นับเป็นพระกรุณาธิคุณและเป็นขวัญกำลังใจสำคัญของเหล่าพยาบาลชุมชน ที่พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงเสด็จประทานทุนการศึกษาแก่นักศึกษาพยาบาลในโครงการ“จีเอสเค พยาบาลเพื่อชุมชน” และเปิดงานประชุมวิชาการ “บทบาทของพยาบาลยุคใหม่กับสุขภาพดีเข้าถึงได้” ซึ่งสถาบันพระบรมราชชนก ร่วมกับบริษัท แกล็กโซสมิทไคลน์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ จีเอสเค และวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนี กรุงเทพ ได้ร่วมกันจัดขึ้น โดยมี นพ.สมควร หาญพัฒนชัยกูร ผู้อำนวยการ สถาบันพระบรมราชชนก และ นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จีเอสเค พร้อมด้วยพยาบาลจากทั่วประเทศกว่า 450 คน เฝ้ารับเสด็จ ณ ห้องอโนมาแกรนด์ โรงแรมอโนมา เมื่อเร็วๆ นี้
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ได้ประทานทุนการศึกษาแก่นักศึกษาพยาบาล ในโครงการ “จีเอสเค พยาบาลเพื่อชุมชน” ประจำปี 2554 ซึ่งทางโครงการฯได้จัดขึ้นต่อเนื่องเป็นรุ่นที่ 12 เป็นจำนวน 20 ทุน โดยเป็นทุนต่อเนื่องจนสำเร็จการศึกษาพยาบาล ในโอกาสนี้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุทรงรับสั่งให้กำลังใจแก่พยาบาลชุมชนในโครงการฯที่สำเร็จการศึกษาและกำลังปฏิบัติหน้าที่ในชุมชนพื้นที่ห่างไกล พื้นชายแดน รวมถึงพยาบาลที่ปฎิบัติหน้าที่ในพื้นที่ประสบมหาอุทกภัยอยู่ในขณะนี้ ขอให้ทุกคนอดทน อย่าย่อท้อ และขอขอบใจพยาบาลทุกคนที่เสียสละ ช่วยเหลือกันให้ทุกอย่างผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
นพ.สมควร หาญพัฒนชัยกูร ผู้อำนวยการ สถาบันพระบรมราชชนก กล่าวว่า ปัจจุบันมีพยาบาลอยู่ 160,000 คนทั่วประเทศ คิดเป็นอัตราส่วนต่อประชากร 1 ต่อ 400 คน ซึ่งหากดูจากตัวเลขดังกล่าวถือว่าเป็นอัตราที่เหมาะสม แต่ในความเป็นจริงแล้วประเทศไทยเรายังขาดแคลนพยาบาลอยู่มาก เนื่องจากพยาบาลที่มีอยู่ไม่ได้ทำหน้าที่ด้านบริการพยาบาลทั้งหมด มีประมาณ 85% ที่ทำหน้าที่พยาบาล ที่เหลืออีก 15% จะทำงานด้านบริหารและงานอื่นๆ ทำให้สถานพยาบาลในชุมชนและพื้นที่ห่างไกล ยังต้องการพยาบาลชุมชนอยู่อีกมาก
นายวิริยะ จงไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท จีเอสเค กล่าวว่า จากปัญหาการขาดแคลนพยาบาลวิชาชีพ ในการดูแลส่งเสริมสุขภาพให้แก่ประชาชนในถิ่นทุรกันดารในประเทศไทย พร้อมทั้งต้องการให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลสามารถเข้าถึงสุขภาพที่ดีได้ จีเอสเค จึงได้ร่วมกับ สถาบันพระบรมราชชนก ดำเนินโครงการ “จีเอสเค พยาบาลเพื่อชุมชน” มาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 โดยมอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาพยาบาลในสังกัดสถาบันพระบรมราชชนกเพื่อช่วยเหลือเยาวชนที่ด้อยโอกาสในชนบท แต่มีความตั้งใจในการพัฒนาสาธารณสุขท้องถิ่น ให้ได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนวิชาชีพพยาบาล และได้ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลและสถานบริการสาธารณสุขแก่ชุมชนท้องถิ่นของตน ภายหลังสำเร็จการศึกษา อันเป็นการช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต และสร้างเสริมสุขภาพพลานามัยที่ดีให้แก่ประชาชนในพื้นที่ชนบทของประเทศไทยอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบาย “ยาดีเข้าถึงได้” ของจีเอสเค ที่มีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนการเข้าถึงยาและการมีสุขภาพดีของคนไทย ปัจจุบันมีผู้สำเร็จการศึกษาได้เป็นพยาบาลในโครงการ “จีเอสเค พยาบาลเพื่อชุมชน” แล้ว 11 รุ่น เป็นจำนวน 512 ราย พยาบาลเหล่านี้ได้ออกปฏิบัติงานในโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และสำนักงานสาธารณสุข กว่า 120 แห่ง ในพื้นที่ 52 จังหวัดทั่วประเทศ รวมทั้งพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยอยู่ด้วยในขณะนี้ ทำให้ชุมชนและคนในสังคมในท้องถิ่นทุรกันดาร ได้รับการดูแลรักษาที่ดี มีประสิทธิภาพ และสนับสนุนการเข้าถึงการมีสุขภาพดีของคนไทยได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
