สภาที่ปรึกษาฯ จัดสัมมนา Focus Group “ การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรกรรม: กรณีศึกษาฟาร์มโคนม ”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--สป.

เมื่อวันที่ 10 ก.ค.55 สภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ โดยคณะทำงานการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลดก๊าซเรือนกระจก ซึ่งเป็นปัญหาการสร้างสภาวะโลกร้อน จึงได้จัดโครงการศึกษาเรื่อง “ การเพิ่มโอกาสทางธุรกิจด้วยการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรกรรม : กรณีศึกษาฟาร์มโคนม ”โดยมีนายนิวัตร ตันตยานุสรณ์ ประธานคณะทำงานการทรัพยากรธรรมชาติฯ ชี้แจงวัตถุประสงค์การสัมมนา และเปิดการสัมมนาโดย นายโอกาส เตพละกุล ประธานสภาที่ปรึกษาฯ ณ สำนักงานสภาที่ปรึกษาฯ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษาฯ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายอลงกรณ์ พลบุตร ประธานมูลนิธิสถาบันพลังงานทางเลือกแห่งประเทศไทย อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ แนวทางการลดก๊าซเรือนกระจกของประเทศไทย ” สภาวะโลกร้อน เป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจอย่างมากในยุคปัจจุบัน แม้ประเทศไทยจะก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาหลายเท่าตัวก็ตาม แต่เราต้องมีความตื่นตัวในการแก้ไขปัญหาก๊าซเรือนกระจก และเร่งพัฒนาแนวทางในการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างจริงจัง พลังงานทางเลือก(Alternative energy) หรือ พลังงานทดแทน หมายถึง พลังงานที่สะอาด สามารถนำมาหมุนเวียนใช้ได้ต่อเนื่องไม่มีวันหมด และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ก่อมลพิษต่างๆ เช่น พลังงานก๊าซชีวภาพ พลังงานแสงอาทิตย์ เป็นแนวทางในการลดต้นทุนและเพิ่มรายรับทางเศรษฐกิจแก่เกษตรกรได้ในระยะยาว ต่อมาเป็นการอภิปรายและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เรื่อง “ การดำเนินการลดก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตร : นโยบาย รูปแบบการดำเนินงาน และประโยชน์ที่ได้รับ ” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย ดร.ณัฐริกา วายุภาพ ผู้อำนวยการสำนักยุทธศาสตร์ องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกฯ ดร.พฤกษ์ อักกะรังสี รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ ดร.สราวุธ เทพานนท์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง โครงการ CDM methodology กลไกการพัฒนาที่สะอาด กระบวนการจัดการลดก๊าซเรือนกระจกในวิธีการต่างๆ เช่น การใช้ประโยชน์จากมูลโคหมักเป็นก๊าซชีวภาพ นำมาทดแทนก๊าซ LPG ที่ใช้ในภาคครัวเรือน ผลิตกระแสไฟฟ้า การเปลี่ยนระบบการจัดการทางเกษตรเพื่อลดการปล่อยก๊าซมีเทนและคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่อากาศโดยตรง นำมาบำบัดสร้างก๊าซชีวภาพ(Bio gas) เปลี่ยนเป็นพลังงานทดแทน การนำขยะพลาสติกมาแปรรูปเป็นน้ำมันดิบและน้ำมันไบโอดีเซล อีกทั้งการลดก๊าซเรือนกระจกจะส่งผลที่ดีต่อระบบสิ่งแวดล้อม ทำให้โคสุขภาพแข็งแรงสามารถสร้างผลผลิตได้มากขึ้น ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคเกษตรกรรมได้เป็นอย่างดี ผศ.ดร.วรรัตน์ ปัตรประกร มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวถึง เทคโนโลยีในการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจในภาคเกษตรกรรม การนำของเสียทางการเกษตรมาผลิตพลังงานเพื่อลดต้นทุนพลังงาน เพิ่มมูลค่าของเสีย ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเพิ่มคุณภาพชีวิตด้านสุขอนามัย กรณีศึกษาสหกรณ์โคนม การกระจายตัวของฟาร์มโคนม คือ พิจารณาการขนส่งมูลโคนมไปยังบ่อหมัก และการใช้ประโยชน์จากของเสีย นำมาหมักเป็นก๊าซชีวภาพ เพื่อเป็นก๊าซหุงต้ม ผลิตไฟฟ้า หรือนำมาทำปุ๋ย ซึ่งปัจจุบันมีการศึกษาหาตำแหน่งที่เหมาะสมของโรงผลิตก๊าซชีวภาพจากมูลโคนมสำหรับสมาชิกสหกรณ์โคนม เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าทางเศรษฐศาสตร์สูงที่สุด ด้านนางสาวแอนนา เขียวชอุ่ม องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจกฯ กล่าวถึง หลักการและแนวทางการดำเนินงานโครงการกลไกการพัฒนาที่สะอาด CDM ( Clean Development Mechanism) หรือ การขายคาร์บอนเครดิต ซึ่งมีการซื้อขายสิทธิในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยประเทศที่พัฒนาแล้วจะเป็นผู้ซื้อสิทธิ ส่วนประเทศกำลังพัฒนาจะเป็นผู้ขายสิทธิ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพิ่มเติมจากที่ปล่อยอยู่แล้ว ต้องเป็นโครงการที่มีการดำเนินการเพิ่มเติมจากธุรกิจปกติในด้านต่างๆ เช่น การลงทุนและสิ่งแวดล้อม ปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต้องได้รับการรับรองโดยหน่วยปฏิบัติการ ก่อให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริง ตรวจวัดได้ และเป็นประโยชน์ในระยะยาวที่จะบรรเทาต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทั้งนี้ คาดว่าผลจากการสัมมนา ซึ่งคณะทำงานการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จะรวบรวมและสังเคราะห์ข้อมูล จัดทำความเห็นและข้อเสนอแนะเชิงนโยบายเสนอต่อสภาที่ปรึกษาฯ พิจารณาให้ความเห็นชอบ และนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรีต่อไป-กภ-

ข่าวนิวัตร ตันตยานุสรณ์+ลดก๊าซเรือนกระจกวันนี้

ม.วลัยลักษณ์ ประกาศเจตนารมณ์ "มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน" ภายในปี 2030

ชูโมเดลมหาวิทยาลัยสีเขียวต้นแบบ สอดรับนโยบาย Net Zero ระดับประเทศและการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ วันที่ 28 พฤศจิกายน 2568 มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ จัดพิธีประกาศเจตนารมณ์ "มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน" (Carbon Neutrality) ตั้งเป้าบรรลุผลสำเร็จภายในปี พ.ศ. 2573 (ค.ศ. 2030) เดินหน้าแผนปฏิบัติการจริงเพื่อลดก๊าซเรือนกระจก พร้อมเปิดป้าย "แหล่งกักเก็บคาร์บอน" (Carbon Sink) โดยมีผู้บริหาร คณาจารย์ บุคลากรมหาวิทยาลัย ตลอดจนนักศึกษา สื่อมวลชน สนใจเข้าร่วมที่ห้องประชุมบุษราคัม

สภาที่ปรึกษาฯ รับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะ เรื่อง “การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อเฝ้าระวัง ฟื้นฟู และอนุรักษ์แม่น้ำ คูคลอง ของประเทศ”

วันที่27 ม.ค.คณะทำงานการทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม สภาที่ปรึกษาฯ จัดการสัมมนา เรื่อง “การสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชน เพื่อศึกษา รับฟังข้อมูล และแลก...