ภาคประชาชน-เอกชน จี้รัฐปลดแอกจากกลุ่มทุนพลังงาน สนับสนุนชุมชนผลิตพลังงานหมุนเวียน ระบุกฎหมายพลังงานหมุนเวียนต้องเป็นเอกภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--16 ส.ค.--กรีนพีซ

ภาคประชาชน-เอกชน จี้รัฐปลดแอกจากกลุ่มทุนพลังงาน สนับสนุนชุมชนผลิตพลังงานหมุนเวียน ระบุกฎหมายพลังงานหมุนเวียนต้องเป็นเอกภาพ ผลวิจัยมหาลัยธรรมศาสตร์ชี้ประชาชนยอมจ่ายค่าไฟแพงหากช่วยลดโลกร้อนได้ กรีนพีซจัดสัมมนา-ฟรีคอนเสิร์ตปฎิวัติพลังงาน เสาร์ที่ 18 ส.ค.นี้ นายยุทธการ มากพันธุ์ ตัวแทนศูนย์กสิกรรมท่ามะขามจังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็นศูนย์ศึกษาทดลองพลังงานหมุนเวียนฉบับไทย กล่าวในระหว่างเข้าร่วมงาน “มหกรรมปฏิวัติพลังงานผ่านกฎหมายพลังงานหมุนเวียน” ของกรีนพีซ ว่า อยากให้รัฐบาลออกกฎหมายพลังงานหมุนเวียน เนื่องจากประเทศไทย เป็นประเทศเกษตรกรรมและมีวัตถุดิบพร้อม แต่ขาดการส่งเสริมเรื่องการลงทุน เพราะการลงทุนแม้แต่ในขนาดเล็กต้องเป็นหลักล้านขึ้นไป ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ไม่มีเงินทุนที่จะทำได้ ทำให้กลุ่มทุนเข้ามาลงทุนแทนเพื่อแสวงหากำไร ทำให้เกิดความขัดแย้งในพื้นที่ซึ่งทำให้นักอนุรักษ์เสียชีวิตไปหลายคน เพราะคนในพื้นที่ดูแลทรัพยากรมาก่อน อีกทั้งยังมีเรื่องความไม่โปร่งใสในเรื่องการออกนโยบายด้วย เรื่องเหล่านี้ทำให้โครงการพลังงานหมุนเวียนในแต่ละพื้นที่เป็นไปได้ช้ามาก “ผมอยากเห็นกฎหมายที่ให้ชุมชนเป็นเจ้าของประโยชน์ทั้งหมดโดยเป็นกลุ่มหรือบริษัทของชาวบ้านเอง เพราะชาวบ้านสามารถทำได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ไบโอแก๊ส หรือโรงไฟฟ้าพลังงานแกลบ โดยทุกวันนี้รัฐเสียงบประมาณจากการนำเข้าพลังงานสูงมาก รัฐน่าจะนำเงินตรงนี้มาส่งเสริมชาวบ้านให้มีความรู้ และ อำนวยความสะดวกให้ชาวบ้านในเรื่องการลงทุนน่าจะมีประโยชน์มากกว่า ดังนั้น ถ้ารัฐออกกฎหมายที่ส่งเสริมเรื่องเหล่านี้อย่างจริงจังประชาชนที่มีใจจะทำเรื่องนี้อยู่แล้วเอาด้วยแน่นอน โดยรัฐควรสนับสนุนเรื่องเทคโนโลยี เงินทุน มีแผนให้ชัดเจน 5-10 ปีต้องทำอะไรบ้าง เพื่อให้ประชาชนได้เกิดความรู้ความเข้าใจอย่างแท้จริง อีกทั้งกฎหมายที่ออกมาต้องมีการบูรณาการ โดยทั้งสนับสนุนให้มีการผลิตพลังงานหมุนเวียน รวมทั้งต้องสนับสนุนและมีการรับซื้อด้วย ไม่ใช่ผลิตออกมาแล้วไม่มีคนซื้อ ดังนั้นกฎหมายต้องมีเอกภาพ” นายยุทธการ กล่าว ด้าน นายสมชาย นิติกาญจนา เจ้าของฟาร์มสุกร เอสพีเอ็ม ฟาร์ม ซึ่งเป็นฟาร์มที่มีการผลิตพลังงานหมุนเวียนครบวงจร โดยการนำขี้หมูมาผลิตไบโอแก๊ส กล่าวว่า พลังงานหมุนเวียนมีต้นทุนที่แพงกว่าพลังงานฟอสซิลที่ใช้กันตอนนี้ เพราะพลังงานหมุนเวียนมีต้นทุนในการบำบัดของเสียให้เป็นประโยชน์และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมององค์รวมว่าใครได้อะไรบ้าง