กรมศุลกากร..ผ่อนคลายเงื่อนไขหนุนพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสู่สากล

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--28 ม.ค.--กรมศุลกากร

นายวิรัตน์ ชนะสิทธิ ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย แสดงความขอบคุณต่ออธิบดีกรมศุลกากร คุณเบญจา หลุยเจริญ ที่ได้ออกประกาศกรมศุลกากร ที่ 149/2555 ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2555 เรื่อง “หลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการยกเว้นอากรสำหรับของตามภาค 4 ประเภทที่ 7 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.2530” โดยในข้อ 2 (5) ของประกาศฯ กรมศุลกากรได้ผ่อนคลายหลักเกณฑ์และเงื่อนไข ให้ผู้ประกอบกิจการอู่เรือ หรือผู้ที่ประกอบกิจการอู่เรือสั่งให้นำเข้า สามารถขอยกเว้นอากรนำเข้าสำหรับส่วนประกอบ อุปกรณ์ประกอบ และวัสดุที่นำเข้ามาเพื่อใช้ซ่อมหรือสร้างเรือได้ โดยไม่ต้องจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนตามกฎหมายศุลกากร และไม่มีการจำกัดขนาดเรือ ซึ่งการผ่อนคลายดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการอู่เรือขนาดเล็ก หรือ SME ในการแข่งกับเรือจากต่างประเทศ เดิมอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลให้มีความสามารถในการแข่งขันกับนานาประเทศ โดยได้รับสิทธิประโยชน์ในการนำเข้าส่วนประกอบอุปกรณ์ และวัสดุสำหรับซ่อมหรือสร้างเรือหรือส่วนของเรือขนาด 15 ตันกรอส ขึ้นไป จากต่างประเทศ โดยได้รับการยกเว้นอากรนำเข้าผ่านคลังสินค้าทัณฑ์บน สำหรับอู่ซ่อมหรือสร้างเรือ แต่ยังมีปัญหาและอุปสรรคบางประการ ทำให้สิทธิประโยชน์ครอบคลุมไม่ทั่วถึง เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือ ได้แก่ 1. ผู้ประกอบการอู่เรือขนาดเล็กที่เป็น SMEs ไม่สามารถจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนได้เนื่องจากต้องใช้เงินลงทุนสูง และเป็นภาระต่อการดำเนินงาน 2. การปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ และระเบียบขั้นตอนต่างๆ ของคลังสินค้าทัณฑ์บนไม่เอื้อต่องานซ่อมเรือซึ่งเป็นงานเร่งด่วนมีระยะเวลาดำเนินการสั้น 3. ข้อกำหนดที่ไม่ส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันกับต่างประเทศ เช่น การต่อเรือ Yacht ที่มีขนาด ต่ำกว่า 15 ตันกรอส ไม่สามารถใช้สิทธิประโยชน์ผ่านคลังฯได้ แต่การนำเข้าเรือสำเร็จรูปไม่ว่าขนาดใดได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ได้รับการยกเว้นทั้งภาษี ศุลกากร และภาษีสรรพสามิต ทำให้ผู้ประกอบการขนาดเล็กเสียเปรียบ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2552 สมาคมต่อเรือและซ่อมเรือไทยได้มีหนังสือขอให้กรมศุลกากร พิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์ และเงื่อนไขในการยกเว้นอากรสำหรับส่วนประกอบ อุปกรณ์ประกอบ และวัสดุที่นำเข้ามาเพื่อใช้ซ่อม หรือสร้างเรือ หรือส่วนของเรือ ตามภาค 4 ประเภทที่ 7 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530 ตามประกาศกรมศุลกากรที่ 89/2549 ลงวันที่ 27 กันยายน 2549 เพื่อเป็นการช่วยผลักดันอุตสาหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือไทยให้สามารถแข่งขันกับตลาดต่างประเทศได้ กรมศุลกากรร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ อาทิ กรมเจ้าท่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสมาคมต่อเรือไทย ร่วมประชุมหารือศึกษารายละเอียด ปัญหา อุปสรรค รวมทั้งได้พิจารณานำเสนอปัญหาและอุปสรรคต่างๆ และในที่สุดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เห็นชอบให้อธิบดีกรมศุลกากรออกประกาศฉบับดังกล่าวกลุ่มอุตสหกรรมต่อเรือและซ่อมเรือสภาอุตสาหกรรมฯ จึงขอขอบคุณต่อกรมศุลกากรและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเป็นอย่างยิ่ง-นท-

ข่าวสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย+สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศวันนี้

กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี สอท. พร้อมดึงเทคโนโลยีเม็ดพลาสติกรีไซเคิล สนับสนุนอุตสาหกรรมไทยสู่ S-Curve หนุนทุกภาคส่วนนำพลาสติกใช้แล้วกลับมาเป็นวัตถุดิบครบวงจร

"กลุ่มอุตสาหกรรมปิโตรเคมี" สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ร่วมประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนปฏิบัติการพัฒนาระบบส่งคืนขยะพลาสติกสู่การรีไซเคิลที่ได้มาตรฐานและครบวงจร มุ่งสู่การเป็นวัตถุดิบยุคใหม่ สนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย S-curve ด้วยกลไกเศรษฐกิจหมุนเวียน ตามโรดแมปการจัดการขยะพลาสติกประเทศไทย ปี 2561-2573 พร้อมดึงทุกภาคส่วน รัฐ เอกชน ชุมชน ประชาชน พัฒนาวงจรใช้พลาสติกอย่างเข้าใจ ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการเก็บกลับวัสดุใช้แล้ว แก้ปัญหามลพิษพลาสติก เพื่อเปลี่ยนประเทศไทยให้ยั่งยืน นายอภิชัย

บริษัท เบเยอร์ จำกัด นำโดย ดร.วรวัฒน์ ชัย... เบเยอร์คว้ารางวัล Climate Action Award ตอกย้ำผู้นำสีรักษ์โลกอันดับหนึ่ง มุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero — บริษัท เบเยอร์ จำกัด นำโดย ดร.วรวัฒน์ ชัยยศบูรณะ ประธาน...

กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหก... ส.อ.ท. ผนึกภาครัฐ-เอกชน-นักวิจัย จัด BIOTEC FTI Forum ดันเทคโนโลยีชีวภาพสร้างอนาคตเศรษฐกิจไทย — กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ...

บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO... "SMO" ห่วงใยสุขภาพพนักงานและชุมชน จัดโครงการตรวจสุขภาพประจำปี — บริษัท กลุ่มสมอทอง จำกัด (มหาชน) หรือ SMO จัดโครงการตรวจสุขภาพประจำปี ให้แก่พนักงานและประช...