สหการประมูลเผยผลวิจัยตลาดรถยนต์มือสองฉบับแรกของประเทศไทย ชี้ความต้องการซื้อรถรถยนต์นั่งขนาด 1.3-1.5 ซีซีมีความต้องการซื้อต่อเนื่อง พบอุปทานรถยนต์ประเภทกระบะหดหายสวนทางความต้องการซื้อ ส่งผลให้ตลาดมือสองมีแนวโน้มขยายตัวถึงไตรมาส 1 ปี 55 ส่วนตลาดรถจักรยานยนต์มือสองจะคึกคักจนถึงปีหน้าเพราะรถใหม่ได้รับผลกระทบจากภัยน้ำท่วม ย้ำภาพลักษณ์ผู้นำตลาดประมูลรถยนต์มือสองเร่งเก็บข้อมูลวิจัยตลาดทุกเดือน
นายเอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด จำกัด เปิดเผยถึงผลการวิจัยภาวะตลาดรถยนต์และจักรยานยนต์มือสองว่า เป็นงานวิจัยฉบับแรกของประเทศไทยที่สหการประมูลต้องการนำเสนอข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดและความต้องการซื้อรถยนต์ประเภทต่าง ๆ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการกำหนดทิศทางการตลาดของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับรถยนต์มือสอง ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการ สถาบันการเงิน รวมทั้งผู้บริโภคทั่วไป ซึ่งงานวิจัยดังกล่าวสหการประมูลจะนำเสนอต่อสาธารณะชนต่อเนื่องทุกเดือน เพื่อรายงานถึงสถานการณ์ตลาดของแต่ละเดือนและคาดการณ์ภาวะตลาดในอนาคต โดยจะจัดพิมพ์ขนาด A4 สำหรับแจกฟรีสำหรับผู้ที่สนใจทั่วไป ทั้งนี้ งานวิจัยฉบับแรกนั้นได้ระบุถึงภาวะของตลาดรถยนต์มือสองแต่ละประเภท ดังนี้
ภาวะตลาดประมูลรถยนต์นั่ง
ช่วงเดือนตุลาคม 2554 โรงงานผู้ผลิตรถยนต์หลายค่ายได้หยุดการผลิตชั่วคราวเนื่องจากปัญหาน้ำท่วม ขณะที่โรงงานผู้ผลิตชิ้นส่วนในประเทศหลายรายประสบความเสียหายต้องหยุดการผลิตชิ้นส่วน ส่งผลให้โรงงานผู้ผลิตรถยนต์ขาดชิ้นส่วนในการประกอบรถยนต์ ส่งผลให้อุปทานรถยนต์นั่งใหม่ยังคงหายไปจากตลาดรถยนต์ จนกว่าผู้ผลิตรถยนต์ค่ายต่าง ๆ จะกลับมาผลิตได้ตามปรกติคาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาส 1 ปี 2555 จะส่งผลให้ตลาดประมูลรถยนต์นั่งมือสองคึกคักขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์นั่งประเภท 1300 – 1500cc ซึ่งเป็นรถยนต์ขนาดเล็กเหมาะสำหรับใช้งานในเมือง โดยผู้ซื้อบางส่วนซื้อใช้แทนรถยนต์ที่เสียหายจากน้ำท่วม ดังนั้นความต้องการรถยนต์ประเภท 1300-1500cc จึงมีอย่างต่อเนื่อง สังเกตจากราคาประมูลเฉลี่ยรถยนต์ประเภทดังกล่าวปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 2 เดือน คือตุลาคม– พฤศจิกายน 2554 ปรับตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 15% เมื่อเทียบกับราคาประมูลเดือนกันยายน 2554 สหการประมูลคาดการณ์ราคาประมูลเฉลี่ยรถยนต์นั่ง 1300-1500cc เดือนธันวาคม 2554 ยังมีแนวโน้มปรับตัวขึ้นอีกประมาณ 3% (MoM)
ภาวะตลาดประมูลรถกระบะ
ราคาประมูลเฉลี่ยรถกระบะประเภทต่าง ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงเดือนกันยายน–พฤศจิกายน 2554 สาเหตุเนื่องจากผู้ผลิตรถกระบะจะใช้ชิ้นส่วนในประเทศ 100% ดังนั้น เมื่อโรงงานชิ้นส่วนต่าง ๆ ไม่สามารถผลิตชิ้นส่วน ผู้ผลิตรถกระบะก็ไม่สามารถเดินสายการผลิตได้ ส่งผลให้อุปทานรถกระบะใหม่จะหายไปจากตลาด ในขณะที่กำลังซื้อผู้ซื้อในพื้นที่ที่ไม่มีปัญหาน้ำท่วมยังดีอยู่ เช่น ภาคอีสาน ประกอบกับช่วงตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2554 – เดือนมกราคม 2555 เป็นฤดูเก็บเกี่ยวของเกษตรกร ดังนั้น กำลังซื้อยังดีอยู่ในขณะที่อุปทานขาดหายไปจากตลาด จึงส่งผลให้ราคาประมูลเฉลี่ยรถกระบะประเภทต่าง ๆ อยู่ในเกณฑ์ดีจนถึงช่วงไตรมาส 1 ปี 2555 สหการประมูลคาดการณ์แนวโน้มราคาประมูลเฉลี่ยรถกระบะประเภทต่าง ๆ เดือนธันวาคม 2554 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นเฉลี่ยประมาณ 3 % (MoM)
ภาวะตลาดประมูลรถจักรยานยนต์
โรงงานผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ เช่น ฮอนด้าและยามาฮ่าประสบปัญหาในการจัดหาชิ้นส่วน เนื่องจากโรงงานชิ้นส่วนเสียหายจากภัยน้ำท่วม ส่งผลให้โรงงานผู้ผลิตจะต้องนำเข้าชิ้นส่วนทดแทนจากต่างประเทศ ทำให้อุปทานรถจักรยานยนต์ใหม่หายไปจากตลาด ในขณะช่วงเดือนพฤศจิกายน 2554 – มกราคม 2555 เป็นช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร กำลังซื้อของเกษตรกรในพื้นที่ที่ไม่ประสบปัญหาน้ำท่วม เช่น ภาคอีสาน กำลังซื้อฟื้นตัวดีมาก และเป็นผลตามฤดูกาลหลังจากผ่านหน้าฝน ตลาดซื้อขายจักรยานยนต์จะกลับมาคึกคัก แต่ในปีนี้ผู้ผลิตส่งมอบจักรยานยนต์ให้กับตัวแทนจำหน่ายได้น้อยมาก ดังนั้นตลาดประมูลจักรยานยนต์มือสองจึงเริ่มกลับมาคึกคักเนื่องจากผู้ซื้อเริ่มหันมาหาตลาดจักรยานยนต์มือสองใช้แทนก่อน สหการประมูลมองแนวโน้มราคาประมูลเฉลี่ยจักรยานยนต์ในทิศทางบวก คาดการณ์แนวโน้มราคาประมูลเฉลี่ยจักรยานยนต์ประเภท Moped ในเดือนธันวาคม 2554 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 % (MoM) และจักรยานยนต์ประเภท Automatic ในเดือนธันวาคม 2554 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 – 6 % (MoM)
สำหรับผู้ที่สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ 0-2934-7344-8 หรือ www.union-auction.com