“วรวิทย์” แถลงผลงาน 2 ปี นำ ธอส.เติบโตตามเป้าหมาย พร้อมวางรากฐานแน่น เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ครองตำแหน่งผู้นำสถาบันการเงินเพื่อที่อยู่อาศัย

06 Dec 2012

กรุงเทพฯ--6 ธ.ค.--ธอส.

วรวิทย์ฯ เผยผลงาน 2 ปี นำ ธอส.ประสบความสำเร็จ เติบโต ตามเป้าหมาย สร้าง ธอส.ให้เป็นองค์กรที่แข็งแกร่งด้วยสินทรัพย์รวมกว่า 7.38 แสนล้านบาท พร้อมสานต่อภารกิจหลักสร้างโอกาสให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเอง สามารถเป็นกลไกหลักของภาครัฐในการช่วยเหลือด้านที่อยู่อาศัยให้พี่น้องประชาชนโดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อย นอกจากนี้ยังปรับกลยุทธ์องค์กรใหม่สู่การแข่งขันเพื่อครองความเป็นอันดับหนึ่งด้านสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย เริ่มจากพัฒนาคุณภาพบุคลากรเพื่อรองรับการทำตลาดเชิงรุก พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่หลากหลายตอกย้ำแบรนด์สินเชื่อเพื่อบ้าน พร้อมสร้างแบรนด์ด้านเงินฝาก พัฒนาคุณภาพการให้บริการด้วยการเพิ่มช่องทางขยายสาขาครอบคลุมทุกจังหวัดทั่วประเทศ จัดทำรถ Mobile พัฒนา Internet Banking และ Mobile Banking ทางเลือกใหม่สำหรับให้บริการลูกค้า รวมถึงปรับปรุงกระบวนการทำงานให้รวดเร็ว และโปร่งใส พร้อมปรับแนวทางการทำ CSR โดยเน้นด้านที่อยู่อาศัยเป็นหลัก สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของธนาคาร เพื่อให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยถึงความรู้สึกที่ได้เข้ามาบริหาร ธอส.ว่ารู้สึกภาคภูมิใจที่สามารถสานต่อภารกิจหลักในการสร้างโอกาสให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง และเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมนำพาสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐแห่งนี้ให้เป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง และมั่นคง เห็นได้ชัดจาก ตัวเลขผลการดำเนินงานในรอบ 2 ปี (พ.ย.53 – ต.ค.55) เติบโตตามเป้าหมายด้วยสินทรัพย์รวมกว่า 7.38 แสน ล้านบาท โดย 2 ปีที่ผ่านมา สามารถปล่อยสินเชื่อใหม่สะสมได้ทั้งสิ้น 211,980 ล้านบาท คิดเป็น 296,797 บัญชี มีกำไรสุทธิสะสมทั้งสิ้น 15,476 ล้านบาท หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ไม่รวมหนี้ส่วนขาด ลดลงจาก 8.40 % เหลือ 6.54% ของยอดสินเชื่อรวม ขณะที่อัตราผลตอบแทนต่อสินทรัพย์ ( ROA) เท่ากับ 1.24% เพิ่มขึ้น 0.316% อัตราผลตอบแทนต่อทุน (ROE) เท่ากับ 19.94% เพิ่มขึ้น 2.33% และ BIS เท่ากับ 16.75% เพิ่มขึ้น 2.94%

“สำหรับผลการดำเนินงานรอบ 10 เดือน ของปี 2555 จากข้อมูล ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2555 ธนาคารสามารถปล่อย สินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 87,981 ล้านบาท จากเป้าสินเชื่อทั้งปี 104,400 ล้านบาท มีกำไรสุทธิจำนวน 7,477 ล้านบาท จากเป้า 7,200 ล้านบาท มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ไม่รวมหนี้ส่วนขาด จำนวน 44,780 ล้านบาท คิดเป็น 6.54% ของยอดสินเชื่อรวม และสามารถช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยได้ทั้งสิ้นกว่า 120,000 บัญชี วงเงินรวมกว่า 70,000 ล้านบาท” นายวรวิทย์ฯ กล่าว

นายวรวิทย์ฯ กล่าวเพิ่มเติมถึงแนวทางการบริหารองค์กรตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งในฐานะกรรมการผู้จัดการ ธอส.เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2553 เริ่มจากแนวคิดพัฒนาองค์กรสู่ความเป็นเลิศและยั่งยืน เน้นบทบาทการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐในการช่วยเหลือให้คนไทยโดยเฉพาะกลุ่มรายได้น้อยมีบ้านเป็นของตนเอง โดยได้ปรับกลยุทธ์องค์กรใหม่เน้นการทำตลาดเชิงรุก มุ่งลูกค้ารายย่อยเป็นหลัก พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงินทั้งสินเชื่อ – เงินฝาก ที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย สำหรับ 2 ปีที่ผ่านมา ธอส.ได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่หลากหลาย เริ่มจากสินเชื่อนโยบายรัฐ “ โครงการบ้านหลังแรก” นับเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างกระแสผู้นำสินเชื่อเพื่อบ้าน โครงการบ้าน ธอส.เพื่อสานฝัน โครงการบ้าน ธอส. – ธปท.เพื่อผู้ประสบภัย (Soft Loan) และ มาตรการช่วยเหลือลูกค้าประชาชนที่ประสบอุทกภัยด้วยมาตรการผ่อนปรนการชำระหนี้ ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการดำเนินงานของ ธอส.ในการเป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่พร้อมเป็นที่พึ่งให้กับพี่น้องประชาชน

