จ๊อบส์ ดีบี กระตุ้นแรงงานไทย ฟิตภาษา เพิ่มทักษะ รับมือ AEC

20 Mar 2012

กรุงเทพฯ--20 มี.ค.--ดีซี คอนซัลแทนส์ฯ

จ๊อบส์ ดีบี กระตุ้นทุกภาคส่วนเตรียมรับมือการเปิดเสรีแรงงานในภูมิภาคจากการที่ประเทศไทยจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 แนะแรงงานไทย ฟิตภาษา เพิ่มทักษะการทำงาน “รู้เขา รู้เรา” เปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส ล่าสุด จับมือพันธมิตรธุรกิจชั้นนำ 200 แห่ง นำโดย กรุงศรี กรุ๊ป เครือธนาคารกสิกรไทย กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย กลุ่มบริษัทยูนิลีเวอร์ในประเทศไทย กลุ่ม ปตท. และอีกมากมาย เปิดรับสมัครงานคุณภาพกว่า 30,000 อัตรา ใน มหกรรมสมัครงานออนไลน์: Career Exhibition 2012 by JobsDB.com ครั้งที่ 8 ณ ห้องเพลนารี ฮอลล์ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 16 - 18 มีนาคม 2555

มหกรรมสมัครงานออนไลน์ครั้งนี้จะยังคงชูระบบ E–Recruitment Solution เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดสรรพนักงานคุณภาพ พร้อมเพิ่มความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้นด้วยระบบ Barcode สมัครงานผ่านบัตร Career Card และนอกจากกิจกรรมต่างๆ มากมายแล้ว อีกหนึ่งกิจกรรมที่เป็นไฮไลท์ก็คือ งานเสวนา HR Forum ในหัวข้อ “เก่งและดี โดนใจนายจ้างยุคดิจิตอล กับการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)” คาดยอดผู้ร่วมงานปีนี้กว่า 80,000 คน

นางนพวรรณ จุลกนิษฐ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท จัดหางาน จ๊อบส์ ดีบี (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดแรงงานไทยในปีนี้เริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการทุกอุตสาหกรรมต่างเร่งฟื้นฟูธุรกิจ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น และเปิดโอกาสให้ผู้หางานได้งานที่ดี บริษัทต่างๆ ก็จะได้เลือกสรรบุคลากรได้อย่างเต็มที่ ขณะที่ภาพรวมตลาดแรงงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคไม่แตกต่างจากไทยนัก เพราะตลาดแรงงานจะผันแปรตามสภาพสังคม เศรษฐกิจและการเมือง แต่ที่เห็นได้ชัดขณะนี้ คือ ประเทศพม่ากำลังจะกลายเป็นตลาดที่ประเทศต่างๆ ต้องการเข้าไปลงทุน เนื่องจากค่าแรงต่ำ เพียงแต่แรงงานในพม่ายังเป็นแรงงานขั้นพื้นฐานที่ไม่ต้องใช้ทักษะเฉพาะเท่าที่ควร

“ประเด็นที่ต้องจับตาตอนนี้ คือ ไทยกำลังจะเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 นั่นหมายถึง ประเทศในอาเซียนจะสามารถเคลื่อนย้ายปัจจัยการผลิตได้อย่างเสรี สามารถทำการผลิตที่ไหนก็ได้ โดยใช้ทรัพยากรจากแต่ละประเทศ ทั้งวัตถุดิบและแรงงาน มีมาตรฐานสินค้า กฎเกณฑ์ กฎระเบียบเดียวกัน ซึ่งเท่ากับว่า ทุกภาคส่วนของไทย รวมถึงภาคแรงงานจะต้องตื่นตัว และเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น” นางนพวรรณ กล่าว

เธอกล่าวอีกว่า ผู้หางานก็ต้องตื่นตัวด้วยเช่นกัน เพราะจะมีการเคลื่อนย้ายแรงงานได้อย่างเสรี ส่งผลให้คนที่มีศักยภาพหรือความสามารถที่โดดเด่นกว่าจะได้เปรียบในเรื่องการหางาน โดยเฉพาะผู้ที่มีทักษะและมีความรู้ความสามารถที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นด้านภาษา ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ ความชำนาญเฉพาะด้านในแต่ละสาขาอาชีพ ทักษะด้านการนำเสนอหรือประสานงาน ซึ่งหากผู้หางานมีสิ่งเหล่านี้ครบถ้วน ก็จะได้รับการพิจารณาก่อนเป็นอันดับต้นๆ

“ผลดีของการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างเสรีนั้น จะทำให้ตลาดแรงงานมีความยืดหยุ่นมากขึ้น มีการเคลื่อนย้ายเงินทุน การลงทุน แรงงานสามารถทำงานได้ในทุกประเทศในอาเซียน แต่จุดอ่อนโดยภาพรวมของแรงงานไทยคือ ภาษาอังกฤษ ทักษะในการนำเสนอ และทักษะในการติดต่อประสานงานกับแผนกอื่นๆ โดยเฉพาะคนที่จบในสายอาชีพที่มักถนัดการคิดวิเคราะห์ เช่น ไอที วิศวกร แต่มักจะขาดทักษะด้านการสื่อสาร การนำเสนอ ซึ่งความจริงแล้วควรมีทักษะทุกด้านรวมกัน แต่หากใครมีครบก็จะได้เปรียบ เพราะทุกองค์กรต้องการคนที่มีความสามารถหลากหลาย และทำได้หลายๆ อย่างในเวลาเดียวกัน” นางนพวรรณ กล่าวแนะนำ

นอกจากนี้ คนที่มีความสามารถของไทยเราเอง อาจมีการโยกย้ายไปทำงานต่างประเทศที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า เช่น ประเทศสิงคโปร์ ทำให้ประเทศไทยผลิตคนมาทดแทนคนเหล่านั้นไม่ทัน รวมไปถึงแรงงานของประเทศเพื่อนบ้านก็จะหลั่งไหลเข้ามาทำงานในไทยมากขึ้นเช่นกัน เกิดการแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งงาน เพราะฉะนั้น เพื่อป้องกันปัญหาความผันผวนด้านแรงงานที่จะเกิดขึ้น เราจึงต้องเตรียมความพร้อมให้ดีเสียแต่วันนี้ โดยเริ่มจากการพัฒนาศักยภาพคนภายในประเทศ และสวัสดิการที่ดีควบคู่กันไป

ดังนั้นการเตรียมความพร้อมของตัวเองถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของผู้หางาน อันดับแรกที่ผู้หางานยุคประชาคมอาเซียนต้องเตรียมให้ดีที่สุด ก็คือ เรื่องภาษา เพราะเมื่อประเทศไทยก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว ภาษาอังกฤษจะถูกใช้เป็นภาษาหลัก ซึ่งหลายประเทศในแถบอาเซียนจะได้เปรียบกว่าเราในเรื่องนี้ เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย หรือฟิลิปปินส์ เป็นต้น

นอกจากความพร้อมทางภาษาแล้ว ผู้หางานจะต้อง “รู้เราและรู้เขา” ควบคู่กันไปด้วย - รู้เรา คือ ต้องรู้ว่าตนมีความชอบความถนัดเรื่องอะไร แล้วสร้างเป็นจุดแข็งที่จะทำให้หางานได้ตรงความต้องการ - ส่วนรู้เขา คือ ต้องรู้ว่าบริษัทที่อยากทำงานด้วยทำธุรกิจอะไร กำลังเปิดรับสมัครงานตำแหน่งอะไร ผู้บริหารเป็นใคร ผลิตภัณฑ์หลักคืออะไร คู่แข่งเป็นใคร มีส่วนแบ่งทางการตลาดเท่าไหร่ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้หลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ลึกซึ้งเกินกว่าผู้สมัครงานตำแหน่งทั่วไปควรจะรู้ แต่ถ้ารู้ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ต้องการไปทำงานด้วยมากเท่าไหร่ ก็จะสามารถตอบคำถามสัมภาษณ์ได้ดีมากขึ้น

“การเตรียมตัวจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการสมัครงาน ต้องอ่านรายละเอียดงาน (Job Description) ให้ชัดเจน แล้วพิจารณาว่าเป็นงานที่ต้องการจริงๆ หรือไม่ สามารถใช้ความรู้ ความสามารถ ความถนัด และทักษะที่มีอยู่ในการทำงานตำแหน่งนั้นได้ดีมากน้อยเพียงไร ซึ่งผู้สมัครงานคนไทยมักพลาดเรื่องการเตรียมความพร้อมมากที่สุด” นางนพวรรณ กล่าวสรุป

นางสาวเกษร หวังวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายบุคลากรและวางแผน กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย กล่าวว่า พานาโซนิค ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมหลากหลายในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิคส์ ตำแหน่งงานที่เปิดรับสูงสุด คือ “วิศวกร” ครอบคลุมตั้งแต่การวิจัยและพัฒนา (R&D) การออกแบบ (Design) การผลิต (Production) การควบคุมคุณภาพ (Quality) การขายและการบริการ (Sales & Service) เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT) ฯลฯ การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนในปี 2558 จะส่งผลให้เกิดการแข่งขันอย่างเข้มข้นในตลาดแรงงาน เนื่องจากการไหลเวียนอย่างเสรีของแรงงานในภูมิภาค การทำงานในบริษัทข้ามชาติที่มีเครือข่ายทั่วโลกอย่าง Panasonic จะต้องติดต่อลูกค้า ซัพพลายเออร์ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการดำเนินธุรกิจ ภาษาต่างประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ เรียนรู้สิ่งใหม่ และสร้างมูลค่าเพิ่มที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก ดังนั้น ผู้หางานจึงควรพัฒนาทักษะทางธุรกิจ การสื่อสาร และภาษาต่างประเทศควบคู่กันไป เพื่อให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในยุคโลกาภิวัตน์

นายศรัณย์ คุ้งบรรพต ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาศักยภาพองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กรุงศรี กรุ๊ป เป็นกลุ่มสถาบันการเงินที่ให้บริการด้านการเงินครบวงจร มีการเติบโตของธุรกิจและขยายงานอย่างต่อเนื่อง โดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครืออีก 17 บริษัท ต้องการบุคลากรที่มีศักยภาพมาร่วมงานในตำแหน่ง ด้าน Front Line ได้แก่ เจ้าหน้าที่พัฒนาธุรกิจ (CSR) เจ้าหน้าที่บริการธุรกิจ (UTL) เจ้าหน้าที่สินเชื่อ (Relationship Manager) ของสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ (Corporate) ด้าน Back Office หรือหน่วยงานสนับสนุนธุรกิจ ได้แก่ เจ้าหน้าที่วิเคราะห์สินเชื่อ (Credit Analysis) และเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology)

“ในเบื้องต้นผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติดังนี้ วุฒิปริญญาตรีขึ้นไป มีประสบการณ์ ทักษะและความเชี่ยวชาญในสายงานที่เกี่ยวข้อง มีคุณสมบัติตรงกับค่านิยมของกรุงศรี คือ 1. ความซื่อสัตย์ ปฎิบัติถูกต้อง (Integrity) 2. การร่วมใจ ร่วมคิด ร่วมทำ (Team Spirit) 3. ความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศ (Passion for Excellence) 4. การมองเห็นลูกค้าคือคนสำคัญ (Customer Centricity) และ 5.การก้าวทันความเปลี่ยนแปลง (Embracing Change)” นายศรัณย์ กล่าว

ด้านนางเดือนเพ็ญ ภวัครานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายบริหารงานทรัพยากรบุคคล ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เครือธนาคารกสิกรไทย ต้องการบุคลากรในตำแหน่งงานระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า สาขาบริหารธุรกิจ การเงินการธนาคาร เศรษฐศาสตร์ วิศวกรรม หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง และต้องมีประสบการณ์ด้านการวางแผนการเงิน สินเชื่อ การบริหารความเสี่ยง รวมไปถึงการบริการและการขาย โดยจะเน้น สรรหาบุคลากรที่เป็นคนเก่ง คนดี เข้ากับวัฒนธรรมขององค์กร คือ ยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สามารถทำงานร่วมกันเป็นทีม มีความเป็นมืออาชีพ และชอบคิดริเริ่มสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา

ด้านความร่วมมือจากพันธมิตรหลักที่มาร่วมออกบูธรับสมัครงานในปีนี้ จ๊อบส์ ดีบี ได้รับเกียรติจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เครือธนาคารกสิกรไทย กลุ่มบริษัท พานาโซนิคในประเทศไทย กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย และ กลุ่ม ปตท. ร่วมด้วยบริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทแซง-โกแบ็ง ประเทศไทย บริษัท อมาเดอุส เอเชีย จำกัด เครือเบทาโกร บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด บริษัท เดอะ ไมเนอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กลุ่มบริษัทล็อกซเล่ย์ บริษัท เอก-ชัย ดิสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (เทสโก้ โลตัส) บริษัท สยามมิชลิน จำกัด และบริษัทต่างๆ อีกรวมทั้งสิ้นกว่า 200 บริษัท

นอกจากบูธรับสมัครงานจากกว่า 200 บริษัทแล้ว ภายในงานยังมีกิจกรรมอีกมากมายโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลจากแต่ละบริษัทชื่อดัง ที่ได้มาแนะเทคนิคเคล็ดลับดีๆ ให้แก่ผู้หางานตลอดทั้ง 3 วัน พร้อมพิเศษกับกิจกรรมเสวนา ติวเข้มเตรียมความพร้อมเข้าสัมภาษณ์งาน การเปิดเวที HR Forum พูดคุยกันระหว่างผู้บริหารจ๊อบส์ ดีบี และผู้บริหารฝ่ายบุคคลจากองค์กรชื่อดัง คือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เครือธนาคารกสิกรไทย กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย กลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ในประเทศไทย ในหัวข้อ “เก่งและดี โดนใจนายจ้างยุคดิจิตอลกับการเตรียมความพร้อมเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC)” -กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net