตนมสดพาสเจอร์ไรส์ให้มากขึ้น พร้อมกับเปิดตัว โยเกิร์ต และไอศกรีม จากนมสด 100% เพื่อเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคที่ ภักดีต่อ “นมวัวแดง” โดยมีเป้าหมายการตลาดจะเพิ่มการจำหน่ายสินค้าในกลุ่มนี้ไม่น้อยกว่า 1,000 ล้าน/ปี ภายในระยะเวลา 5 ปี “อุปสรรคสำคัญอย่างหนึ่งของการทำตลาดในเมืองไทยคือพฤติกรรมการดื่มนมของคนไทยยังน้อยมาก แม้ว่าปัจจุบันจะเพิ่มขึ้นเป็น 14 ลิตรต่อคนต่อปี แต่ ในประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สิงคโปร์ดื่มถึง 50 ลิตรต่อคนต่อปี มาเลเซีย 20 ลิตรต่อคนต่อปี เรามองว่าโอกาสในการขยายตลาดในนมพาสเจอร์ไรส์ยังมีอยู่มาก เพราะมายึดนโยบายว่า “นมวัวแดง” จะผลิตแต่สินค้าคุณภาพ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้บริโภคเท่านั้น เราจึงเชื่อว่านมพาสเจอร์ไรส์จะเติบโตคู่กับ นม ยู.เอช.ที ในอนาคต และทำให้ส่วนแบ่งการตลาดโดยภาพรวมของ “นมวัวแดง” เติบโตเพิ่มขึ้น ในขณะที่จุดแข็งเรามีสมาชิกสหกรณ์โคนมทั่วประเทศและเป็นนมโคสดแท้” รักษาการ ผอ.อ.ส.ค.กล่าว นอกจากนี้ทิศทางแนวโน้มของการดื่มนมในปัจจุบัน ยังให้ความสำคัญกับสุขภาพยิ่งขึ้น นมอินทรีย์จึงเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่งที่ “นมวัวแดง” จะใช้เป็นทีเด็ดสำคัญในการเพิ่มทางเลือกที่ดีกว่าให้กับผู้บริโภค ด้วยเหตุผลสำคัญของการรับมือกับการเปิดเขตการค้าเสรีกับออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ทำให้ อ.ส.ค.ได้เริ่มปรับเปลี่ยนการเลี้ยงโคนมให้กับสมาชิกเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมให้หันมาผลิตนมอินทรีย์มากขึ้นตั้งแต่ปี 2550 ทำให้วันนี้ อ.ส.ค.สามารถผลิตน้ำนมดิบป้อนบริษัท บัตเตอร์ฟลาย จำกัด ผู้ผลิตนมอินทรีย์ ได้วันละ 200 กิโลกรัม หรือปีละ 70-80 ตัน ในขณะที่ความต้องการบริโภคภายในประเทศมีสูงถึง 300 - 400 ตันต่อปี โดยปัจจุบัน อ.ส.ค.มีฟาร์มโคนมอินทรีย์ทั้งหมดฟาร์ม 5 ฟาร์มมีโคนมอินทรีย์ฟาร์มละ 20 ตัว มีพื้นที่ปลูกหญ้าเลี้ยงโคนมแห่งละ 40 ไร่ ตั้งเป้าหมายให้ในปี 56 เพิ่มอีก 10 ฟาร์ม ปี 57 เพิ่มอีก 15 ฟาร์ม และปี 58 เพิ่มเป็น 20 ฟาร์ม เพื่อให้ผลิตป้อนตลาดให้ได้วันละ 4-5 ตัน โดยได้ทยอยเปลี่ยนให้แม่โคนมจำนวน 400 ตัวเศษ มาเป็น Organic Dairy Farm ที่เลี้ยงด้วยพืชอาหารสัตว์ที่เป็นอาหารหยาบมากขึ้น ปลอดสารเคมี และยาปฏิชีวนะ พร้อมๆกับการปรับเปลี่ยนสายพันธุ์โคนมให้เป็นสายพันธุ์ โฮลสไตน์ฟรีเชี่ยน ที่ให้น้ำนมมากมาผสมกับพันธุ์ ซาฮีวาล เรด ซินดี้ และบราห์มันที่ทนต่อสภาพอากาศ และโรคระบาด เพราะโคนมอินทรีย์ต้องปลอดการใช้เคมีและยาปฏิชีวนะนั่นเอง ในขณะเดียวกัน อ.ส.ค.จะเร่งเพิ่มพื้นที่ปลูกหญ้า กระถิน ข้าวโพด มันสำปะหลัง ถั่วเหลืองอินทรีย์ที่ปราศจากการตัดแต่งพันธุกรรมหรือ GMO และเพิ่มการซื้อรำข้าวอินทรีย์จากเกษตรกรมากยิ่งขึ้นเพื่อมาเป็นอาหารให้กับโคนมอินทรีย์ ซึ่งนอกเหนือจากรองรับความต้องการดื่มนมเพื่อสุขภาพในประเทศแล้ว ยังจะเพิ่มความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมไทยให้สามารถแข่งขันได้ในตลาดสากลที่เป็นเทรนด์ของอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มในอนาคตอีกด้วย สำหรับจุดเด่นสำคัญของนมอินทรีย์ นอกจากปลอดสารเคมีแล้วยังอุดมด้วย โอเมก้า 3, โอเมก้า 6 ,สาร CLA ที่เป็นส่วนสำคัญในการบำรุงสมองและต่อต้านอนุมูลอิสระ กลิ่นไม่คาวเพราะไม่ใช้เคมีและยาปฏิชีวนะ แต่แม่โคนมจะให้น้ำนมเพียงไม่ถึง 10 กิโลกรัม/ตัว ซึ่งน้อยกว่าโคนมที่เลี้ยงในฟาร์มทั่วไปที่ให้น้ำนมมากถึง 13 กิโลกรัมต่อตัว แต่ราคารับซื้อน้ำนมอินทรีย์จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 23 – 25 บาท ในขณะที่น้ำนมดิบปกติจะอยู่ที่ 16-17 บาทต่อกิโลกรัม ทั้งนี้เป็นเพราะต้นทุนด้านอาหารของโคนมปกติจะสูงถึง 50-60% ของต้นทุนอาหารทั้งหมด โดยสัดส่วนของต้นทุนอาหารโคนมอินทรีย์ต่อน้ำนมดิบตก 10 บาทเศษต่อน้ำนม 1 กิโลกรัม ในขณะที่โคนมปกติ ตก 14-16 บาท ต่อน้ำนมดิบ 1 กิโลกรัม ซึ่งในที่สุดหากสามารถปรับเปลี่ยนการเลี้ยงของเกษตรกรโคนมได้ทั้งระบบจะส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมการผลิตน้ำนมของไทย รวมถึงสุขภาพของคนไทยอีกด้วย “ในการรับมือกับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC นั้น เราได้เริ่มมาแล้วเป็นระยะๆ อย่างการปรับเปลี่ยนการเลี้ยงโคนมอินทรีย์ หรือการเปิดตลาดต่างประเทศเราได้ตั้งตัวแทนจำหน่ายทั้งในลาว กัมพูชา และจะเพิ่มขยายไปยังประเทศอื่นๆมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประเทศที่เราส่งออกไปแล้วก็จะขยายสัดส่วนให้เข้าถึงผู้บริโภคในแต่ละภูมิภาคยิ่งขึ้น เพราะอายุ 50 ปีกับองค์ความรู้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นมของเราเป็นที่ยอมรับ และเข้มแข็งที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิกที่มีอยู่ เราจึงเน้นยุทธศาสตร์บนพื้นฐานของนวัตกรรมที่เหนือกว่าเป็นสำคัญ และความเชี่ยวชาญหนึ่งของ อ.ส.ค. คือการพัฒนาเทคโนโลยีกระบวนการผลิตน้ำนม และการเพาะเลี้ยงและขยายพันธุ์โคนม ที่ได้พัฒนาสายพันธุ์ให้เหมาะสมกับภูมิประเทศแถบร้อนชื้นที่ได้พัฒนามาโดยตลอด ที่ผ่านมา อ.ส.ค.ได้ส่งออกแม่พันธุ์โคนมไปยังประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียมาเป็นระยะ และเราจะใช้เป็นกลยุทธ์การตลาดสำคัญในการรับมือกับตลาด AEC ที่ขณะนี้เวียดนาม ซึ่งมีจำนวนประชากรราว 90 ล้านคน ในขณะที่รัฐบาลกำลังเร่งสร้างความมั่นคงทางด้านอาหารให้เกิดขึ้น และได้นำเข้าแม่พันธุ์โคนมของเราไปต่อเนื่อง เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่อ.ส.ค.จะใช้เป็นทีเด็ดสำคัญในปี 2555 นี้” นายนพดลกล่าว นำเสนอข่าวโดยบริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท โฟร์ฮันเดรท จำกัด รายละเอียดสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณสิทธิกร เสงี่ยมโปร่ง โทร. 02-553-3161-3 -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวองค์การส่งเสริมกิจการโคนม+องค์การส่งเสริมกิจการวันนี้