นอกจากนี้ต้องส่งเสริมให้มีการซื้อไฟต้องไม่มีการกีดกัน โดยจำกัดโควตาและมีราคาเป็นธรรม การขอใบอนุญาตต้องทำให้ง่ายเพราะประโยชน์เกิดกับประเทศชาติ การลงทุนควรเป็นโรงงานขนาดใหญ่เพื่อให้เกิดการคุ้มทุนให้ชาวบ้านสามารถผลิตร่วมกันได้ อีกทั้งมหาวิทยาลัยต้องให้ความรู้และการพัฒนา เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนและอยอดภูมิปัญญาเดิมด้วย “เราต้องคิดว่า หากน้ำมัน แก็ส หมด เราจะอยู่กันอย่างไร ประเทศไทยมีศักยภาพที่สูงมาก แต่ตอนนี้ไม่มีความชัดเจนว่าคนที่ต้องการลงทุนเรื่องนี้จะได้อะไร ดังนั้น ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง และต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า เราจะมีพลังงานทดแทนเท่าใด หากทำไม่ได้ต้องมีการลงโทษเจ้าหน้าที่เพื่อให้มีผู้รับผิดชอบ” นายสมชาย กล่าว ด้าน นางสาว กรณ์กนิศ แสงดี ตัวแทนจากโรงงานอำพล ฟู๊ด ซึ่งมีการนำเศษอาหารมาผลิตเป็นพลังงานหมุนเวียน กล่าวว่า ในฐานะตัวแทนของภาคอุตสาหกรรม อยากให้มีการมองในองค์รวมว่าพลังงานทดแทนที่จะทำในประเทศคืออะไร ผลประโยชน์และผลกระทบไปอยู่ที่กลุ่มไหนบ้าง อีกทั้งอยากให้ภาครัฐมาทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายที่ดูแลเรื่องมลพิษ เรื่องความปลอดภัยและฝ่ายสนับสนุนให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องมีทิศทางไปในทางเดียวกัน เพื่อไม่ให้เกิดความลักลั่นในการบังคับใช้กฎหมาย และมีกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน และต้องให้ประชาชน เอกชน วิชาการมีส่วนร่วม ขณะที่ นางสาวณัฐวิภา อิ้วสกุล ผู้ประสานงานรณรงค์ด้านพลังงานและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กรีนพีซ เอเซียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเรายังคงต้องใช้ไฟฟ้า แต่ทำอย่างไรที่จะใช้ปฏิวัติการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งเดิมๆ เปลี่ยนมาเป็นการใช้ไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดภัยและมีต้นทุนการผลิต ที่ถูกกว่า เราอยากเห็นในอนาคตที่มีการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และ พลังงานลมอย่างมีประสิทธิภาพ ต้องการให้รัฐบาลหลุดพ้นจากกลุ่มทุนด้านพลังงานด้วย เพราะขณะพี้พลังงานหมุนเวียนที่ผลิตในประเทศไทยมีสูงกว่า8,000 เมกะวัตต์แล้ว ซึ่งเกือบจะถึง 25% ของการใช้พลังงานไฟฟ้าทั้งหมดของประเทศที่รัฐตั้งเป้าหมายไว้แล้ว รัฐจึงควรออกกฎหมายพลังงานหมุนเวียนเพื่อทำให้กลไกต่างๆ ในการผลิตพลังงานหมุนเวียนและทำประชาชนเข้าถึงพลังงานสะอาดมากได้ง่ายขึ้น ส่วนที่มีการระบุว่าพลังงานหมุนเวียนทำให้มีค่าใช้จ่ายมากขึ้นนั้น เรื่องนี้ทุกวันนี้เทคโนโลยีมีราคาแพง