ก.ล.ต. ผนึกหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ร่วมขับเคลื่อนภาคธุรกิจผ่านโครงการ “หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด” รุ่นที่ 2

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--4 ก.พ.--ก.ล.ต.

ก.ล.ต. ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทย ชมรมวาณิชธนกิจและผู้สอบบัญชีที่เข้าร่วมโครงการ เปิดตัวโครงการ “หุ้นใหม่ ความภูมิใจของจังหวัด” รุ่นที่ 2 พร้อมเสนอเงื่อนไขจูงใจ หวังดึงผู้ประกอบการต่างจังหวัดที่พลาดโอกาสในรุ่นแรก ได้รับโอกาสนี้อีกครั้ง โดยเปิดรับสมัครจนถึง 31 พฤษภาคม 2556 นี้ เพื่อให้กิจกรรมการสร้างความรู้ความเข้าใจและความตื่นตัวแก่ผู้ประกอบการในต่างจังหวัดสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง หลังจากมีผู้สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการรุ่นที่ 1 ถึง 104 บริษัท จาก 34 จังหวัด ก.ล.ต. และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนรวม 8 องค์กร ขอเชิญผู้ประกอบการทั่วประเทศสมัครเข้าร่วมโครงการ “หุ้นใหม่ความภูมิใจของจังหวัด” รุ่นที่ 2 เพื่อเป็นการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับการใช้ตลาดทุนเป็นช่องทางในการระดมทุน และการเตรียมตัวระดมทุนจากตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนให้ภาคธุรกิจมีแหล่งเงินทุนระยะยาวอีกทั้งเป็นการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันให้กับกิจการพร้อมรับการเปิดเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน สำหรับโครงการรุ่นที่ 2 นี้ยังคงเน้นกิจการที่จดทะเบียนหรือมีธุรกิจหลักในต่างจังหวัดซึ่งดำเนินกิจการมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี และเปิดกว้างให้กิจการที่มีทุนจดทะเบียนชำระแล้วและส่วนของผู้ถือหุ้นไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาทหรือมีผลกำไร หรือมีกำไรสะสม อย่างใดอย่างหนึ่ง ในงบการเงินงวดปีล่าสุด สามารถเข้าร่วมโครงการได้ กิจการที่ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการทุกรายจะได้รับสิทธิประโยชน์หลายประการ ได้แก่ การอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับตลาดทุนและการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียน ได้รับคำปรึกษาในการเตรียมตัวเข้าตลาดหลักทรัพย์ สำหรับกิจการที่ยื่นขออนุญาตเสนอขายหุ้นภายในปี 2557 จะรับยกเว้นค่าธรรมเนียมคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จาก ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์และหากได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นจาก ก.ล.ต. ภายในปี 2557 จะได้รับโล่เชิดชูเกียรติ ผู้สนใจเข้าร่วมโครงการสามารถศึกษารายละเอียดและดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ www.sec.or.th/ipopหรือ facebook: www.facebook.com/secipop หรือโทรสอบถามรายละเอียดที่ 0-2263-6000 และยื่นใบสมัครได้ที่สภาอุตสาหกรรมจังหวัด หอการค้าจังหวัด หรือที่ ก.ล.ต. ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “รัฐบาลเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนากิจการในต่างจังหวัดทั่วประเทศ เพราะเชื่อว่ากิจการเหล่านี้เป็นพลังสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตได้อย่างยั่งยืน จึงหวังว่าผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะจังหวัดที่ยังไม่มีกิจการเข้าร่วมโครงการแรก จะช่วยกันผลักดันภาคธุรกิจให้เข้าร่วมโครงการนี้ เพื่อให้กิจการทุกจังหวัดทั่วประเทศเติบโตได้ในระยะยาว” นายจรินทร์ จักกะพาก รองปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “ในขณะที่ภาครัฐบาลพยายามกระจายรายได้สู่ท้องถิ่นเพื่อลดปัญหาช่องว่างรายได้ ภาคตลาดทุนภายใต้โครงการนี้มีความมุ่งมั่นที่จะช่วยสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจท้องถิ่นเพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุน สร้างความแข็งแกร่ง ช่วยสร้างงานและรายได้ให้แก่จังหวัดและยังเป็นการวางรากฐานการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ” นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า “โครงการนี้จัดขึ้นอีกครั้งเนื่องจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกิจการในต่างจังหวัด ประกอบกับ ก.ล.ต. ตระหนักถึงความต้องการของผู้ประกอบการหลายประเภทธุรกิจจากหลากหลายจังหวัดที่สนใจในเรื่องตลาดทุนและการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ยังพบว่าผู้เข้าร่วมโครงการหลายรายเป็นธุรกิจที่มีศักยภาพและพร้อมที่จะปรับตัว ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพัฒนาไปสู่การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต ทำให้ทุกธุรกิจในต่างจังหวัดเตรียมพร้อมเพื่อรับโอกาสจากการเปิดเสรีของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ตลาดหลักทรัพย์พร้อมให้การสนับสนุนและคำแนะนำในการเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียน แก่ผู้ประกอบการที่มีความสนใจ เพื่อช่วยให้กิจการมีความพร้อมและสามารถเข้าจดทะเบียนได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ ทั้งนี้บริษัทที่เข้าร่วมโครงการฯ รุ่นที่ 1 สามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ แล้วจำนวน 4 บริษัท โดยอยู่ในจังหวัด ชลบุรี ปทุมธานี และ ปราจีนบุรี นอกจากนี้ ยังมีอีก 5 บริษัทที่อยู่ระหว่างยื่นคำขอและรอเข้าจดทะเบียน” นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า “ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมหลายแห่งเล็งเห็นถึงประโยชน์ของโครงการ จึงสมัครเข้าร่วมโครงการแรกแล้ว กิจการที่มีแผนปรับปรุงการบริหารและโครงสร้างทางการเงินจึงไม่ควรพลาดโอกาสในการสร้างความรู้ความเข้าใจและเข้าถึงตลาดทุนเพื่อสร้างความแข็งแกร่งรองรับกับโอกาสและความท้าทายที่จะเกิดขึ้นจากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล ประธานหอการค้าไทย กล่าวว่า “โครงการหุ้นใหม่รุ่นแรกได้ก่อให้เกิดกระแสการตื่นตัวของภาคธุรกิจในต่างจังหวัดในการให้ความสำคัญกับการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงาน พร้อมกับการสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน ไม่เพียงเพื่อสร้างความอยู่รอดเท่านั้น แต่เพื่อสร้างรากฐานทางธุรกิจและสามารถเป็นผู้นำในภาคธุรกิจของตนได้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการนี้จะช่วยกระตุ้นกระแสการตื่นตัวได้ยิ่งขึ้น” นายณรงค์ ศิริเลิศวรกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพในการผลิตของธุรกิจ สวทช.จึงพร้อมสนับสนุนกิจการที่เข้าร่วมโครงการในการปรับปรุงกระบวนการผลิต ให้คำปรึกษาด้านเทคนิคเพื่อช่วยยกระดับความสามารถในการแข่งขันให้สูงขึ้น” นายนรเชษฐ์ แสงรุจิ ประธานชมรมวาณิชธนกิจ กล่าวว่า “เป็นโอกาสอันดีที่กิจการในต่างจังหวัดแม้จะเป็นบริษัทขนาดเล็กหรือเพิ่งเริ่มดำเนินการไม่นาน จะได้รับคำแนะนำจาก ก.ล.ต. ตลาดหลักทรัพย์ และที่ปรึกษาทางการเงิน พร้อมกันในคราวเดียว ซึ่งทีมที่ปรึกษาทางการเงินพร้อมให้ข้อเสนอแนะแก่กิจการที่เข้าร่วมโครงการ”-กภ-

ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยวันนี้

จุฬาฯ จับมือกรม Climate Change และเครือข่ายพันธมิตรภาคเอกชน เปิดตัวหลักสูตร "TOP Green" หลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้าน Sustainability

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ร่วมกับกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม หอการค้าไทย และสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และ UN Global Compact Network Thailand จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวหลักสูตร "TOP Green Executive Program" โดยมี ศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คุณนารีรัตน์ พันธ์มณี ผู้แทนอธิบดีกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม คุณอมรเทพ ทวีพานิชย์ ผู้แทนประธานหอการค้าไทยและสภาหอการค้าไทย คุณอดุล ขาวละออ รองประธานสภาอุตสาหกรรม

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหา... จีเอเบิล ขึ้นเครื่องหมาย XD 30 เมษายนนี้ ในอัตราหุ้นละ 0.2703 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผลในเดือนพฤษภาคม — ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเ...

ก.ล.ต. ผ่อนผันให้ SAM นำส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งการให้บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (SAM) ส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ตามที่ SAM...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDL... "เงินติดล้อ" ผนึกตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งปันไอเดีย การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในองค์กร — บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณมิ่งขวัญ ประเสริ...

มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิ... THNIC จับมือ SET และ ICANN จัดงาน UA Day 2025 ใช้โดเมนและอีเมลภาษาไทย ปูทางธุรกิจไทยก้าวสู่สากล — มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) ร่วมกับตลาดห...

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ... RBF โชว์ศักยภาพธุรกิจ-แผนขยายตลาด ตปท. งาน "Thailand Earning Call" ปังธง ปี 68 รายได้รวม โต 10-15% — นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและก...