www.glitzdiamond.com ร้านค้าเพชรออนไลน์พร้อมรุกตลาดขยายฐานลูกค้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--19 ต.ค.--www.glitzdiamond.com

กลิทซ์ จิวเวอร์รี่ ไทย มั่นใจทิศทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยสดใส หลังเปิดร้านค้าเพชรออนไลน์ผ่าน www.glitzdiamond.com เผยแผนเตรียมเปิดร้านจำหน่ายเครื่องประดับเพชรให้ครบ 5 สาขา ภายในปีหน้าเพื่อรองรับการขยายตัวของกลุ่มลูกค้า พร้อมตั้งเป้ายอดขายบริษัทฯ ปีนี้เติบโตเพิ่มขึ้น 100% มั่นใจด้วยปัจจัยการเติบโตของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ตจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตต่อเนื่อง คุณอรทัย มาฬมงคล ผู้บริหารบริษัท กลิทซ์ จิวเวอร์รี่ ไทย จำกัด และร้านค้าเพชรออนไลน์ www.glitzdiamond.com เปิดเผยว่า “รายงานจาก J.P.Morgan ระบุว่ามูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซทั่วโลกในปี 2554 อยู่ที่ประมาณ 680 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้น 18.9% เมื่อเทียบกับปี 2553 ส่วนธุรกิจค้าปลีกอีคอมเมิร์ซเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกาเติบโตเพิ่มขึ้น 13.2% หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 187 พันล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมทั้งคาดการณ์ว่ารายได้รวมของธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั่วโลกจะสูงถึง 963 พันล้าน เหรียญสหรัฐในปี 2556” ซึ่งข้อมูลดังกล่าวนั้นสอดคล้องกับรายงานของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่สรุปภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซของไทย ประเภทธุรกิจ B2C เมื่อปี 2554 ว่ามีมูลค่าสูงถึง 84,593 ล้านบาท โดยแบ่งออกเป็นสินค้าประเภทรถยนต์และอุปกรณ์แต่งรถ 21.5% คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ไอที 19.4% การท่องเที่ยว โรงแรมและรีสอร์ท 17.6% ธุรกิจบริการ 9.4% ธุรกิจแฟชั่น เสื้อผ้า เครื่องประดับเพชร 5.9% อุปกรณ์สำนักงานและหนังสือ 2.1% ด้วยปัจจัยการเติบโตทางด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้งทั่วโลกและในประเทศไทย และปริมาณการเติบโตของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ผู้บริโภคหรือกลุ่มลูกค้ามีความมั่นใจและนิยมเลือกซื้อสินค้าออนไลน์กันเพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทั้งในเรื่องของความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดค่าใช้จ่าย รวมทั้งยังมีระบบการชำระเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ที่เชื่อถือได้ และมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น บริษัท กลิทซ์ จิวเวอร์รี่ ไทย จำกัด จึงพร้อมเดินหน้ารุกธุรกิจอีคอมเมิร์ซและนับเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจเครื่องประดับเพชรออนไลน์ที่เปิดให้บริการผ่านทางเว็บไซต์ www.glitzdiamond.com มาตั้งแต่ปี 2551 คุณอรทัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเชื่อมั่นว่า ณ ปัจจุบันเว็บไซต์ www.glitzdiamond.com มีส่วนแบ่งทางการตลาดติดอันดับ 1 ใน 10 ธุรกิจด้านเครื่องประดับเพชรออนไลน์ที่มียอดขายสูงสุด และเรายังมีฐานลูกค้าผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจที่ใหญ่ที่สุดในธุรกิจด้านเครื่องประดับเพชรออนไลน์ในประเทศไทย ซึ่งในปี 2554 บริษัทฯ มีอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นถึง 300% เมื่อเทียบกับปี 2553 แบ่งเป็นรายได้จากกลุ่มลูกค้าในไทย 98% และกลุ่มลูกค้าจากทั่วโลก 2% และตั้งเป้าว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทฯ จะมียอดขายเติบโตเพิ่มขึ้น 100%” จุดเด่นของเครื่องประดับแบรนด์กลิทซ์ (Glitz) คือ การนำเสนอเครื่องประดับเพชรคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดีในราคาย่อมเยาว์เหมาะกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และด้วยปัจจัยความพร้อมของบริษัทฯ รวมทั้งการเป็นเจ้าของโรงงานผลิตเครื่องประดับเพชรซึ่งตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ จึงมีแหล่งจัดหาวัตถุดิบชั้นดีจากผู้ผลิตโดยตรง ทำให้บริษัทฯ สามารถผลิตและจำหน่ายเครื่องประดับเพชรและอัญมณีได้ในราคา ที่คุ้มค่า อีกทั้งยังมีเครื่องประดับเพชรและอัญมณีหลากหลายรูปแบบเพื่อให้ผู้บริโภคหรือลูกค้าเลือกซื้อได้ตามความต้องการและงบประมาณที่ตั้งไว้ ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหรือผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ www.glitzdiamond.com ส่วนใหญ่จะเป็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่มีอายุระหว่าง 24-30 ปี ที่กำลังมองหาแหวนหมั้นและแหวนแต่งงานสำหรับพิธีวิวาห์ รวมไปถึงผู้หญิงที่มีอายุระหว่าง 24-38 ปี ที่นิยมสวมใส่เครื่องประดับเพชรและอัญมณีตามแฟชั่น ส่วนกลยุทธ์ในการทำตลาดช่วงปลายปี บริษัทฯ มีแผนจัดกิจกรรมการตลาด และโปรโมชั่นพิเศษต่างๆ อาทิ กิจกรรมเชิญชวนแฟนเพจร่วมเล่นเกมลุ้นรับแหวนเพชรฟรีทุกสัปดาห์ๆ ละ 1 รางวัลผ่านทางเฟซบุ๊ก แฟนเพจ www.facebook.com/myGlitzjewels เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าจากเดิมที่มีอยู่ประมาณ 150,000 รายเป็น 200,000 ราย ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า รวมถึงการลงโฆษณาบนเว็บไซต์กูเกิลเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเลือกซื้อเครื่องประดับเพชรและอัญมณีผ่านทางออนไลน์ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมโรดโชว์ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พัทยาช่วงเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้ “นอกเหนือจากช่องทางการจำหน่ายเครื่องประดับเพชรผ่านทาง www.glitzdiamond.com บริษัทฯ ได้เปิดร้านจำหน่ายเครื่องประดับเพชรและอัญมณีสาขาแรกที่อาคารอัมรินทร์พลาซ่า ราชประสงค์ สาขาสองที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล พระราม 3 และเตรียมจะเปิดสาขาสามที่พัทยา ช่วงเดือนมีนาคม 2556 พร้อมตั้งเป้าเปิดร้านให้ครบ 5 สาขาภายในสิ้นปีหน้า เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการเลือกชมสินค้าก่อนการตัดสินใจ รวมทั้งยังเป็นการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ผู้สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.glitzdiamond.com หรือwww.facebook.com/myGlitzjewels” คุณอรทัยกล่าวสรุป -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวธุรกิจอีคอมเมิร์ซ+อีคอมเมิร์ซไทยวันนี้

BEST SOFTWARE บริการซอฟต์แวร์โซลูชันธุรกิจอีคอมเมิร์ซ และการจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจร

ประชากรไทยกว่า 50 ล้านคนหรือ 78% ใช้อินเตอร์เน็ต เกินครึ่งซื้อสินค้าออนไลน์ ข้อมูลจาก e-Commerce ประเทศไทยนี้ทำให้เห็นว่า ธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ยังโตไม่หยุด ตลาดอีคอมเมิร์ซประเทศไทยสำรวจโดย ETDA พบว่าตลาดค้าปลีกแบบ B2C ยังครองสัดส่วนถึง 51% ของอีคอมเมิร์ซไทย รองลงมาคือ B2B อยู่ที 27% จะเห็นได้ว่าผู้ประกอบการทั้งรายเล็กรายใหญ่ต่างเข้ามาลุยในตลาดอีคอมเมิร์ซเพิ่มขึ้น เมื่อธุรกิจขยายตัวหลายบริษัทเริ่มประสบปัญหาในเรื่องคลังสินค้า บางรายใช้บริการบริษัท 3PL ในการช่วยบริหารคลังสินค้า เนื่องจากค่าดำ

การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปี 2565 ยั... BEST Supply Chain Fulfillment ตัวช่วยสำหรับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ — การเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซในปี 2565 ยังแรงไม่หยุด หลายคนเปลี่ยนอาชีพมาเป็นพ่อค้าแม่ค้าออ...

5 กูรูชั้นแนวหน้าด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้... สัมมนาออนไลน์เรื่อง “ฝ่าวิกฤต COVID-19 ด้วยธุรกิจ E-Commerce” — 5 กูรูชั้นแนวหน้าด้านธุรกิจอีคอมเมิร์ซทั้งจากในและต่างประเทศ ขอเรียนเชิญผู้ที่สนใจเข้าร่วม...

ทีเอ็มบี ตอบโจทย์ผู้ค้าออนไลน์ ปลดล็อคข้อ... ทีเอ็มบี หนุนผู้ค้าลาซาด้า โกยยอดขายทุกเทศกาลเซลล์! เพิ่มทุนตุนสต๊อก ไม่ต้องใช้หลักประกัน — ทีเอ็มบี ตอบโจทย์ผู้ค้าออนไลน์ ปลดล็อคข้อจำกัดการขอสินเชื่อ กู...

นายธานี โอฬารรัตนมณี ผู้อำนวยการกองพาณิชย... กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จัดงาน Thailand e-Commerce Festival 2018 — นายธานี โอฬารรัตนมณี ผู้อำนวยการกองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (ที่ 5 จากซ้...

ฮั่วเซ่งเฮงผนึกกำลังไปรษณีย์ไทย ต่อยอดธุร... ฮั่วเซ่งเฮงผนึกกำลังไปรษณีย์ไทย ต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้กับฮั่วเซ่งเฮง ช้อปออนไลน์ — ฮั่วเซ่งเฮงผนึกกำลังไปรษณีย์ไทย ต่อยอดธุรกิจอีคอมเมิร์ซให้กับฮั่วเซ...