A-Life ย้ำวางแผนประกันชีวิตเพื่ออนาคต ชูความต่างผลิตภัณฑ์ออมสั้น-ผลตอบแทนสูง ชนะเงินเฟ้อ

01 Oct 2012

กรุงเทพฯ--1 ต.ค.--โปรเฟสชั่นนัล อิมเมจ เมกเกอร์

A-Life ระบุวางแผนการทำประกันชีวิตเพื่ออนาคตเป็นสิ่งสำคัญ ชูผลิตภัณฑ์หลากหลาย เจาะทุกกลุ่มเป้าหมาย ขณะที่ผลตอบแทนสูง อีกทั้งยังได้รับความคุ้มครองจาก พรบ.กองทุนประกันชีวิต ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อได้เป็นอย่างดี เร่งเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ ยกระดับการให้บริการเต็มสูบ ตั้งเป้าเบี้ยประกันชีวิตรวมสิ้นปีโต 800 ล้านบาท

ดร. เมธี จันทวิมล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการร่วมออกบูธงานสัปดาห์ประกันภัยในวันแรกของการจัดงานว่า ได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมชมงานเป็นอย่างดี เนื่องจากในปีนี้ A-Life ได้ชูแนวคิดการจัดงานในรูปแบบ Cheer Up บนพื้นที่ถึง 150 ตารางเมตร เพื่อมุ่งเน้นการให้บริการ กระตุ้นตลาดการออมการลงทุน ด้วยข้อเสนอของผลิตภัณฑ์ ผลตอบแทนที่ดึงดูดใจ ให้แก่ผู้ร่วมงาน รวมถึงการสนับสนุนเยาวชนได้มีส่วนร่วมในการจัดงานด้วยการร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมภายในบูธ อาทิ การร่วมกิจกรรมเชียร์อัพบนสแตนเชียร์ของบูธ A-Life รวมถึงการสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับเยาวชนได้มีความรู้เรื่องของการออมมากขึ้น เพื่อเป็นการปลูกฝังจิตสำนึกแห่งการออมเพื่ออนาคตที่ดี

ทั้งนี้ในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่ A-Life นำเสนอภายในงานจะมุ่งเน้นผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของทุกกลุ่มเป้าหมาย บนพื้นฐานของการให้ผลตอบแทนที่น่าจูงใจ ซึ่งทุกผลิตภัณฑ์ที่นำมาเสนอในงานครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมชมงานเป็นอย่างดี อาทิ Super Strike 3 ผลิตภัณฑ์ที่จ่ายเบี้ยเพียงครั้งเดียว ผลตอบแทน 4.5% ทุกปี ตลอด 3 ปี คุ้มครองสูงถึง 110% ของทุนประกันตลอดอายุสัญญา, Strike 10 ผลิตภัณฑ์ประกันออมทรัพย์ระยะยาว แบบจ่ายเบี้ยเพียงครั้งเดียว ได้รับความคุ้มครองและผลตอบแทนนานถึง 10 ปีๆ ละ 4.5% ไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย และ Growth 5/2 ผลิตภัณฑ์ประกันออมทรัพย์ จ่ายเบี้ย 2 ปี คุ้มครอง 5 ปี ได้รับผลตอบแทนเพิ่มขึ้นแบบขั้นบันไดทุกปีสูงสุด 7% คุ้มครองสูงถึง 110%ของทุนประกันตลอดอายุสัญญา

“ผลิตภัณฑ์ที่นำมาเสนอในงานครั้งนี้ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมายได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนสูงเมื่อเทียบในตลาด ซึ่งสร้างความน่าสนใจให้กับลูกค้าในการเพิ่มช่องทางการเลือกรูปแบบการออมเงินรองรับไลฟ์สไตล์และความต้องการในการออมเงินของลูกค้าอย่างตรงจุด และยังสามารถเลือกรูปแบบการออม ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ได้ตามใจชอบ ซึ่งนอกจากลูกค้าจะได้รับผลิตภัณฑ์ดีๆ กลับไปแล้ว ยังได้รับความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของการออมอีกด้วย” ดร.เมธี กล่าว ดร.เมธี ยังกล่าวต่อว่า ในปัจจุบันทิศทางการทำประกันชีวิตเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตประจำวันมากขึ้น เนื่องจากการทำประกันชีวิตเป็นการช่วยปลูกฝังการออมเพื่ออนาคต ไม่ว่าจะเป็นอนาคตเรื่องการศึกษาหรืออนาคตในยามเกษียณ อีกทั้งยังได้รับสิทธิประโยชน์ในการลดหย่อนภาษี และเป็นการลงทุนที่ปลอดความเสี่ยง

ตามเงื่อนไขของแบบประกันนั้นๆ ซึ่งถือเป็นการสร้างหลักทรัพย์ที่ดีอีกวิธีหนึ่ง รวมถึงการทำประกันชีวิตยังสร้างความมั่นคงทางการเงิน ในกรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน อาทิเจ็บป่วย บริษัทประกันจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้ตามสิทธิ์ที่ผู้เอาประกันได้ซื้อไว้อีกด้วย ซึ่งนับว่าประกันชีวิตเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่จะเป็นตัวช่วยในการออมเงินได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการฝากธนาคาร หรือลงทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์ ขณะที่การพิจารณาเลือกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ดี จะต้องเน้นที่มีความปลอดภัย ให้ผลตอบแทนที่เหมาะสม โดยผู้ซื้อผลิตภัณฑ์สามารถเลือกผลิตภัณฑ์กับบริษัทต่างๆ ได้จากการพิจารณาจากสถานะความมั่นคงของบริษัทนั้นๆ บุคลากรที่มีความเป็นมืออาชีพ คอยให้คำแนะนำและคำปรึกษาอย่างใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามแนวโน้มธุรกิจประกันชีวิตที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการจัดงานสัปดาห์ประกันภัยที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ หวังว่าจะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้ประชาชน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการออมเงินมากขึ้น รวมทั้งยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ทุกคนเพราะในปัจจุบันบริษัทประกันชีวิตได้รับความคุ้มครองจาก พรบ. กองทุนประกันชีวิต ภายใต้การกำกับดูแลของ สำนักคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่จะให้ความดูแลอย่างใกล้ชิดในเรื่องของความเพียงพอของเงินกองทุน ในกรณีที่บริษัทประกันชีวิตที่อยู่ภายใต้การดูแลถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือล้มละลายก็ตาม ทั้งนี้ภายหลังการจัดงานบริษัทคาดเบี้ยใหม่ปีแรก เป็นไปตามแผน 800 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโตกว่าปีที่ผ่านมา 100%

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ A-Life (เอไลฟ์) จากทีมที่ปรึกษาทางการเงิน/ Wealth Assistant ที่เบอร์ 02-648-3333 หรือ [email protected]กภ-