อ.ส.ค. มอบรางวัลการประกวดโคนม ครั้งที่ 40 ยกระดับการเลี้ยงโคนมของเกษตรกรไทย

องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จัดการประกวดโคนมระดับประเทศในงานเทศกาลโคนมแห่งชาติ ประจำปี 2568 ภายใต้แนวคิด "โคนมไทย พิชิตเป้าหมายสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน" เพื่อกระตุ้นเกษตรกรพัฒนาพันธุ์โคนมภายในประเทศ นายสมพร ศรีเมือง ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์และผลการประกวดโคนม ครั้งที่ 40 ประจำปี 2568 ว่า "อ.ส.ค. ได้จัดให้มีการประกวดโคนมชิงถ้วยพระราชทาน ในงาน "เทศกาลโคนมแห่งชาติ" เป็นประจำทุกปี โดยปีนี้ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 40

นางสาวอัญชลี จรัสยศวุฒิชัย ผู้ช่วยกรรมการ... กรุงไทย จับมือ อ.ส.ค. หนุนเกษตรโคนม เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ เสริมแกร่งอุตสาหกรรมโคนมไทย — นางสาวอัญชลี จรัสยศวุฒิชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาค...

วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 นายอาทิ... พด. MOU อ.ส.ค. เพิ่มประโยชน์ที่ดิน สนับสนุนศูนย์เรียนรู้กิจการโคนมแบบครบวงจร ภาคเหนือตอนบน — วันจันทร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 นายอาทิตย์ ศุขเกษม รองอธิบด...

ประธานบอร์ด อ.ส.ค. คนใหม่ท้าชนวิกฤติโควิด... ประธานบอร์ด อ.ส.ค.คนใหม่ท้าชนวิกฤติโควิด-19 — ประธานบอร์ด อ.ส.ค. คนใหม่ท้าชนวิกฤติโควิด-19 เร่งเดินหน้าขับเคลื่อนอ.ส.ค.ขึ้นแท่นผู้นำด้านอุตสาหกรรม...

นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ... จับมือยกระดับการพัฒนาผู้เลี้ยงโคนมไทย — นายสุชาติ จริยาเลิศศักดิ์ รองผู้อำนวยการ ทำการแทนผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) ...