นายธีรพันธุ์ จิตตาลาน กรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า จำกัด เผยแนวโน้มเศรษฐกิจทั่วโลก
เริ่มชะลอตัวลงตามที่ไอเอ็มเอฟ (IMF) คาดการณ์ล่าสุดในกลางเดือน ก.ค. 55 ที่ผ่านมาในขณะที่ธนาคารกลางหลายประเทศต่างเริ่มลดดอกเบี้ย เช่น ธนาคาร
กลางจีน (PBOC) ได้ลดดอกเบี้ย 2 ครั้งในหนึ่งเดือน แต่เศรษฐกิจประเทศไทยกลับแตกต่างจากประเทศอื่น ๆ เพราะมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจและกิจกรรมการ
ผลิตจากการฟื้นตัวของภาคการผลิตที่ดีขึ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปลายปีทีผ่านมา และสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ไทยเร่งตัวขึ้นมาก การออกหุ้นกู้ภาคเอกชน
ไทยก็เพิ่มขึ้นมากเช่นกัน เกิดแรงกดดันให้ต้นทุนการเงินเริ่มปรับสูงขึ้น ในภาวะดังกล่าวนี้ที่มีความแตกต่างกันระหว่างเศรษฐกิจภายนอกและภายใน
ประเทศ จึงมีความเป็นไปได้ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายระยะหนึ่งเพื่อรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและไทยให้เห็นทิศทางที่ชัดเจน
ดังนั้น การลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นจึงเป็นเรื่องที่เหมาะกับสถานการณ์ที่ทิศทางดอกเบี้ยยังไม่ชัดเจน เพราะถ้าลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นจน
ครบกำหนดแล้ว ปรากฏว่าธนาคารแห่งประเทศไทยขึ้นดอกเบี้ย ผู้ลงทุนสามารถลงทุนในกองทุนตราสารหนี้กองใหม่ต่อโดยไม่เสียโอกาสจากภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น และ
ถ้าธนาคารแห่งประเทศไทยลดดอกเบี้ยนโยบาย ผู้ลงทุน ก็สามารถปรับแผนการลงทุนใหม่ให้เหมาะกับสถานการณ์เช่นกัน กองทุนเปิดฟินันซ่าตราสารหนี้พลัส โรล
โอเวอร์ 3เดือน3 (FAM FIPR 3M3) จะเปิดเสนอขายตั้งแต่ 23-27 กรกฎาคมนี้ ด้วยประมาณการผลตอบแทนที่ 3.25% ต่อปีสำหรับการลงทุน 3 เดือน โดยเป็น
กองทุนโรลโอเวอร์ที่ครบกำหนดแล้วและเปิดขายรอบถัดไป โดยสามารถลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท นักลงทุนสามารถใช้ช่องทางการลงทุนใหม่ล่าสุดของบริษัท
โดยซื้อกองทุนผ่านระบบอินเตอร์เนตได้ที่ศูนย์บริการเคทีซี ทัช 14 สาขา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 02 352-4050
FAM FIPR 3M3 เป็น specific fund หรือกองทุนรวมตราสารแห่งหนี้ที่มีการกระจายการลงทุนน้อยกว่าเกณฑ์มาตรฐาน มีนโยบายที่จะลงทุนในหรือมี
ไว้ซึ่งตราสารแห่งหนี้ที่มีความสามารถในการชำระดอกเบี้ยและเงินต้น โดยกองทุนจะพิจารณาลงทุนในตราสารแห่งหนี้ ตราสารทางการเงิน และ/หรือ เงินฝาก
ของภาครัฐและภาคเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยอันดับความน่าเชื่อถือของตราสารหรือผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment
Grade) โดยในครั้งนี้เราจะลงทุนใน
เงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงิน USD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB, Niaga, Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi
Commercial Bank, UAE (F1)* ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ** เงินฝาก AED ธนาคาร Union National Bank,UAE(P-1) )* หรือ เงินฝากธนาคาร
และ/หรือตั๋วเงินและ/หรือหุ้นกู้** ตราสารหนี้ บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) (BBB) ตั๋วเงิน หรือ ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือ
BBB+ขึ้นไป*** ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย
เราจะเปิดให้มีการซื้อและขายคืนหน่วยลงทุน ทุก ๆ 3 เดือนโดยประมาณ นับตั้งแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินเป็นกองทุนรวม กองทุนนี้เหมาะ
สำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนระยะสั้นในตราสารหนี้ภาครัฐและภาคเอกชนและ/หรือ เงินฝาก ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และมีโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า
เงินฝากธนาคาร ในระยะเวลานานประมาณ 3 เดือนสำหรับการลงทุนแต่ละรอบ กองทุนมีการลงทุนในต่างประเทศซึ่งเราจะทำการการป้องความเสี่ยงจากอัตราแลก
เปลี่ยนเต็มจำนวน
สำหรับรอบการลงทุนของการสั่งซื้อหน่วยลงทุนครั้งที่ 1
อัตราผลตอบแทนโดยประมาณเท่ากับ 3.25% ต่อปี ซึ่งคำนวณจากการลงทุน สำหรับรอบระยะเวลาประมาณ 3 เดือน
ตราสารที่ลงทุน*** ผลตอบแทนของตราสารในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) สัดส่วนการลงทุนโดยประมาณ ผลตอบแทนที่ได้รับจากการลงทุนในรูปสกุลเงินบาทโดยประมาณ (ต่อปี) ระยะเวลาการลงทุนโดยประมาณ
เงินฝากธนาคารต่างประเทศ สกุลเงินUSD หรือ CNY กับธนาคาร BOC, Macao, ธนาคาร CIMB,Niaga,Indonesia หรือเงินฝากสกุลเงิน AED ธนาคาร Abu Dhabi Commercial Bank, UAE (F1)* ตั๋วเงินหรือเงินฝากธนาคารพาณิชย์ในประเทศ** 3.40%* 24.00% 0.81% 3 เดือน
เงินฝากAED ธนาคาร Union National Bank,UAE(P-1) )* หรือ เงินฝากธนาคารและ/หรือตั๋วเงินและ/หรือหุ้นกู้** 3.40% 20.00% 0.68% 3 เดือน
ตราสารหนี้ บมจ.ดั๊บเบิ้ล เอ (1991)(BBB) 4.10% 22.00% 0.90% 3 เดือน
ตั๋วเงิน หรือ ตราสารหนี้ภาคเอกชนที่มีอันดับความน่าเชื่อถือBBB+ขึ้นไป*** 3.40% 33.50% 1.13% 3 เดือน
ตั๋วเงินคลัง หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 2.99% 0.50% 0.01% 3 เดือน
ประมาณการค่าใช้จ่ายกองทุน (ต่อปี) (0.28%)
อัตรารับซื้อคืนโดยประมาณ (ต่อปี) 3.25%
- หมายเหตุ: * โดยอัตราผลตอบแทนที่เสนอโดยผู้ออกตราสารและมีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน USDหรือ CNY หรือ AED เป็น
เงินบาทแล้ว(ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม2555) ** เงินฝากธนาคารออมสิน หรือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ตั๋วเงิน หรือ หุ้นกู้ ธนาคารเกียรตินาคิน,
ธนาคารไอซีบีซี(ไทย), ธนาคารทิสโก้, ธนาคารทหารไทย,ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย, ธนาคารกรุงไทย, บริษัททุนธนชาต, ธนาคารแลนด์แอนด์เฮาส์ เป็นต้น
(ข้อมูล ณ วันที่ 17 กรกฎาคม 2555 )
- ***ตราสารหนี้หรือหุ้นกู้ เช่น หุ้นกู้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา,ธนาคารกรุงไทย, บมจ.บัตรกรุงไทย (BBB+), บมจ.เอเซียเสริมกิจลีสซิ่ง
(BBB+), บมจ.แสนสิริ (BBB+), บมจ. เอสซี เอสเซท (BBB+) , บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล(A), บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์ (A), บมจ.เอเชียน พร็อพเพอร์ตี้
ดีเวลล็อปเมนต์(A), บมจ.ศุภาลัย (A-), บมจ.ภัทรลีสซิ่ง (A-), บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (A-),
- บมจ.อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ลิส(A+), บมจ.พฤกษา เรียวเอสเตท(A), บมจ.ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น(A), บมจ.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ(A-)
ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารอยู่ในอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Investment Grade)
