TSF ประกาศขึ้นแท่นเบอร์ 1 สื่อกลางแจ้งเป็นแชมป์ยาว 9 ปี ตอกย้ำการเทิร์นอะราวด์-วางเป้ารายได้ปีนี้โต 500%

25 Mar 2013

กรุงเทพฯ--25 มี.ค.--IR Network

บมจ.ทรีซิกตี้ไฟว์ (TSF) ประกาศกร้าว ขึ้นแท่นผู้นำสื่อกลางแจ้ง (Out of Home Media : OHM) มากที่สุดและทำเลดีที่สุดใน กทม.ยาวนาน 9 ปี ตอกย้ำความแข็งแกร่ง หลังคว้าสิทธิดูแลป้ายโฆษณาบนทางเท้า (Mupi) และป้ายโฆษณาในศาลารถประจำทาง (Panoramic) ในกรุงเทพฯกว่า 3,000 ป้ายนานถึง 9 ปี (สิ้นสุด 2564) ผู้บริหารประกาศศักยภาพเกินร้อย พร้อมลุยทำงานสุดตัว มั่นใจตอบโจทย์ลูกค้าได้อย่างสมบูรณ์แบบ ยิ้มรับผลประกอบการถึงเวลาเทิร์นอะราวด์แน่ๆ เริ่มเห็นภาพชัดตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ในปีนี้ พร้อมวางเป้ารายได้ปีนี้ก้าวกระโดดเติบโต 500% แตะ 1,200 ล้านบาท

นายอรัญ อภิจารี ประธานกรรมการ บริษัท ทรีซิกตี้ไฟว์ จำกัด (มหาชน) หรือ TSF ผู้นำด้านสื่อโฆษณากลางแจ้งและงานโฆษณาประชาสัมพันธ์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่าบริษัทฯ ได้ก้าวขึ้นแท่นผู้นำสื่อกลางแจ้ง (Out of Home Media : OHM)เป็นอันดับหนึ่ง โดยมีสื่อโฆษณามากที่สุดและมีทำเลดีที่สุดในกรุงเทพมหานครยาวนานถึง 9 ปี ภายหลังจากที่ได้รับสิทธิดูแลป้ายโฆษณาและป้ายประจำทางในกทม.มากกว่า 3,000 จุด เป็นระยะเวลา 9 ปี (สิ้นสุดปี 2564) จากกรุงเทพมหานคร โดยเป็นป้ายโฆษณาบนทางเท้า (Mupi) และป้ายโฆษณาในศาลารถประจำทาง (Panoramic) ที่อยู่ในย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์และคุ้มค่าต่อการลงทุนเพราะเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี และผลักดันผลประกอบการของ TSF กลับมาเทิร์นอะราวด์ โดยจะเริ่มเห็นภาพที่ชัดเจนนับตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 ในปีนี้ เป็นต้นไป

ทั้งนี้ คาดว่าผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ในปีนี้ จะสามารถพลิกกลับมาสร้างผลกำไรได้ เนื่องจากการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางเอาไว้ ประกอบกับการได้รับงานใหม่เพิ่มเติมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ในส่วนของบริษัทย่อย 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เวิร์ค บาย ฮาร์ท จำกัด และบริษัท ทีเอสเอฟ แมเนจเม้นท์ จำกัด ก็มีผลประกอบการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเช่นกัน อาทิเช่น โฆษณาบริเวณสะพานเทียบเครื่องบิน (Jet Bridge) ที่จะเดินเข้าสู่ตัวเครื่องบินในเขตสนามบินภูมิภาค ทั้งหมด 6 แห่ง ประกอบด้วย สนามบินกระบี่, นครราชสีมา, อุบลราชธานี, อุดรธานี, สุราษฎร์ธานี และขอนแก่น โดยได้สิทธิทั้งด้านในและด้านนอกของสะพานเทียบเครื่องบินเป็นเวลา 3 ปี นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้รับสิทธิพื้นที่แสดงสินค้าในอาคารผู้โดยสารของท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ขนาด 36 ตารางเมตร แต่เพียงผู้เดียว และเป็นเจ้าของรายการโทรทัศน์ The Session ปรากฏการณ์ดนตรี ออกอากาศทางช่อง 9 อสมท.

นางวิมลวรรณ มิลินทจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า “บริษัทฯ ได้ปรับภาพลักษณ์ขององค์กรใหม่ โดยเปลี่ยนโลโก้จาก 365 เป็น “ทีเอสเอฟ” เพื่อให้สอดรับกับทิศทางธุรกิจที่ตั้งเป้าเป็นผู้สร้างสรรค์โฆษณาในรูปแบบต่างๆ ภายใต้แนวคิด “Everyday Creative Media” ที่มุ่งมั่นสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้นในธุรกิจโดยการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการบริหารสื่อโฆษณาและการจัดงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร และได้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การตลาดเป็นเชิงรุกมากยิ่งขึ้น ทำให้มั่นใจว่าผลประกอบการของ TSF ในปี 2556 นี้ จะกลับมา Turn Around ได้อย่างแน่นอน ซึ่งทีมบริหารและพนักงานทุกท่าน มีความมุ่งมั่นและตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ ทำให้บริษัทฯ ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่องในการเข้ามาซื้อสื่อโฆษณาและใช้บริการโฆษณาประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างมาก คาดว่าจะผลักดันให้รายได้ในปีนี้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยได้ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 1,200 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการขยายตัวประมาณ 500%เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2555 ที่ผ่านมา โดยแบ่งเป็น 80% จากงานขายสื่อโฆษณากลางแจ้ง และ 20% จากงานโฆษณาประชาสัมพันธ์ และการจัดทำรายการโทรทัศน์”

“การเติบโตของบริษัทฯ แบบก้าวกระโดดนี้จะต้องใช้ยุทธศาสตร์ที่ชัดเจนและตอบสนองลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยการขยายสื่อโฆษณาในพื้นที่หัวเมืองใหญ่ๆ ทั่วประเทศ รวมถึงการหาพันธมิตรใหม่ๆ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านสื่อโฆษณากลางแจ้งระดับโลกเพื่อขยายธุรกิจสื่อและบริการไปในกลุ่มประเทศ ASEAN”

อนึ่ง ก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2556 ได้มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียน 188,123,068.10 บาท เป็น 281,143,335.70 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 930,202,676 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท โดยจัดสรรสำหรับการเสนอขายจำนวนไม่เกิน 700,202,676 หุ้น ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ในอัตราส่วน 2 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ราคาจองซื้อ 0.75 บาท ซึ่งจะนำเข้าเสนอต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมสามัญประจำปี 2556 ในเดือนเมษายนนี้

“วัตถุประสงค์ในการเพิ่มทุนดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและรองรับการลงทุนติดตั้งป้ายโฆษณาเพิ่ม 1120 ป้าย ตามสิทธิที่ได้จากกรุงเทพมหานคร อีกทั้งเพื่อขยายธุรกิจไปในเมืองสำคัญๆ ทั่วประเทศ และขยายพันธมิตรไปในประเทศต่างๆ ใน ASEAN ซึ่งมั่นใจว่าการเพิ่มทุนดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถือหุ้นอย่างแน่นอนและจะช่วยผลักดันให้ผลประกอบการของบริษัทฯในอนาคตเติบโตอย่างยั่งยืนและมั่นคง” นายอรัญ กล่าวในที่สุด

-กภ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net