เครื่องสำอางไทยตีตลาดญี่ปุ่น อาเซียน 10 เดือนแรกขยายตัวกว่า 6% ชี้แนวโน้มตลาดนิยมสมุนไพร-ธรรมชาติ เล็งเจาะตลาดฮาลาลกำลังซื้อสูง เผยเร่งลดปัญหาภาษีนำเข้า-ขึ้นทะเบียนเวชสำอาง

ข่าวประชาสัมพันธ์ »
นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยการส่งออกสินค้าเครื่องสำอาง สบู่และผลิตภัณฑ์รักษาผิวว่า ในช่วง 10 เดือนของปีนี้(มกราคม – ตุลาคม )ส่งออกเพิ่มขึ้น 6.6% หรือ มีมูลค่า 2,257 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยเป็นสินค้าสิ่งปรุงแต่งสำหรับใช้กับผม วัตถุดิบเพื่อใช้ทำเครื่องสำอาง สิ่งปรุงแต่งที่ใช้แต่งหน้า หรือบำรุงผิว สิ่งปรุงแต่งเพื่ออนามัยในช่องปากและฟัน สบู่ สิ่งปรุงแต่งที่ใช้โกนหนวด อาบน้ำและดับกลิ่นตัว และหัวน้ำหอมและน้ำหอม คาดว่าการส่งออกปีนี้จะเพิ่มขึ้น 15% หรือ คิดเป็นมูลค่า 2,880 ล้านเหรียญสหรัฐ ตลาดส่งออกสำคัญ 5 อันดับแรก ได้แก่ ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และกัมพูชา โดยญี่ปุ่นขยายตัวเพิ่มขึ้น 27% และอินโดนีเซียขยายตัวเพิ่มขึ้น 7% ทั้งนี้แนวโน้มของตลาดที่น่าสนใจ คือ ฮาลาล เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อมาก ดังนั้นผู้ประกอบการควรพัฒนาสินค้าให้ได้มาตรฐานฮาลาล เพื่อเจาะตลาดผู้บริโภคในประเทศอินโดนีเซีย มาเลเซีย บรูไนและนอกกลุ่มอาเซียน เช่น กลุ่มประเทศในตะวันออกกลาง นอกจากนี้ตลาดญี่ปุ่นมีความนิยมและให้ความสนใจผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากสมุนไพร/ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เช่น สบู่สมุนไพร ผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่ใช้กับเส้นผม เครื่องสำอางสมุนไพรใช้ดับกลิ่นตัว เป็นต้น ทำให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางสมุนไพรเป็นที่รู้จักทั่วโลกทั้งคุณภาพมาตรฐาน และมีแนวโน้มการส่งออกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง สำหรับตลาดใหม่ที่มีอัตราการขยายตัวสูง ได้แก่ ลิเบีย 313% เอธิโอเปีย 139% และนอร์เวย์ 119% โดยไทยมีจุดแข็งในเรื่องของ ราคาถูก (ค่าแรงที่ถูกกว่า) เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ความประณีตและการบริการที่มีความหลากหลายด้านวัตถุดิบในการผลิต มีสถาบันรองรับและมาตรฐานการผลิตที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก หากไทยสามารถลดปัญหาในด้านภาษีนำเข้าวัตถุดิบที่ใช้ผลิตสินค้าและต้นทุนการบรรจุภัณฑ์ของไทยที่สูงกว่าประเทศคู่แข่ง เช่น จีนและมาเลเซีย ปรับปรุงแบบและคุณภาพของบรรจุภัณฑ์ยังเสียเปรียบคู่แข่ง เช่น จีนและเกาหลีใต้ กฎระเบียบการขอขึ้นทะเบียนฉลากสรรพคุณเกี่ยวกับเวชสำอางยังไม่ชัดเจน รวมทั้งกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การขาดการวิจัยและการพัฒนาคุณภาพสินค้านำเข้าของจีนค่อนข้างเข้มงวดและกีดกัน จะทำให้การส่งออกเพิ่มสูงขึ้น นางศรีรัตน์ กล่าวถึงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า กรมฯจะสนับสนุนการค้นคว้า วิจัย และพัฒนาทางด้านการผลิตวัตถุดิบอย่างจริงจัง ช่วยเหลือผู้ประกอบการทำการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตให้ดีและมีประสิทธิภาพทัดเทียมต่างประเทศ การลดกำแพงภาษีนำเข้าวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์ในการผลิต เร่งแก้ไขกฎหมายและปรับปรุงประสิทธิภาพการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับประมาณคำขอ จัดสัมมนาเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ ขยายการส่งออกในตลาดหลักและตลาดที่มีศักยภาพ โดยเน้นการเข้าร่วมงานแสดงสินค้า เป็นต้น-กภ-

ข่าวกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ+การค้าระหว่างประเทศวันนี้

งาน เทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2025 เริ่มแล้ว! คาดผู้เข้าชมงานกว่า 11,000 คน หนุนเศรษฐกิจปลายปีคึกคัก

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ร่วมมือกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จังหวัดจันทบุรี สมาคมผู้ค้าอัญมณีและเครื่องประดับจันทบุรี และพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน ได้แก่ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดจันทบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เทศบาลเมืองจันทบุรี หอการค้าจังหวัดจันทบุรี สภาอุตสาหกรรมจังหวัดจันทบุรี การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จันทบุรี สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจันทบุรี เคพี จิวเวลรี่ เซ็นเตอร์ และสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน

สองนักแสดงชื่อดัง มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง แ... มาย-อาโป เตรียมร่วมงาน THAI SELECT FESTIVAL ที่อเมริกา — สองนักแสดงชื่อดัง มาย-ภาคภูมิ ร่มไทรทอง และ อาโป-ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ เตรียมร่วมงาน "THAI SELEC...

สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับ... GIT จัดงานเทศกาลนานาชาติพลอยและเครื่องประดับจันทบุรี 2025 — สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ร่วมกับ กรมส่งเสริมการค้าระหว...