- หากไม่สามารถลงทุนให้เป็นไปตามที่กำหนดไว้เนื่องจากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือผลการประมูลของตราสารไม่เป็นไปตามที่กำหนด ผู้ถือ
หน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับผลตอบแทนตามอัตราที่ประมาณการไว้
- ทั้งนี้ ตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุน และประมาณการค่าใช้จ่าย อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ หากสภาวะตลาดมีการเปลี่ยนแปลงไป หรือตามที่
บริษัทจัดการเห็นสมควร
- กองทุนจะถือทรัพย์สินที่ลงทุนตลอดรอบการลงทุนแต่ละรอบ 3 เดือนโดยประมาณ
- หากผู้ถือหน่วยไม่ส่งคำสั่งขายคืนหน่วยลงทุนมาภายในวันและเวลาที่กำหนดในการเปิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุน บริษัทจัดการจะถือว่าผู้ถือหน่วย
ลงทุนประสงค์ที่จะลงทุนต่อไปในรอบการลงทุนถัดไป
- บริษัทจัดการสงวนสิทธิที่จะเปลี่ยนแปลงตราสารที่ลงทุน สัดส่วนการลงทุนและประมาณการค่าใช้จ่าย สำหรับการลงทุนในแต่ละรอบทุก 3 เดือนโดย
ประมาณ โดยไม่ถือเป็นการแก้ไขโครงการ โดยจะแจ้งรายละเอียดการลงทุนดังกล่าว ในหนังสือชี้ชวนส่วนสรุปและหรือเว็บไซด์ของบริษัทจัดการ ให้ผู้ลงทุน
ทราบล่วงหน้า
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน
- การลงทุนในหน่วยลงทุนมิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนเมื่อเห็นว่าการลงทุนในกองทุนนี้เหมาะสมกับ
วัตถุประสงค์การลงทุนของตนและผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้
- ในกรณีที่มีเหตุการณ์ไม่ปกติ ผู้ลงทุนอาจได้รับชำระเงินค่าขายคืนหน่วยลงทุนล่าช้ากว่าระยะเวลาที่กำหนดไว้ในหนังสือชี้ชวน
- ในกรณีที่กองทุนนี้ไม่สามารถดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องได้ ผู้ลงทุนอาจไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนได้ตามที่มีคำสั่งไว้ เนื่องจากกองทุนนี้
ลงทุนในต่างประเทศบางส่วน จึงมีความเสี่ยงที่ทางการของต่างประเทศอาจออกมาตรการในภาวะที่เกิดวิกฤตการณ์ไม่ปกติ ทำให้กองทุนไม่สามารถนำเงินกลับเข้า
มาในประเทศ ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับคืนเงินตามระยะเวลาที่กำหนด
- กองทุนนี้มีความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสังคมของประเทศที่กองทุนไปลงทุน ผู้ลงทุนควรศึกษาถึงปัจจัยต่างๆ
ที่อาจมีผลกระทบอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
- กองทุนจะทำการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (Fully Hedged)
- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลในหนังสือชี้ชวนให้เข้าใจและควรเก็บหนังสือชี้ชวนไว้เป็นข้อมูลเพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต และเมื่อมีข้อสงสัย ให้
สอบถามผู้ติดต่อกับผู้ลงทุนให้เข้าใจก่อนซื้อหน่วยลงทุน
-กภ-
บลจ.อเบอร์ดีน เปิดตัว "ABALL-TESGX" กองทุนลดหย่อนภาษีน้องใหม่ ลงทุนแบบผสมในหุ้นและตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน ชูจุดเด่น "ปรับพอร์ตการลงทุน" ให้เหมาะสมทุกสภาวะตลาด ผสานมุมมองนักวิเคราะห์ระดับโลกและผู้จัดการกองทุนในประเทศ พร้อมความเชี่ยวชาญการลงทุนด้าน ESG กว่า 30 ปี เปิดขาย IPO ชนิดหน่วยลงทุน "ABALL-TESGX1" ตั้งแต่ 2-9 พ.ค.68 และ "ABALL-TESGX2" รองรับนักลงทุนที่สับเปลี่ยนมาจาก LTF เริ่ม 14 พ.ค.นี้ โอกาสลงทุนภายใน 30 มิ.ย.68 นายโรเบิร์ต เพนนาโลซา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน