ไมโครซอฟท์เปิดตัวโซลูชั่น Microsoft SQL Server 2012 เพื่อช่วยลูกค้าบริหารจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลในประเทศไทยอย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์

แพล็ตฟอร์มข้อมูลที่รองรับระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งเวอร์ชั่นล่าสุดจากไมโครซอฟท์วางตลาดพร้อมให้เลือกใช้แล้ววันนี้ ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดตัวโซลูชั่น Microsoft? SQL Server? 2012 แพล็ตฟอร์มข้อมูลเวอร์ชั่นล่าสุดที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย พร้อมให้องค์กรในประเทศไทยได้เลือกใช้แล้ว โดยโซลูชั่น Microsoft SQL Server 2012 นี้จะช่วยให้สามารถจัดการกับปริมาณข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปัจจุบัน โดยเปลี่ยนข้อมูลเหล่านั้นให้เป็นข้อมูลเชิงลึกสำหรับธุรกิจ จากสถิติของบริษัทวิจัยการ์ทเนอร์ ปริมาณข้อมูลทั่วโลกเพิ่มขึ้นอย่างน้อยร้อยละ 59 ต่อปี โดยร้อยละ 85 เป็นข้อมูลที่ไร้โครงสร้าง (unstructured) และไม่สามารถจัดการให้ใช้งานในระบบการบริหารข้อมูลแบบดั้งเดิมได้[i] องค์กรต่างๆ จำเป็นต้องหาแนวทาง ทำความเข้าใจและบริหารจัดการข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาล ในขณะเดียวกันภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของข้อมูลยังคงเพิ่มขึ้น ทำให้การดูแลควบคุมจึงต้องเข้มงวดขึ้นตามไปด้วย[1] นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ปริมาณข้อมูลในปัจจุบันเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากกว่าเมื่อก่อน ทำให้องค์กรต้องหาทางจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านั้น โซลูชั่น MicrosoftSQL Server 2012 มีแพล็ตฟอร์มและเครื่องมือที่ลูกค้ามีความคุ้นเคยอยู่แล้วจึงช่วยให้การจัดการง่ายขึ้นและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยสามารถสร้างข้อมูลเชิงลึกและช่วยขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวไปข้างหน้า โดยเฉพาะช่วยกระตุ้นการพัฒนาธุรกิจขององค์กรในประเทศไทยเพื่อก้าวเป็นผู้นำในสมาคมเศรษฐกิจอาเซียน 2015 หรือ ASEAN Economic Community 2015 ที่กำลังจะถึงนี้” Microsoft SQL Server 2012 เป็นหนึ่งในโซลูชั่นหลักจากไมโครซอฟท์เพื่อการเร่งการเติบโตทางธุรกิจ หรือ Business Accelerating Plan (BAP) ได้รับการออกแบบมาเพื่อช่วยพัฒนาองค์กรขึ้นไปอีกระดับ ด้วยแพล็ตฟอร์มที่รองรับการใช้งานแบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง เมื่อนำมารวมเข้ากับการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องของระบบ (High Availability) และความสามารถในการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพจะทำให้เกิดการลงทุนที่คุ้มค่า โดยบริษัทวิจัยไอดีซี คอร์ป ได้เผยแพร่บทความวิจัยเกี่ยวกับโซลูชั่น Microsoft SQL Server 2012 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา[ii] โดยให้คำจำกัดความว่า Microsoft SQL Server 2012 เป็น “ตัวเปลี่ยนเกมทางธุรกิจ” [1][1] ความสามารถที่พิสูจน์แล้วจากการใช้งานจริงของมหาวิทยาลัยศรีปทุมและทีม AC Milan มหาวิทยาลัยศรีปทุมเป็นหนึ่งในองค์กรของประเทศไทยได้รับประโยชน์จากการนำ Microsoft SQL Server 2012 เข้ามาใช้งาน โดยนายปรเมศร์ เพียรสกุล ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) มหาวิทยาลัยศรีปทุม กล่าวว่า “Microsoft SQL Server 2012 มีขั้นตอนการติดตั้งที่รวดเร็ว ทั้งยังง่ายต่อการใช้งานเพราะทำงานเชื่อมโยงกับโปรแกรมที่บุคลากรของมหาวิทยาลัยคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วอย่าง Microsoft? Excel? และ PowerPoint หลังจากติดตั้งแล้วเราใช้โซลูชั่นนี้ในการวิเคราะห์ข้อมูลในการรับสมัครนักศึกษาใหม่ ทั้งในระดับปริญญาตรีถึงปริญญาเอก