สำหรับกลยุทธ์ด้านเงินฝากมุ่งขยายฐานเงินฝากลูกค้ารายย่อยเพิ่มขึ้น รองรับแผนปรับโครงสร้างทางการเงินเพื่อให้ได้แหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำสำหรับนำมาปล่อยสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำให้กับลูกค้ารายย่อย โดยได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ เงินฝากหลากหลายรูปแบบ อาทิ เงินฝากคุ้มครองสุขภาพ / เงินฝากซุปเปอร์ออมทรัพย์พิเศษ / เงินฝากประจำสะสมทรัพย์ / เงินฝากประจำขั้นบันได / เงินฝาก Campus Savings สำหรับนักศึกษา และเงินฝากครบรอบ 58 ปี และ 59 ปี ธอส. นับเป็นเงินฝากที่สร้างกระแสตอบรับได้เป็นอย่างดี สามารถสร้างแบรนด์เงินฝากโดดเด่นให้ ธอส. เป็นที่รับรู้ใน วงกว้างมากยิ่งขึ้น

กลยุทธ์ด้านการให้บริการ มุ่งพัฒนาช่องทางการให้บริการที่ครอบคลุมพื้นที่ทุกจังหวัด เพื่อความพึงพอใจสูงสุดของ ลูกค้า โดยขยายสาขาเพิ่มขึ้น จำนวน 42 สาขา ครอบคลุม 77 จังหวัดทั่วประเทศ จากเดิมปี 2553 ธอส.มีสาขาทั้งสิ้น 149 สาขา เพิ่มเป็น 191 สาขาในปี 2555 นอกจากนี้ยังได้จัดทำรถ Mobile ทางเลือกใหม่ให้ความสะดวกการบริการแก่ลูกค้า สร้างความร่วมมือการบริการ SFI – ATM Pool ร่วมกับธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ 3 แห่ง ได้แก่ ธอส. ธนาคารออมสิน และธนาคารอิสลาม รวมถึงกลยุทธ์ขยายฐานบัตร ATM โดยออกบัตร ATM โฉมใหม่ ธอส. 4 แบบ 4 สไตล์ พร้อมผนึกพันธมิตรสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบัตร ATM ซึ่งสามารถเพิ่มปริมาณผู้ถือบัตร ATM ธอส. ได้ถึง 37,000 ใบ เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในปี 2555

นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงกระบวนการทำงานภายในองค์กร อาทิ ปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ปรับปรุงกระบวนงานสินเชื่อ เงินฝาก NPL NPA และ Back Office รวมถึงแผนปรับปรุงพัฒนาด้านบุคลากรเพิ่มศักยภาพบุคลากรเพื่อรองรับยุทธศาสตร์องค์กร เป็นต้น

นายวรวิทย์ฯ กล่าวในตอนท้ายว่า ปัจจุบัน ธอส. เป็นองค์กรที่แข็งแกร่ง มั่นคง พร้อมเป็นสถาบันการเงินหลักที่ให้บริการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย สำหรับแผนพัฒนาองค์กรในปี 2556 สู่การเป็นสถาบันการเงินด้านที่อยู่อาศัยชั้นนำ ภายใต้วิสัยทัศน์ “ธนาคารมั่นคงทันสมัย และเป็นผู้นำสินเชื่อด้านที่อยู่อาศัยอย่างครบวงจร” โดยได้จัดทำแผนขยายสาขาเพิ่มขึ้นอีก 30 สาขา / ขยายรถ Mobile เพิ่มขึ้นอีก จำนวน 10 คัน / พัฒนา Internet Banking และ Mobile Banking / พัฒนาระบบ Core Banking System ใหม่ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน / พัฒนาระบบ ERP เพื่อพัฒนาระบบการจัดการด้าน Back Office ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“สำหรับอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการบริหารองค์กรในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ก็คือแนวนโยบายด้าน CSR เพื่อให้องค์กรเติบโตได้อย่างยั่งยืน ตั้งแต่ปี 2553 ธอส.ได้ปรับแนวทางการทำ CSR โดยมุ่งเน้นด้านที่อยู่อาศัยเป็นหลัก ภายใต้ แนวคิด “บ้านวิมานดิน ธอส. สร้างบ้าน สร้างชีวิตใหม่” เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินธุรกิจของธนาคาร สำหรับปี 2553 – 2555 ธอส.สามารถช่วยสร้าง และซ่อมแซมบ้านให้ผู้ด้อยโอกาสและผู้ประสบอุทกภัยไปแล้วไม่น้อยกว่า 1,000 หลัง สำหรับด้านสังคมและการศึกษา อาทิ โครงการ 84 พรรษา 84 ถังน้ำใจ ถวายในหลวง /โครงการยกระดับมาตรฐานการศึกษาเยาวชนไทย / โครงการ ธอส.ขออาสาช่วยชุมชน / โครงการประกวดออกแบบ “บ้านพอดี” / โครงการประกวดภาพยนตร์สั้น “บ้าน คือลมหายใจของชีวิต” และโครงการเสริมสร้างวินัยการเงินและการออม เป็นต้น ส่วนด้านกีฬา ธอส.สนับสนุนสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 – 2555 และได้ต่ออายุสัญญาอีก 4 ปี (ปี 2556 – 2559) ซึ่งจะครอบคลุมถึงกีฬาโอลิมปิค ในปี 2559 ที่ประเทศบราซิล การจัดสร้างลานกีฟุตซอล ให้แก่ชุมชนต่างๆ 7 แห่ง และสนับสนุนกีฬาสเปเชียลโอลิมปิค ทั้งหมดนี้ก็เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัย และเสริมสร้างการเติบโตอย่างยั่งยื่น” นายวรวิทย์ฯ กล่าว-กภ-