พยาบาลทุน จีเอสเค รุ่นพี่ที่จบการศึกษาไปแล้ว ได้แสดงความคิดเห็น และมุมมองจากท้องถิ่นที่ทำงานอยู่ เริ่มต้นด้วยพยาบาลทุนจีเอสเคที่ปฏิบัติงานอยู่ภายใต้สถานการณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้
นางสีตีฮายา วาหลง หนึ่งในพยาบาลทุน “จีเอสเค พยาบาลเพื่อชุมชน” รุ่นที่ 2 ซึ่งเป็นพยาบาลทุนรุ่นแรกๆของโครงการฯ ปัจจุบันทำงานโรงพยาบาล เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส “ดิฉันไม่คาดคิดว่าตัวเองจะได้เป็นพยาบาล เพราะตัวเองอาจจะไม่สามารถเรียนจนจบ ในวิทยาลัยพยาบาลพระบรมราชชนนี นราธิวาส แต่เพราะได้รับทุน โครงการ จีเอสเค พยาบาลเพื่อชุมชน จากเด็กตัวเล็กๆ ที่ขาดโอกาส ตอนนี้ได้เป็นพยาบาลที่สมบูรณ์ทั้งกายและใจ เป็นวิชาชีพที่เราภาคภูมิใจ เพราะการได้ช่วยเหลือชีวิตคนเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่มาก แม้ว่าชีวิตการทำงานในช่วงแรกๆจะมีอันตรายรอบด้าน ถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในความเสี่ยง เราก็อดทนเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการรักษาได้ เพราะเราคือพยาบาลที่มีหน้าที่ให้บริการด้านสาธารณสุขให้กับคนในชุมชน แนวคิดหลักของการเป็นพยาบาลของดิฉันก็คือ เราไม่จำเป็นต้องให้การพยาบาลอยู่ในเฉพาะสถานบริการเท่านั้น เราเป็นพยาบาลทั้งกายและใจ เราพร้อมให้การดูแล ช่วยเหลือทุกเมื่อกับคนทุกชนชั้น แม้แต่ในเหตุการณ์ฉุกเฉินทุกสถานการณ์ค่ะ เพื่อการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น”
นางสาวนฤพร อารีย์ พยาบาลทุน “จีเอสเค พยาบาลเพื่อชุมชน” รุ่นที่ 4 ซึ่งเรียนจบเป็นพยาบาลแล้ว และปัจจุบันทำงานที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ผู้ซึ่งเป็นทั้งผู้ประสบภัยและต้องทำหน้าที่พยาบาลในพื้นที่ประสบมหาอุทกภัยครั้งใหญ่ ได้เล่าถึงประสบการณ์การทำงานพยาบาลว่า “แม้น้ำจะท่วมบ้าน แต่ด้วยวิชาชีพเราก็ทำงานเข้าเวรตามปกติเพราะผู้ป่วยต้องการเรา และต้องยอมรับความยากในการทำงานที่มีมากขึ้น เพราะที่โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยาน้ำสูง 3 เมตรค่ะ ไม่สามารถไปทำงานที่โรงพยาบาลได้ ต้องทำศูนย์โรงพยาบาลสนามแทน บางครั้งต้องขึ้นเฮลิคอปเตอร์ไปกับพี่ๆทหารเพื่อไปรับผู้ป่วยหนัก ก็มีทั้งผู้ป่วยใกล้คลอดและผู้ป่วยโรคหัวใจที่อยู่ในภาวะวิกฤติ แต่ละนาทีคือชีวิตของพวกเค้าแต่ยังไงก็ต้องทำให้ดีที่สุด เพราะด้วยวิชาชีพพยาบาลที่เราได้มีโอกาสช่วยเหลือดูแลด้านสุขภาพของคนอื่น โดยเฉพาะในช่วงวิฤติน้ำท่วม แม้ว่าตัวเราเองจะเป็นผู้ประสบภัยเหมือนกัน แต่เมื่อเราได้ช่วยคนอื่นผ่อนหนักให้เป็นเบา เราก็มีความสุข แม้จะเป็นแค่ฟันเฟืองเล็กๆ ก็ต้องพยายามทำให้ดีที่สุดค่ะ”
ในการณ์นี้ ผู้บริหารของบริษัท แกล็กโซสมิทไคล์น (ประเทศไทย) จำกัด ได้เข้าเฝ้าทูลเกล้าฯ ถวายเวชภัณฑ์ยาและเครื่องอุปโภค เพื่อโดยเสด็จพระกุศลสมทบทุนมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยต่อไป และทูลเกล้าฯถวายเงินเพื่อโดยเสด็จพระกุศลสมทบกองทุนโรคมะเร็งในเด็กในพระอุปถัมภ์พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ป่วยเด็กโรคมะเร็งทั่วประเทศอีกด้วย
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net
กลุ่มตรีเพชร โดย บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมกับ บริษัท ฟาอีส ยูไนเต็ด มอเตอร์สปอร์ต จำกัด บริษัท ต.สยาม คอมเมอร์เชียล จำกัด บริษัท ไพโอเนียร์ เอ็นจิเนียริ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัท ริซไวส์มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และบริษัท บี.เจ.มอเตอร์พาร์ท จำกัด ร่วมกันระเบิดศึกอีซูซุ ดีแมคซ์ รวม 19 คัน เพื่อชิงตำแหน่งเจ้าแห่งความเร็วในการแข่งขัน ISUZU ONE MAKE RACE 2025 ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16 ชิงรางวัลถ้วยประทานจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่น สุทธนารีนาถ พร้อมเงินรางวัลรวม 200,000 บาท
วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๐๐ น. นายแพทย์สมควร หาญพัฒนชัยกูร ผอ.สถาบันพระบรมราชนกนำคณะ ผอ.วิทยาลัยการสาธารณสุข เข้าเยี่ยมคารวะนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร...