KMC เดินเกมรุก ปรับโครงสร้างทุนครั้งใหญ่ เร่งขยายธุรกิจและฐานรายได้ให้เติบโตยิ่งกว่าเดิม พร้อมล้างขาดทุนสะสมเปิดทางจ่ายปันผล

27 Dec 2012

กรุงเทพฯ--27 ธ.ค.--IR network

บอร์ดกฤษดามหานคร” หรือ KMC เดินเกมรุกปรับโครงสร้างทุนครั้งมโหฬาร ประกาศเพิ่มทุนให้ทั้ง RO และ PP แถมแจก KMC-W3 ให้ผู้ถือหุ้นเดิมที่ใช้สิทธิ์ซื้อหุ้นเพิ่มทุน หวังเพิ่มความสามารถในการขยายโครงการ เพื่อสร้างรายได้และกำไรในอนาคต ด้วยการซื้อที่ดินเพื่อมาพัฒนาต่อ และเทคโอเวอร์โครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย พร้อมลดทุนโดยการลดพาร์เพื่อลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและล้างขาดทุนสะสม เปิดทางจ่ายเงินปันผลในอนาคต "วิรัตน์ เอี้ยวอักษร" ชี้หลังจากนี้ไปผู้ถือหุ้นจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของ KMC อย่างมีนัยสำคัญ มั่นใจแผนหารายได้ในระยะสั้น จะดันยอดขายปี 2556 กระฉูดทะลุ 3,000 ล้านบาท และมีโอกาสแจกปันผลได้ในทันทีหากผลการดำเนินงานมีกำไร

นายวิรัตน์ เอี้ยวอักษร กรรมการผู้จัดการ บริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างเงินทุน โดยการเปลี่ยนแปลงมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทจากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 20 บาท เนื่องจากเหตุผลของความจำเป็นที่บริษัทมีแผนระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ ทั้งเพื่อซื้อที่ดินมาเพื่อพัฒนาต่อ และซื้อโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย เพื่อให้บริษัทมีรายได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาวต่อไป บริษัทจึงพิจารณาเลือกวิธีระดมทุนโดยการเพิ่มทุน ซึ่งหากคำนวณจากเงินทุนที่บริษัทต้องการเทียบกับมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ของบริษัทในปัจจุบัน จะทำให้บริษัทต้องออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวนมาก ประกอบกับการที่บริษัทยังมีขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นค่อนข้างมาก หากบริษัทมีผลประกอบการกำไร จะทำให้บริษัทไม่สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ บริษัทฯ จึงขอเสนอปรับโครงสร้างทุน โดยให้เปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้นจากเดิมหุ้นละ 10 บาทเป็นหุ้นละ 20 บาท ก่อนดำเนินการลดทุนเพื่อตัดขาดทุนสะสมและส่วนต่ำมูลค่าหุ้นให้หมดไป

จากนั้นคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทอีกจำนวน 89,725.16 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 4,486.25 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท ซึ่งจะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 2,639.71 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท ให้กับผู้ถือหุ้นเดิม ตามสัดส่วน (Rights Issue) ในอัตรา 4 หุ้นเดิม ต่อ 5 หุ้นเพิ่มทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.50 บาท ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมที่มีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 7 มีนาคม 2556 โดยกำหนดวันจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนในระหว่างวันที่ 20-27 มีนาคม 2556 เพื่อให้บริษัทสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ของแผนปรับโครงสร้างหนี้ ตลอดจนเพิ่มความสามารถของบริษัทในการขยายโครงการเพื่อให้ก่อให้เกิดรายได้และกำไรในอนาคต

นอกจากนี้ จะจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 1,795.00 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทที่จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมและผู้ถือหุ้นเดิมที่จองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวข้างต้น (KMC-W3) ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลืออีกจำนวนไม่เกิน 51.54 ล้านหุ้น จะสำรองไว้สำหรับการปรับราคาการใช้สิทธิและอัตราการใช้สิทธิของ KMC-W2

จากนั้นที่ประชุมคณะกรรมการได้มีมติให้ลดทุนจดทะเบียน โดยการลดมูลค่าหุ้น จากมูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 20 บาท เป็นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.70 บาท เพื่อลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดขาดทุนสะสม เนื่องจากบริษัทยังคงมีผลขาดทุนสะสมอยู่ และก่อนที่จะล้างผลขาดทุนสะสมได้ จะต้องดำเนินการล้างส่วนต่ำมูลค่าหุ้นก่อน เพื่อลดขาดทุนสะสมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้บริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลให้ผู้ถือหุ้นได้ในทันที หากผลการดำเนินงานมีกำไร

และจากเหตุผลความจำเป็นที่ KMC มีแผนการระดมทุนเพื่อใช้ในการขยายธุรกิจ เพื่อทำให้บริษัทมีผลประกอบการที่ดีในระยะยาวต่อไป ที่ประชุมคณะกรรมการ จึงมีมติให้มีการเพิ่มทุนจดทะเบียน อีก 5,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.70 บาท ให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะเจาะจง และ/หรือ นักลงทุนประเภทสถาบัน (Private Placement) เพื่อนำเงินซื้อที่ดินเพื่อมาพัฒนาต่อ และซื้อโครงการที่สร้างเสร็จแล้วมาขาย เพื่อให้บริษัทมีรายได้ในระยะสั้น รวมทั้งเพื่อรองรับไว้สำหรับการขยายโครงการ และรองรับการลงทุนต่างๆ ของบริษัทที่จะก่อให้เกิดรายได้ต่อไปในอนาคต และหรือเพื่อไว้สำหรับกรณีที่มีนักลงทุนที่เป็นนักลงทุนลักษณะ Strategic Shareholder ที่จะมาร่วมลงทุนกับบริษัทในอนาคต

"หุ้นเพิ่มทุนในส่วนนี้ เราอาจจะขายให้กับเจ้าของที่ดิน หรือเจ้าของโครงการที่เราไปเทคโอเวอร์มาเพื่อพัฒนาโครงการ หรือเพื่อขายต่อ ซึ่งจะทำให้ KMC มีรายได้ระยะสั้นเข้ามารวดเร็วยิ่งขึ้น ซึ่งการปรับโครงสร้างทุนในครั้งนี้ คณะกรรมการมีความเชื่อมั่นว่าจะเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้ถือหุ้นทุกคน และทำให้ KMC มีเงินทุนที่แข็งแกร่ง พร้อมที่จะเดินหน้าพัฒนาโครงการเพื่อสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวต่อไป และที่สำคัญการลดทุนเพื่อล้างขาดทุนสะสม จะทำให้บริษัทฯ สามารถจ่ายเงินปันผลได้เร็วขึ้น หากผลการดำเนินงานเริ่มมีกำไร ซึ่งผมเชื่อว่ามีโอกาสได้เห็นแน่นอนในปี 2556 หลังจากที่บริษัทฯ เริ่มเดินแผนหารายได้ระยะสั้น โดยการ เทคโอเวอร์โครงการคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้วมาทำตลาดและขายต่อ ซึ่งได้มาร์จิ้นค่อนข้างดี และจะทำให้ยอดขายของบริษัทฯในปีหน้าก้าวกระโดดทะลุ 3,000 ล้านบาท พร้อมมีโอกาสจ่ายปันผลได้ทันที" นายวิรัตน์กล่าว

ทั้งนี้ KMC กำหนดเรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2556 เพื่อขออนุมัติการทำรายการดังกล่าว ในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อสิทธิเข้าร่วมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2556 ตั้งแต่วันที่ 11 มกราคม 2556 (Record date)

-นท-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit