กรมส่งเสริมการค้าฯผนึกหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัด”การแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลก”

30 Jan 2013

กรุงเทพฯ--30 ม.ค.--กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ

กรมส่งเสริมการค้าฯผนึกหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัด”การแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลก”ครั้งแรกของโลก ดึงเชฟมืออาชีพจาก 15 ประเทศร่วมประชันแข่งขันทำ “อาหารไทย” หวังตอกย้ำคุณภาพ รสชาติ ความปลอดภัยและรสชาติ มั่นใจขยายตลาดอาหารไทย-วัฒนธรรมไทยสู่สากล

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(สค.) เปิดเผยถึงการผลักดัน“ครัวไทยสู่ครัวโลก” ภายใต้นโยบายของ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ต้องการตอกย้ำให้อาหารไทยมีภาพลักษณ์ คุณภาพ ความปลอดภัยและรสชาติเป็นที่ยอมรับติด 1 ใน 5 อันดับโลกว่า อาหารโลกมูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ขยายตัว 21 % ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องจากการขยายตัวของจำนวนประชากรของโลก โดยไทยเป็นประเทศผู้ส่งออกสินค้าอาหารในอันดับที่ 11 ของโลก หรือ มีสัดส่วนการส่งออก 3%

“ท่ามกลางสภาวะการแข่งขันที่รุนแรงในตลาดโลก ประเทศไทยจึงต้องเร่งพัฒนาสินค้าและขยายตลาดเชิงลึก เพื่อผลักดันการส่งออกอาหารของไทยให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีกลยุทธ์ในการผลักดันการส่งออกสินค้าอาหารของไทย ทั้งการพัฒนาเพื่อเพิ่มมูลค่าแก่สินค้า สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง ยกระดับสินค้าสู่ตลาดบน รวมทั้งหลีกเลี่ยงการแข่งขันด้านราคา กรมฯจึงเข้าสนับสนุน“The 1st Thailand Culinary world Challenge 2013” หรือ “การแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 1” ซึ่งมีเชฟนานาชาติมืออาชีพจากประเทศต่างๆ ถึง 15ประเทศเข้าร่วมแข่งขันในครั้งนี้” นางศรีรัตน์ กล่าว

การจัดงานครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับผู้ประกอบการไทยสู่ระดับสากล นอกเหนือจากการฝึกอบรม/สัมมนา การให้คำปรึกษาต่างๆ การเจรจาการค้าเชิงรุก การดำเนินการปกป้อง รักษาผลประโยชน์ทางการค้าของไทย แก้ไขอุปสรรคการค้าต่างๆ แล้ว จะเป็นการประชาสัมพันธ์อาหารไทยและครัวไทย รวมถึงการรณรงค์ให้บริโภคอาหารไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการผลักดันการสร้างเซฟพ่อครัวและเซฟแม่ครัวไทยแท้แล้ว ซึ่งคาดว่าจะส่งเสริมให้มีการใช้วัตถุดิบอาหารไทย บริการร้านอาหารไทยให้มีชื่อเสียงในระดับโลก ส่งผลให้ชาวต่างประเทศรู้จักอาหารไทยมากขึ้น และมีความต้องการบริโภคอาหารไทยในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น

สำหรับปี 2556 กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมีแผนงานกิจกรรมส่งเสริม/พัฒนาการส่งออกสินค้าอาหาร หลายแนวทาง หนึ่งในนั้น คือ การมอบหมายตราเครื่องหมายไทยซีเล็คท์(Thai Select) ให้กับผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูป หรือกึ่งสำเร็จรูปที่เป็นสินค้าส่งออกที่มีรสชาติและรูปลักษณ์มีความเป็นไทย และใช้วัตถุดิบของไทย ปัจจุบันมีจำนวนร้านอาหารไทยในต่างประเทศกว่า 13,150 ร้านทั่วโลก โดยในต่างประเทศได้รับการเครื่องหมาย 1,093 ร้าน โดยกรมฯ ได้เพิ่มการมอบเครื่องหมายไทยซีเล็คท์ ให้กับผลิตภัณฑ์อาหารไทยสำเร็จรูป หรือกึ่งสำเร็จรูปที่เป็นสินค้าส่งออกที่มีรสชาติและรูปลักษณ์มีความเป็นไทย และใช้วัตถุดิบของไทย รวมถึงพิจารณามอบให้ร้านอาหารไทยที่อยู่ในประเทศเพิ่มเติมจากที่กรมฯ ปัจจุบันมีผู้ประกอบการในประเทศไทยได้รับเครื่องหมายไทยซีเล็คท์จำนวน 59 ร้าน

สินค้าอาหารส่งออกที่สำคัญของไทย ได้แก่ ข้าว อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป กุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป ไก่แช่เย็นแช่แข็งและแปรรูป ผักผลไม้กระป๋องและแปรรูป และผักผลไม้สดแช่เย็นแช่แข็งและแห้ง การส่งออกสินค้าอาหาร เป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้แก่ภาคเกษตรและอุตสาหกรรมได้อย่างทั่วถึง โดยในปี 2555 ไทยส่งออกสินค้ากลุ่มอาหารคิดเป็นมูลค่า 27,069 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ คิดเป็นสัดส่วน 12% ของการส่งออกทั้งหมดของไทย

นายประวิตร เปรื่องอักษร บรรณาธิการบริหารนิตยสารฟู้ดสไตลิทส์ ในฐานะที่เป็นผู้ปลุกปั้นส่งเสริมอาหารไทย กล่าวว่า นิตยสารฟู้ดสไตลิทส์ ได้ร่วมมือกับเชฟวิลแมน ลีอองเชฟสิงคโปร์ หัวใจไทย ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งและผลักดันเชฟทีมชาติไทย ในนาม Thailand Culinary Academy จนได้รับความสำเร็จและได้รับรางวัลเหรียญทองระดับโลก มีแนวคิดริเริ่มจัดการแข่งขันทำอาหารในเมืองไทย “การแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลกครั้งที่ 1” ระหว่างวันที่ 2-3 มีนาคม 2556 ณ ศูนย์การค้าเมกา บางนา และถือว่าเป็นการสร้างปรากฏการณ์ครั้งแรกของโลกกับการแข่งขันทำอาหารไทยและใช้วัตถุดิบอาหารไทย

"ผมคิดว่าในเมื่อทั่วโลก จัดการแข่งขันอาหารนานาชาติได้ แล้วทำไม จึงไม่มีการแข่งขันอาหารไทยขึ้นมาบ้าง ที่สำคัญคงไม่มีประเทศไหนในโลก ที่จะจัดแข่งขันอาหารไทยได้ดีไปกว่าประเทศไทย และสิ่งสำคัญสุดเป้าหมายในการจัดแข่งขันครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมคุณค่าและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับอาหารไทยและวัตถุดิบไทย พร้อมทั้งสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องกับการใช้วัตถุดิบไทย ในการสร้างสรรค์อาหารไทยใหม่ๆ และยังต้องการส่งเสริมภาพลักษณ์ของอาหารไทย ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศในองค์รวม ผ่านวัฒนธรรมอาหาร และกระตุ้นเศรษฐกิจและการค้าของประเทศในส่วนของอาหารในองค์รวม” นายประวิตร กล่าว

นายประวิตร กล่าวอีกว่า การจับมือกันระหว่าง ฟู้ดสไตลิทส์ หน่วยงานภาครัฐ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ททท. สมาคมพ่อครัวไทย และ Thailand Culinary Academy เป็นต้น ซึ่งเป็นการร่วมมือครั้งสำคัญในการมีส่วนช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมอาหารไทย และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เพื่อภาพลักษณ์ที่ดีและการดึงดูดคนเข้าสู่ประเทศไทย นอกจากนี้ ยังมีสื่อต่างประเทศให้การสนับสนุนส่งเสริมภาพการแข่งขันในครั้งนี้ เผยแพร่ไปทั่วทวีปเอเชียอีกด้วย

การแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยฯ จะมีเชฟนานาชาติทั่วโลก 15 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น ไต้หวัน เกาหลีใต้ อินเดีย สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา อินโดนีเซีย ดูไบ ฟิลิปปินส์ จีน ฮ่องกง เยอรมัน สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย ทีมละ 2 คน รวม 30 คน เข้าร่วมแข่งขัน ไฮไล้ท์ของงานที่น่าสนใจ ในวันเสาร์ที่ 2 มีนาคม 2556 เชฟนานาชาติ จะร่วมกันแข่งขันทำอาหารต่างชาติ จากวัตถุดิบไทย ครัวไทย การเปิดตัวกองวัตถุดิบไทย ในนามไทยซีเล็คท์ ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และการแสดงจากคณะโจหลุยส์ และวันอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม จะเป็นการแข่งขันทำอาหารไทย จากวัตถุดิบไทย ครัวไทย และปิดท้ายด้วยการจัดกาล่าดินเนอร์The 5th Spirits of Taste ในวันที่ 5 มีนาคม 2556 ที่จะมีการโชว์ "สุดยอดอาหารไทย โดย5 สุดยอดเชฟไทย”

นายประวิตร กล่าวว่า ในมุมมองของฟู้ดสไตลิสท์ มองว่าการแข่งขันครั้งนี้ จะเกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่อวงการอาหารไทยและเชฟไทย เพราะจะเป็นการกระตุ้นให้เกิดกระแสอาหารไทยทั้งในกลุ่มเชฟ และคนรุ่นใหม่ ทั้งไทยและต่างชาติ อีกทั้งยังทำให้เกิดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับอาหารไทย ถือเป็นปรากฏการณ์การสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ภายใต้การนำวัตถุดิบไทย ไปใช้ในการสร้างสรรค์อาหารในระดับนานาชาติและหลังจากการแข่งขันสุดยอดเชฟอาหารไทยชิงแชมป์โลก ฟู้ดสไตล์ลิทส์ยังมีโครงการร่วมทำรายการเรียลลิตี้ ซีรี่ย์ เบื้องหลังการแข่งขัน และการเตรียมงาน กาล่าดินเนอร์อาหารไทย ร่วมกับรายการโทรทัศน์ต่างชาติ เพื่อนำเนื้อหารายการเกี่ยวกับอาหารไทยเผยแพร่ไปต่างประเทศอีกด้วย

สำนักประชาสัมพันธ์ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ โทร.(02) 507-7932-34 -กภ-