AO Fund พร้อมใส่เงินเพิ่มทุน 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์ให้ PAE นับจากนี้กลายเป็นเสือติดปีกพร้อมรุกขยายธุรกิจเต็มสูบ

28 Feb 2013

กรุงเทพฯ--28 ก.พ.--พีเออี (ประเทศไทย)

กองทุน Advance Opportunities Fund (AO Fund) พร้อมใส่เงินเพิ่มทุนให้กับ บมจ.พีเออี (ประเทศไทย) หรือ PAE มูลค่า 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ทำให้กลายเป็นเสือติดปีก “รัตนพล วงศ์นภาจันทร์” ระบุนำเงินไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ขณะเดียวกันช่วยเพิ่มฐานทุนให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สามารถรองรับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นได้อีกมาก และจะเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ผลประกอบการในอนาคตเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน พร้อมประกาศเปิดแผนปี 56 เน้นโฟกัสที่ธุรกิจ Oil&Gas เหตุมาร์จิ้นดี เล็งดันสัดส่วนรายได้ปีนี้ขยับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 ของรายได้รวม จากเดิมมีสัดส่วนรวมเพียงร้อยละ 50

นายรัตนพล วงศ์นภาจันทร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) หรือ PAE ผู้ให้บริการด้าน EPC (Engineering, Procurement, Construction) สำหรับธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ และงานก่อสร้างสาธารณูปโภค แก่ภาครัฐ และเอกชน เปิดเผยว่า กองทุน Advance Opportunities Fund (AO Fund) ซึ่งเป็นกองทุนที่จดทะเบียนที่เกาะเคย์แมน เปิดเผยว่ามีความพร้อมที่จะร่วมทุนด้วยการซื้อหุ้นกู้แปลงสภาพของ PAE มูลค่า 20 ล้านเหรียญสิงคโปร์ หรือเงินสกุลอื่นในจำนวนเทียบเท่า ภายหลังจากได้รับการอนุมัติจากทางสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2556

“เมื่อ ก.ล.ต.อนุมัติทาง AO Fund พร้อมที่จะโอนเงินเข้ามาทันที ซึ่งจะทำให้ฐานทุนของ PAE แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันเงินที่ได้มานั้น PAE จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน และรองรับงานโครงการต่างๆ ซึ่งปัจจุบัน บริษัทมีมูลค่างานในมือ (backlog) ประมาณ 4,000 ล้านบาท และงานโครงการอยู่ระหว่างการประมูลเป็นจำนวนสูงถึง 8,500 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้แผนการดำเนินธุรกิจในอนาคตของบริษัทสามารถดำเนินไปอย่างราบรื่น รวมถึงจะสามารถสร้างผลตอบแทนให้กับผู้ถือหุ้นได้อย่างเต็มที่อีกด้วย”

ท่านกล่าวต่อถึงแผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า PAE ยังเดินหน้าประมูลงานใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อสนับสนุนการเติบโตของบริษัทฯ ให้เติบโตไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยในปี 2556 จะมุ่งเน้นงานที่มีกำไรดี โดยเฉพาะโครงการ Oil&Gas ที่มีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ประมาณ 20-30% โดยได้ตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Oil&Gas ในปีนี้จะขยับเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 70 จากปีก่อนที่มีสัดส่วนรวมเพียงร้อยละ 50 เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้รวมทั้งหมด สำหรับรายได้จากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในปีนี้คาดว่าจะลดเหลือประมาณร้อยละ 20-30 จากเดิมที่มีสัดส่วนรายได้มากถึงร้อยละ 50 ซึ่งฐานที่ลดลงไม่ได้เกิดการการลดรับงานให้น้อยลง แต่เป็นเพราะฐานรายได้จะขยายตัวใหญ่ขึ้นอันมาจากการมุ่งรับงาน Oil&Gas เพิ่มมากขึ้น

“PAE ไม่ได้มุ่งเน้นที่ตัวเลขรายได้ว่าแต่ละปีจะต้องโตมากน้อยขนาดไหน แต่ได้ให้ความสำคัญที่กำไรมากกว่า นั่นคือจะต้องมีอัตราการขยายตัวในระดับที่น่าพึงพอใจอย่างต่อเนื่องในแต่ละปี โดยกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ในขณะนี้คือการมุ่งเน้นประมูลงานที่มีมาร์จิ้นสูง โดยเฉพาะงานในธุรกิจ Oil&Gas ที่ PAE มีความเชี่ยวชาญและทีมงานพร้อม ซึ่งเป็นงานถนัดของบริษัทอยู่แล้ว และมีชื่อเสียงในด้านนี้อยู่แล้ว ดังนั้นในปี 2556 จะเห็นการขยับตัวของ PAE ที่แตกต่างไปจากเดิม และเป็นไปในทางบวกแน่นอน” นายรัตนพล กล่าวในที่สุด ด้าน Mr. Tan Choon Wee Managing Director Advance Opportunities Fund กล่าวว่า PAE เป็นบริษัทที่มีพื้นฐานที่ดี มีทีมงานที่มีศักยภาพ มีความเป็นมืออาชีพและมีประสบการณ์การทำงานมายาวนาน จึงมีความมั่นใจที่จะร่วมลงทุนด้วยในครั้งนี้ โดยเชื่อว่าในอนาคต PAE จะไม่หยุดเพียงเท่านี้ แต่จะเติบใหญ่ สามารถขยายตัวและก้าวเดินไปข้างหน้าได้ไกลกว่านี้อย่างแน่นอน เพียงแต่ในปัจจุบันอาจจะมีความจำเป็นต้องมีทุนสำรองเอาไว้ใช้เป็นทุนหมุนเวียนในการรับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งการร่วมลงทุนในครั้งนี้ AO Fund ถือว่าเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ที่จะช่วยผลักดัน PAE ให้สามารถดำเนินงานได้โดยไม่สะดุด และสามารถรับงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างผลตอบแทนที่ดีและน่าพอใจให้ได้ในอนาคต

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net