WWF และมูลนิธิ โคคา โคลา ประเทศไทย ผนึกกำลังร่วมกับจังหวัดขอนแก่น สร้างแนวทางอนุรักษ์แก่งละว้าอย่างยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--30 เม.ย.--WWF ประเทศไทย

เมื่อเร็ว ๆ นี้ WWF ประเทศไทย มูลนิธิโคคา โคลา ประเทศไทย สำนักงานทรัพยากรน้ำภาคที่ 4 คณะกรรมการลุ่มน้ำชี ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในจังหวัดขอนแก่น ได้ร่วมจัดประชุมคณะทำงานโครงการพัฒนาศักยภาพชุมชนและความมั่นคงของระบบนิเวศเพื่อการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศลุ่มน้ำชี WWFประเทศไทย ครั้งที่ 1/2555 ณ ห้องมงกุฏทอง โรงแรมโฆษะ จังหวัดขอนแก่น นายธนวัฒน์ พลอยโสภณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น ประธานในประชุม กล่าวว่า จังหวัดขอนแก่นเป็นพื้นที่ราบลุ่มอยู่ใกล้ภูเขา ซึ่งมีพื้นที่รับน้ำจำนวนมากหนึ่งมีความมีความเสี่ยงต่อน้ำท่วมและภัยแล้งเป็นอย่างมาก โดยเฉาะในพื้นที่ลุ่มน้ำน้ำชี น้ำพอง น้ำเชิญ น้ำห้วยสายบาตรที่ใกล้เมืองขอนแก่นก็จะเป็นห้วยพระคือ ห้วยพระลับ ในพื้นที่แก่งละว้า ซึ่งเป็นพื้นที่ดำเนินงานสาธิตนำร่องโครงการฯ ของ WWF ประเทศไทย เป็นพื้นที่รองรับน้ำหรือแก้มลิงขนาดใหญ่ที่สุดของลุ่มน้ำชี ช่วยรองรับและชะลอการไหลเข้าสู่เมืองขอนแก่นและจังหวัดด้านล่าง ซึ่งชุมชนโดยรอบแก่งละว้าและริมฝั่งแม่น้ำชีได้รับผลกระทบเรื่องน้ำท่วมหลาก สภาวะความแห้งแล้งที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของชุมชนทุกปี และความสมบูรณ์ของทรัพยากรยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องทุกปีเช่นกัน “จะทำอย่างไรถึงจะสามารถช่วยให้เกิดการบูรณาการ สนับสนุนกิจกรรม รวมทั้งคิดค้นแนวคิดริเริ่ม นวัตกรรมใหม่ ๆ ในการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพที่ตอบสนองประโยชน์ของแก่งละว้าในหลากหลายมิติ ดังที่กล่าวมาข้างต้นได้อย่างสมดุล ทั้งการฟื้นฟูความหลากหลายทางชีวภาพ การพัฒนาและส่งเสริมอาชีพที่ยั่งยืนกับชุมชนที่เกี่ยวกับการประมง การเกษตร การปศุสัตว์ การท่องเที่ยว เพื่อจะเป็นบทเรียนและเครื่องมือให้จังหวัดขอนแก่นได้พัฒนาแผนแม่บทในการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำแก่งละว้าอย่างยั่งยืน ที่สามารถนำไปสู่การปฏิบัติที่เป็นรูปธรรมได้จริง” นายธนวัฒน์ กล่าว นายรัฐพล พิทักษ์เทพสมบัติ ผู้จัดการโครงการพัฒนาศักยภาพชุมชนและความมั่นคงของระบบนิเวศเพื่อการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ WWF ประเทศไทย กล่าวว่า โครงการ ฯ ดังกล่าวได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากมูลนิธิ โคคา โคลา ประเทศไทย ดำเนินงานในพื้นที่ชุ่มน้ำแก่งละว้าที่อำเภอบ้านไผ่และอำเภอบ้านแฮด จังหวัดขอนแก่น ระยะเวลาดำเนินกิจกรรม 3 ปี คือ 2554-2557 ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อการพัฒนาศักยภาพชุมชนและความมั่นคงของระบบนิเวศโดยการเสริมสร้างความเข้มแข็งของการจัดการทรัพยากรน้ำแบบมีส่วนร่วมในระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำเพื่อรองรับและปรับตัวจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ “ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์และข้อเท็จจริงของโครงการจะนำไปวางแผนการสนับสนุนการอนุรักษ์และฟื้นฟูระบบภูมินิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำทั้งในระดับภูมิภาคลุ่มน้ำชีที่เกื้อหนุนต่อการดำรงชีวิตอย่างยั่งยืนของชุมชนท้องถิ่น โดยจะลดความเสี่ยงและป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเท่าทัน” นายรัฐพล กล่าว นายประสิทธิ์ หวานเสร็จ ผู้อำนวยการส่วนประสานและบริหารจัดการลุ่มน้ำชีตอนบน สำนักงานคณะกรรมการลุ่มน้ำชี กล่าวเพิ่มเติมว่า พื้นที่แก่งละว้าอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้ำชี ส่วนที่ 3 จากทั้งหมด 20 ลุ่มน้ำสาขา มีพื้นที่ทั้งหมด 2,027,500 ไร่ เฉพาะตัวแก่งละว้าประมาณ 12,000 กว่าไร่ ได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อนจึงส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป จะทำอย่างไรให้ชุมชนได้เรียนรู้อย่างเท่าทันและปรับตัวเองให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา “การดำเนินงานจะต้องเน้นกระบวนการมีส่วนร่วมทุกภาคส่วน โดยใช้กลไกของคณะกรรมการลุ่มน้ำ เพื่อแสวงหาแนวทางที่เหมาะสมให้เป็นต้นแบบการจัดการระบบนิเวศอย่างยั่งยืนในพื้นที่ชุ่มน้ำของภาคอีสานภายใต้สภาวะโลกร้อน” นายประสิทธิ์ กล่าว -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวสำนักงานทรัพยากรน้ำ+ธนวัฒน์ พลอยโสภณวันนี้