จากทุกศูนย์การศึกษาในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทำให้มหาวิทยาลัยสามารถจัดโครงสร้างของข้อมูลนำไปสู่การตัดสินใจที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ข้อมูลของนักศึกษาแต่ละคนยังเชื่อมโยงกับบัตรประจำตัวนักศึกษาในระบบของมหาวิทยาลัย ช่วยให้ระบบสมาร์ทไอทีของมหาวิทยาลัยมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น” โซลูชั่น Microsoft SQL Server 2012 ยังเป็นเครื่องมือหลักของศูนย์ปฏิบัติการของสโมสร AC Milan ในประเทศอิตาลี ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการฝึกและทดสอบคุณสมบัติของนักฟุตบอล ด้วยโซลูชั่นนี้ นักฟุตบอลและทีมงานสามารถวิเคราะห์และทำงานได้ตรงตามข้อมูลด้านสุขภาพและสมรรถภาพของร่างกายของนักฟุตบอลในทีม นอกจากนี้ ธุรกิจชั้นนำระดับโลกกว่า 100 บริษัท จากหลากหลายอุตสาหกรรม อาทิ วอลโว่ คาร์ คอร์ปอเรชั่น เรฟล่อน เดอะ เอชเอสเอ็น (The HSN) ซาโนฟี่ ปาสเตอร์ เว็บไซต์ Klout และแอลจี เคมีคอล ยังนำโซลูชั่น Microsoft SQL Server 2012 มาใช้ในกระบวนการผลิตอีกด้วย ลดปัญหาระบบไอทีล่มและมีข้อมูลแบบอินเทอร์แอ็คทีฟที่สวยงาม “AlwaysOn” เป็นฟีเจอร์หลักในโซลูชั่น Microsoft SQL Server 2012 ซึ่งจะช่วยลดปัญหาระบบไอทีล่ม (downtime) โดยเป็นฟีเจอร์ที่ผนวกเข้ากับโซลูชั่นกู้คืนข้อมูลจากภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพสูง นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถเข้าถึงและจัดเรียงข้อมูลที่มีปริมาณมหาศาลได้หลายพันล้านแถวด้วยฟีเจอร์ PowerPivot ซึ่งถูกสร้างบน Microsoft? Excel? และสามารถดูข้อมูลแบบอินเทอร์แอ็คทีฟที่สวยงามและนำไปใช้งานได้หลายวัตถุประสงค์ ผ่านฟีเจอร์ Power View นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ ผู้จัดการอาวุโสกลุ่มผลิตภัณฑ์เซิร์ฟเวอร์ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวเพิ่มเติมว่า “เครื่องมือเพื่อการพัฒนาในโซลูชั่น Microsoft SQL Server 2012 จะช่วยให้พนักงานฝ่ายไอทีและนักพัฒนาสามารถตอบสนองต่อความต้องการและโอกาสทางธุรกิจได้รวดเร็วขึ้น นักพัฒนาสร้างแอพพลิเคชั่นเพียงครั้งเดียว จากนั้นฝ่ายไอทีก็สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะสำหรับการใช้งานระบบดาต้าเซ็นเตอร์แบบดั้งเดิม เครื่องมือ ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้งภายในองค์กรและ Windows? Azure? ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์มคลาวด์ คอมพิวติ้งแบบสาธารณะ รวมถึง Microsoft SQL Azure อีกด้วย” “โซลูชั่น Microsoft SQL Server 2008 R2 เป็นแพล็ตฟอร์มฐานข้อมูลที่มีความปลอดภัยมากที่สุดและทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานได้ดีมีประสิทธิภาพ (uptime) ถึงร้อยละ 99.9999[iii] ซึ่งโซลูชั่น Microsoft SQL Server 2012 เวอร์ชั่นล่าสุดยังคงจุดเด่นข้อนี้ไว้ด้วยการเป็นผู้นำเซิร์ฟเวอร์ฐานข้อมูลและแพล็ตฟอร์มข้อมูลชั้นนำระดับโลก” นางสาวปัญจพร วิทยเลิศพันธุ์ กล่าวสรุป สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม (สำหรับสื่อมวลชน) กรุณาติดต่อ: คุณเพ็ญศรี เอี่ยมคล้าย ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์ โทรศัพท์: 0-2627-3501 ต่อ 105 โทรสาร: 0-2627-3510 อีเมล: [email protected] [i] “The End of the Database as We Know It – noDISK, noSQL, Cloudy” โดย Donald Feinberg, งานสัมมนาด้านไอทีของการ์ทเนอร์ ( Gartner IT Symposium), ตุลาคม 2552 [ii][ii] ผลงานวิจัยเรื่อง “Microsoft SQL Server 2012: Potential Game Changer” โดย Amy Konary และ Carl W. Olofson, ไอดีซี, มกราคม 2555 [iii] ลิงก์ข้อมูล”กรณีศึกษาเรื่องการปกป้องข้อมูลเมื่อเกิดปัญหาระบบไอทีล่มและเกิดการสูญหาย” โดยไมโครซอฟท์ , http://www.microsoft.com/casestudies/Microsoft-SQL-Server-2008-R2-Enterprise/Stratus-Technologies/Protect-your-mission-critical-databases-from-downtime-and-data-loss-with-six-nines-uptime-availability/4000007136 -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าววิจัยการ์ทเนอร์+บริหารจัดการวันนี้