เพราะยังไม่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ ส่วนที่มองว่าถ่านหินมีต้นทุนที่ถูกนั้นไม่เป็นความจริง เนื่องจากไม่มีการมองถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ ดังนั้น โรงไฟฟ้าถ่านหินจึงมีต้นทุนต่อหน่วยสูงกว่าพลังงานหมุนเวียนแน่นอน ด้าน นางสาวสุขุมาวดี ทองคำ นักวิจัยเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า ในการศึกษาวิจัยของตนเอง ได้ตั้งคำถามว่า “คนจะยินดีจ่ายค่าไฟฟ้าเพิ่มหรือไม่ ถ้าไฟฟ้าที่ใช้สามารถลดภาวะโลกร้อนได้” โดยส่วนใหญ่ 73% ระบุว่า ยินดีที่จะจ่ายเพิ่ม ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนประชาชนสนับสนุนพลังงานสะอาด คนไทยตื่นตัวกับภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะในต่างจังหวัด แต่ปรากฎว่าคนกรุงเทพฯ ซึ่งมีการใช้ไฟฟ้า40% ของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมด กลับเป็นกลุ่มที่น้อยที่สุดกับการเห็นต้องจ่ายเพิ่มเพื่อพลังงานสะอาด แต่ภาพรวมคนส่วนใหญ่ยอมจ่ายแพงกว่าหากได้พลังงานที่สะอาดเพื่อลดภาวะโลกร้อน กรีนพีซจะจัดสัมมนาปิดท้ายมหกรรมพลังงานหมุนเวียน ในวันเสาร์ที่ 18 ส.ค. นี้ ที่ โดมกู้วิกฤตโลพร้อน ลานราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก ตั้งแต่เวลา 15.00 – 20.00 น. โดยในเวลา 16.00-17.45 น. จะมีการเสวนา “จิบชา ปฏิวัติพลังงาน ผ่าน กม.พลังงานหมุนเวียน โดยมีวิทยากร คือ นางสาว รสนา โตสิตระกูล สมาชิกวุฒิสภา นายสัมฤทธิ์ เหมะ ผู้อำนวยการสำนักวิจัยค้นคว้าพลังงาน กรมพัฒนาพลังงานทดแทน ศ.ดร. บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นางสาว สมพร เพ็งค่ำ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานพัฒนาระบบและกลไกการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ นาย ศุภกิจ นันทวรการ นักวิจัยพลังงาน มูลนิธินโยบายสุขภาวะ นอกจากนี้ยังมีฟรีคอนเสิร์ตปฏิวัติพลังงาน นำโดย สิงโต นำโชค เจ้าพ่ออูคูเลเล- เพลงเซิร์ฟชื่อดัง ที่ร่วมแต่งเพลง “หากมีเธอก็คงดี” ซึ่งเป็นเพลง รณรงค์ โครงการปฏิวัติพลังงานให้กรีนพีซ พร้อมกับคู่หูมหัศจรรย์ Double Trapp Beatbox และ วง Diamond วงดนตรีคนตาบอดชื่อดังของเมืองไทย และ วง Cha-Ju ปิดท้ายด้วย ร่ายกวีเพื่อพลังงานหมุนเวียน โดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ (ศิลปินแห่งชาติ/กวีซีไรต์) ทั้งนี้ กรีนพีซได้เรียกร้องให้กฎหมายพลังงานหมุนเวียนที่รัฐบาลกำลังยกร่าง ต้องมีหลักการขั้นพื้นฐาน 5 ข้อดังต่อไปนี้เพื่อให้กฎหมายดังกล่าวเป็นกลไกที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานไทย โดย 1.