สทนช. จับมือเขื่อนภูมิพล ปรับลดการระบายน้ำบรรเทาท่วมภาคกลาง

สทนช. ประชุมด่วนวางแผนปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนภูมิพล หลังคาดฝนภาคเหนือจะลดลงอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นวันพรุ่งนี้ จาก 55 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เหลือ 50 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน และวันถัดไปปรับลดอีกเหลือ 45 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน เพื่อลดมวลน้ำที่ไหลลงสู่ภาคกลาง วันนี้ (15 พฤศจิกายน 2568) นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์น้ำและวางแผนการบริหารจัดการน้ำเขื่อนภูมิพล โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมการประชุม ณ

สทนช. ระดมทุกหน่วยเดินหน้าคลี่คลายพื้นที่ท่วมขังหลังฝนตอนบนลดลง

เตรียมปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา พร้อมจับตาฝนตกหนักต่อเนื่องภาคใต้ สทนช. หารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบปรับลดการระบายน้ำเขื่อนสิริกิติ์ เหลือ 10 ล้าน ลบ.ม. ต่อวัน พร้อมเตรียมทยอยปรับลดการระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา เพื่อช่วย...

นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ร่วมกั... มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ร่วมพลิกฟื้นคูคลองยั่งยืน เพื่อทรัพยากรน้ำท้องถิ่น — นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ร่วมกับภาครัฐและภาคประชาชน แสดงเจตนารมณ...

สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติ... เฝ้าระวังน้ำหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขัง น้ำล้นตลิ่ง และระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา — สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ติดตามการคาดการณ์สภาพอากาศพบว่า จะ...

สทนช. ติดตามการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก พร้อมรับมืออุทกภัยปีนี้

สทนช. บูรณาการหน่วยงานประชุมศูนย์บริหารจัดการน้ำส่วนหน้าชั่วคราวฯ ลุ่มน้ำโขงเหนือ เร่งติดตามความก้าวหน้าการขุดลอกแม่น้ำกก แม่น้ำสาย แม่น้ำรวก การก่อสร้างพนังกั้นน้ำ และการแก้ไขปัญหาคุณภาพน้ำ รับมืออุทกภัยปีนี้ พร้อมชู "จ....