สพร. เปิดเวที “ปากคลองตลาด...พิพิธภัณฑ์มีชีวิต” ชุมชนคนขายดอกไม้ บนวิถีแห่งความเปลี่ยนแปลง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--5 ก.ย.--ไอแอมพีอาร์

การพัฒนาระบบคมนาคมอย่าง “รถไฟฟ้า” ได้นำพา “โอกาส” ในการพัฒนาธุรกิจด้านต่างๆ เข้ามายังพื้นที่ตลอดแนวเส้นทางที่ผ่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการพัฒนาระบบคมนาคมในพื้นที่เขตเมืองเก่า ได้ก่อให้เกิดแรงจูงใจของกลุ่มทุนขนาดใหญ่ในการเข้ามาพัฒนาโครงการธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ดังที่ได้เกิดขึ้นกับ “เยาวราช” และ “เวิ้งนาครเขษม” ที่ล้วนส่งผลกระทบต่อวิถีชุมชนดั้งเดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ “ชุมชนปากคลองตลาด” เป็นย่านการค้าเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนาน กำลังจะเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาอันเนื่องมาจากรถไฟฟ้าเช่นเดียวกัน เนื่องจากบริษัทเอกชนผู้ถือครองกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ได้ทุ่มงบประมาณนับร้อยล้านบาทเพื่อปรับโฉม “ตลาดยอดพิมาน” ซึ่งเป็น 1 ใน 4 ของตลาดที่ประกอบรวมกันเป็นย่านการค้าที่เรียกว่า “ปากคลองตลาด” ให้กลายเป็นอาณาจักรดอกไม้กล้วยไม้นานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ และรองรับสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินที่เร่งก่อสร้างอยู่ในขณะนี้ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ หรือ สพร. ได้จัดเสวนา “Living Museum : พิพิธภัณฑ์มีชีวิต ชุมชนปากคลองตลาด ครั้งที่ 1” ขึ้น เพื่อเรียนรู้อดีต เข้าใจปัจจุบัน โดยการเรียนรู้ชุมชนโดยรอบทางภูมิสังคมวัฒนธรรม และรู้เท่าทันถึงความเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อวิถีของชุมชนในอนาคต โดยมีนางสาวสุดารา สุจฉายา นักประวัติศาสตร์มูลนิธิเล็ก-ประไพ วิริยะพันธุ์, นายวันชัย อินทคุณจินดา ที่ปรึกษาตลาดเก่าปากคลองตลาด, อาจารย์ชาตรี ประกิตนนทการ คณะสถาปัตยกรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองในหัวข้อ “ปากคลองตลาด ตลาดดอกไม้แห่งอาเซียน” และดำเนินรายการโดยผศ.ดำรงพล อินทร์จันทร์ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร ผศ.ดำรงพล อินทร์จันทร์ นักวิชาการจาก “โครงการวิจัยชุมชนโดยรอบพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ แห่งที่1 (ชุมชนท่าเตียน-ปากคลองตลาด)” ที่ทาง สพร. จัดทำขึ้นในปี 2549 ได้ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันปากคลองตลาดเป็นตลาดดอกไม้ที่มีชื่อเสียงติดอันดับ 1 ใน 10 ของตลาดดอกไม้โลก โดยอยู่ในลำดับที่ 4 “อันดับ 1 เป็นตลาดดอกไม้ที่ปารีส ประเทศฝรั่งเศส อันดับ 2 คือประเทศเอกวาดอร์ อันดับ 3 คือกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ และอันดับที่ 4 คือปากคลองตลาด หรือที่ถูกเรียกขานว่า Bangkok Orchid Market โดยข้อมูลระบุว่าตลาดแห่งนี้มีจุดเด่นและเอกลักษณ์อยู่ตรงที่การเป็นตลาดดอกไม้ 24 ชั่วโมง และเป็นตลาดที่มีความสัมพันธ์กับชุมชน มีความเชื่อมโยงกับเยาวราช และใช้การสัญจรหรือคมนาคมทางน้ำ” ผศ.ดำรงพล กล่าว นางสาวสุดารา สุจฉายา เล่าว่าพื้นที่นี้เดิมเป็นเมืองหน้าด่านในสมัยกรุงศรีอยุธยา เมื่อมีการขุดคูเมืองเดิมขึ้นในสมัยกรุงธนบุรี ทำให้ย่านปากคลองคูเมืองเกิดเป็นตลาดขึ้น แต่ความเป็นมาของปากคลองตลาดชัดเจนเกิดขึ้นในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม เมื่อได้ย้ายตลาดเดิมจากย่านท้ายวังมาสร้างเป็น “ตลาดองค์การตลาด” “ในอดีตจุดค้าขายไม้ดอกไม้ประดับ อยู่ริมคลองคูเมืองเดิมหรือคลองหลอดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของตลาดนัดสนามหลวงเดิม เมื่อตลาดนัดสนามหลวงถูกยกเลิกไป ตลาดดอกไม้จึงได้ย้ายไปอยู่ริมคลองบริเวณปากคลองตลาด และมีการขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปัจจุบัน” น.ส.สุดารา กล่าว นายวันชัย อินทคุณจินดา ชาวปากคลองตลาดรุ่นที่สามที่ได้สืบทอดอาชีพค้าขายต่อจากบรรพบุรุษ เล่าถึงการพัฒนาและเอกลักษณ์ของการค้าการขายในตลาดแห่งนี้ว่า เมื่อเกิด “ตลาดองค์การตลาด” หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ตลาดเก่า” ในครั้งแรกไม่ค่อยมีคนอยากมาขาย แต่เมื่อตลาดท่าเตียนซบเซา การค้าที่นี่จึงเริ่มคึกคักมากขึ้นถึงขั้นกลายเป็นความแออัด จนเกิดเป็น “ตลาดยอดพิมาน” และ “ตลาดส่งเสริมเกษตรไทย” ขึ้นมาในภายหลัง “คำว่าปากคลองตลาดเป็นคำเรียกรวมพื้นที่ตลาดทั้ง 4 แห่งที่เชื่อมโยงติดต่อกัน โดยรวมไปถึงตลาดบริเวณสะพานพุทธด้วย การค้าในปัจจุบันเรียกได้ว่ามีผู้ค้าหนาแน่น เปิดขายตลอด 24 ชั่วโมง หนึ่งแผงค้าแบ่งเป็นผู้ขาย 2 รอบ เมื่อตลาดแออัดประกอบกับเกิดการขยายตัวของตลาดค้าส่งด้านนอกเมือง บทบาทของปากคลองซึ่งเป็นแหล่งค้าส่งผักและผลไม้จึงน้อยลง แต่ผู้ซื้อและผู้ขายกลับไม่ได้ลดตาม และยังสามารถปรับตัวจนกลายเป็นตลาดค้าปลีกที่ได้เชื่อมโยงสินค้าไปสู่ตลาดเล็กๆ ในพื้นที่ชั้นในของกทม. สำหรับตลาดดอกไม้เดิมก็ขายอยู่ริมถนน และกลับมีผู้ค้าดอกไม้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นเอกลักษณ์ที่สร้างชื่อเสียงให้กลายเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวทั่วโลก ในฐานะตลาดดอกไม้ที่แปลกกว่าที่ใดในโลกคือ ขายกลางถนน และขายกันตลอดเวลาไม่มีเวลาหลับ” นายวันชัยระบุ นักวิชาการภูมิสถาปัตย์ อาจารย์ชาตรี ประกิตนนทการ ได้กล่าวถึงรูปแบบของโครงการพัฒนาพื้นที่ของตลาดยอดพิมาน ด้วยการปรับปรุงรูปแบบทางสถาปัตยกรรมและภูมิทัศน์ทั้งหมดว่า จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบทางวัฒนธรรม และการใช้สอยในพื้นที่ เพราะเมื่อเกิดการปรับเปลี่ยนทางกายภาพ วิถีชีวิตและรูปแบบการค้าเดิมก็จะเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเป้าหมายการปรับปรุงตลาดให้เป็นแบบตลาดดอกไม้ในต่างประเทศเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว จำเป็นต้องทบทวนอย่างยิ่งว่านักท่องเที่ยวต้องการพบเห็นอะไร เอกลักษณ์ของปากคลองตลาดคืออะไร อะไรคือเนื้อแท้และเสน่ห์ของปากคลองตลาด ซึ่งการเข้าใจแก่นที่แท้จริงของพื้นที่จึงจะนำไปสู่การพัฒนาที่ดีและยั่งยืน จะเห็นได้ว่าผู้ร่วมเสวนาทุกฝ่ายล้วนเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าการพัฒนาควรตั้งอยู่บนพื้นฐานหรือวิถีดั้งเดิมของชุมชน ควรอนุรักษ์ในสิ่งที่เป็นเสน่ห์ เอกลักษณ์ และวิถีชีวิตของคนปากคลองตลาด เพราะพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แท้จริงของตลาดแห่งนี้เกิดขึ้นจากการเป็นย่านการค้าขายที่สำคัญ มิใช่จากการท่องเที่ยว “ทุกวันนี้ชุมชนทุกแห่งที่มีรถไฟฟ้าเข้าไป กำลังประสบปัญหาเดียวกับปากคลองตลาด เพราะการพัฒนาด้านการคมนาคมที่เข้าไปในตัวเมืองเก่า ได้ทำให้เกิดแรงจูงใจกับนักลงทุน เมื่อเกิดความเปลี่ยนแปลงทางกายภาพ ที่ไม่ได้คำนึงถึงคนในพื้นที่ จะส่งผลให้คนที่มีวิถีชีวิต วัฒนธรรม ความผูกพันกับพื้นที่ต้องหลีกหนีออกไปจากชุมชนเดิมเพราะไม่สามารถสู้กับทุนใหม่ที่เข้ามาได้ ทำให้ชีวิตและจิตวิญญาณของความเป็นเมืองสูญหายไปด้วย” นางสาวสุดารา สุจฉายา นักวิชาการด้านประวัติศาสตร์ระบุ ด้าน นางจิระนันท์ พิตรปรีชา ที่ปรึกษา สพร. กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในลักษณะนี้จะได้เพียงฉากหน้าของความสวยงามแต่ไร้ซึ่งวิถีชีวิต ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือพื้นที่สนามหลวงซึ่งถูกล้อมรั้วในปัจจุบัน “ตลาดเป็นสถานที่ค้าขายของชุมชน ไม่ใช่สถานที่ๆ จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ถ้ามีการพัฒนาเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจริง เสน่ห์ของปากคลองตลาดจะหายไป วิถีชุมชนที่เคยมีก็จะหายไปเกินกว่าครึ่งหนึ่ง ดังนั้นจึงต้องมาทบทวนใหม่ว่า การใช้รูปแบบของตลาดในต่างประเทศมาเป็นบรรทัดฐานในการพัฒนาตลาดของไทยนั้นถูกต้องหรือไม่ เพราะรายได้จากการท่องเที่ยวคือผลพลอยได้เท่านั้น” นางจิระนันท์กล่าวสรุป สำหรับโครงการเสวนา Living Museum : พิพิธภัณฑ์มีชีวิต ชุมชนปากคลองตลาด ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ “วิถีใหม่ปากคลองตลาด@สถานีสนามไชย” มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 23 กันยายน 2555 โดยในงานเสวนาจะกล่าวถึงกรณีศึกษาเทียบเคียงปากคลองตลาดกับตลาดสามย่าน และตลาดนางเลิ้ง ในบริบทของการพัฒนาตลาดเก่าและวิถีชุมชนเมืองกับการพัฒนาตลาดเก่าในกรุงเทพฯ พร้อมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ ผู้สนใจเข้าร่วมเสวนาสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 02-225-2777 ต่อ 404 หรือ www.facebook.com/museumfan และ www.museumsiam.com -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวอสังหาริมทรัพย์+ปากคลองตลาดวันนี้

กลุ่มบริษัท "เสนา" ได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน "SET ESG Ratings ระดับ A"

ตอกย้ำผู้นำ Sustainable Living ขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน กลุ่มบริษัทเสนา โดย บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัท เซ็น เอกซ์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้นำด้านการอยู่อาศัยอย่างยั่งยืน (Sustainable Living Leader) ได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งใน "หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings" ระดับ A ประจำปี 2568 กลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนแนวคิดการดำเนินธุรกิจที่มองไกลกว่าการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย แต่เชื่อมโยงการสร้างบ้าน

บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ... TASCO คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ "AA" — บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน) หรือ TASCO ได้รับการประเมินผลหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2568...

A5 ปลื้ม โครงการ "CINQUI?M Krungthep Kree... A5 ปลื้ม "CINQUI?M Krungthep Kreetha" กวาดยอดขาย 50% ตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดลักชัวรี — A5 ปลื้ม โครงการ "CINQUI?M Krungthep Kreetha" (แซงเคียม กรุงเทพกรีฑ...