รัฐบาลต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนาและการลงทุนด้านพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและยั่งยืนเป็นอันดับแรก ผู้ผลิตไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนสามารถเข้าถึงระบบสายส่งก่อนพลังงานอื่นๆ 2. ทุกคน ทุกบ้าน ทุกหย่อมหญ้า สามารถผลิตพลังงานหมุนเวียนเพื่อใช้และขายเข้าสู่ระบบสายส่งไฟฟ้า ทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกันในการใช้และผลิตพลังงานหมุนเวียน 3.การบริหารจัดการระบบโครงข่ายไฟฟ้าต้องมีความโปร่งใสและราคาไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนมีความเป็นธรรม4.ต้องมีการจัดตั้งกองทุนและพัฒนาศักยภาพและเทคโนโลยีพลังงานหมุนเวียนในทุกจังหวัด และเพิ่มอัตราการจ้างงานจากการลงทุนและการดำเนินงานระบบพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและยั่งยืน 5.ผู้ใช้ไฟฟ้ามีสิทธิเลือกใช้ไฟฟ้าที่ผลิตจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนที่สะอาดและยั่งยืนแทนไฟฟ้าจากพลังงานฟอสซิลเพื่อสร้างจิตสาธารณะร่วมกัน ลดผลกระทบทางเศรษฐกิจ สังคม และ สิ่งแวดล้อม โดยกรีนพีซเริ่มการรณรงค์ประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องทั้งทางออนไลน์และการจัดกิจกรรมตามพื้นที่ต่างๆ เพื่อระดมพลังประชาชนอย่างน้อย 55,555 คน เพื่อผลักดันให้เกิดกฎหมาย พลังงานหมุนเวียนฉบับแรกของไทยโดยเร็วที่สุด โดยประชาชนที่สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียดและร่วมลงชื่อสนับสนุนได้ที่ http://www.greenpeace.or.th/GoRenewable/ -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวยุทธการ มากพันธุ์+จังหวัดกาญจนบุรีวันนี้

"JAS" มอบเงิน 5 ล้านบาท สนับสนุน "มูลนิธิเพจอีจัน" เพื่อสร้างโรงเรียนเด็กพิเศษ อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS มอบเงินสนับสนุนจำนวน 5,000,000 บาท ให้กับ "มูลนิธิเพจอีจัน" เพื่อนำไปสร้างโรงเรียนเด็กพิเศษทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี โดยมี คุณสมปรารถนา นาวงษ์ ประธานมูลนิธิเพจอีจัน และเจ้าของเพจอีจัน พร้อมด้วยคณะที่ปรึกษามูลนิธิฯ เข้ารับมอบเงินสนับสนุนดังกล่าว ทั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารกลุ่มบริษัทโมโน นำโดย คุณเนตรพนิต โพธารากุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตรายการและผู้อำนวยการสถานีโทรทัศน์ช่อง MONO29,

“อำพลฟูดส์” ร่วมเสวนาปฎิวัติพลังงานสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน

นางสาวกรณ์กณิศ แสงดี ผู้จัดการฝ่ายสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย บริษัท อำพลฟูดส์ โพรเซสซิ่ง จำกัด ร่วมงาน “มหกรรมปฎิวัติพลังงานผ่านกฎหมายพลังงานหมุนเวียน” ซึ่งจัดโดย มูลนิธิกรีนพีชเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ ลานพลาซ่า ราชมังคลากีฬาสถาน หัวหมาก...