การ์ทเนอร์วิเคราะห์ 40% ของโซลูชัน Generative AI จะทำงานแบบมัลติโหมดภายในสามปี

การ์ทเนอร์คาดการณ์ว่าในอีกสามปี (พ.ศ. 2570) 40% ของโซลูชัน Generative AI จะทำงานในแบบมัลติโหมดที่จะสามารถประมวลผล ทำความเข้าใจและทำงานร่วมกับข้อมูลได้มากกว่าหนึ่งประเภท (อาทิ ข้อความ, รูปภาพ, เสียง และวิดีโอ) ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1% ในปี 2566 โดยการเปลี่ยนแปลงนี้ทำให้ Human-AI มีปฏิสัมพันธ์ที่พัฒนายิ่งขึ้น และยังมอบโอกาสที่จะสร้างความต่างให้กับสิ่งที่ GenAI มีให้ เอริค เบรทเดอนิวซ์ รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า "เนื่องจากตลาด GenAI วิวัฒน์ไปสู่โมเดลที่เกิดและพัฒนาด้วยโหมดต่าง ๆ มากกว่าหนึ่ง

การ์ทเนอร์เผยประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ หรื... การ์ทเนอร์ชี้ CIO ต้องรักษาสมดุลระหว่าง "คำมั่นสัญญาด้านสิ่งแวดล้อม" และ "ความเสี่ยงของ AI" — การ์ทเนอร์เผยประโยชน์ของปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ต้องสมดุลกับผล...

บาร์ท วิลเลมเซ่น รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเ... การ์ทเนอร์เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์ในปี 2567 — บาร์ท วิลเลมเซ่น รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ กล่าวว่า "การรับมือกับความปั่นป่วนทางเทคโนโลยีและควา...

โดย ดีน ลาเชก้า รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเน... สุดทางแล้ว "รัฐบาลดิจิทัล" เมื่อโลก "หลังยุคดิจิทัล" เริ่มขึ้น — โดย ดีน ลาเชก้า รองประธานฝ่ายวิจัยการ์ทเนอร์ เทคโนโลยีดิจิทัลไม่ได้เป็นตัวกำหนดแนวทางหรือ...

มีเพียง 9% ของพนักงานที่จะทำงานจากระยะไกล... การ์ทเนอร์คาดการณ์ภายในสิ้นปี 2566 พนักงานที่มีทักษะความรู้ทั่วโลก 39% จะทำงานแบบ Hybrid — มีเพียง 9% ของพนักงานที่จะทำงานจากระยะไกลเต็มรูปแบบ (Work Fully...

การ์ทเนอร์ อิงค์ ประกาศ 10 เทรนด์เทคโนโลย... การ์ทเนอร์เปิด 10 เทรนด์เทคโนโลยีสำคัญในปี 2566 — การ์ทเนอร์ อิงค์ ประกาศ 10 เทรนด์เทคโนโลยีมาแรงที่องค์กรธุรกิจต้องจับตาและศึกษา เพื่อรับมือกับการเป...

สถาบันไอเอ็มซีแนะธุรกิจไทยปรับ 4 ด้านรับม... สถาบันไอเอ็มซีแนะธุรกิจไทยปรับ 4 ด้านรับมือ 9 เทรนด์แรงปี 64 — สถาบันไอเอ็มซีแนะธุรกิจไทยปรับ 4 ด้านรับมือ 9 เทรนด์แรงปี 64 การคาดการณ์จากสำนักวิจัยการ์ทเ...