ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร "บ. เอสโซ่ (ประเทศไทย)" ที่ "A+/Stable"

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--8 ม.ค.--ทริสเรทติ้ง

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ “A+” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงผลงานของบริษัทซึ่งเป็นที่ยอมรับในธุรกิจปิโตรเลียมในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ตลอดจนโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานผลิตอะโรเมติกส์ที่มีประสิทธิภาพและครบวงจร ธุรกิจค้าปลีกน้ำมันและเครือข่ายการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง และการสนับสนุนที่เข้มแข็งจาก Exxon Mobil Corporation (ExxonMobil) และบริษัทในเครือ ทั้งนี้ ในการพิจารณาอันดับเครดิตยังคำนึงถึงความผันผวนในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและปิโตรเคมี ตลอดจนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกด้วย ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะที่แข็งแกร่งทั้งในส่วนของผลประกอบการและการตลาดในธุรกิจปิโตรเลียมในประเทศไทยเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ยังคาดว่าบริษัทจะดำรงสภาพคล่องให้เพียงพอและยังคงได้รับการสนับสนุนจาก ExxonMobil ต่อไปเพื่อที่จะสามารถรองรับความผันผวนของธุรกิจปิโตรเลียมและปิโตรเคมีได้ บริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) เป็นบริษัทในเครือ ExxonMobil บริษัทบริหารจัดการโรงกลั่นน้ำมันจำนวน 1 โรงจากทั้งหมด 29 โรงที่มีอยู่ทั่วโลกของ ExxonMobil ปัจจุบันผู้ถือหุ้นของบริษัทประกอบด้วย ExxonMobil ในสัดส่วน 66% กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 ในสัดส่วน 7.3% และนักลงทุนทั่วไป 26.7% บริษัทประกอบกิจการโรงกลั่นน้ำมันแบบคอมเพล็กซ์ (Complex Refinery) ด้วยกำลังการผลิตสูงสุดที่ 174,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 16% ของการผลิตน้ำมันสำเร็จรูปของไทย บริษัทจำหน่ายน้ำมันสำเร็จรูปที่ผลิตได้ให้แก่กลุ่มลูกค้าพาณิชย์และจำหน่ายผ่านสถานีบริการในเครือข่าย ณ สิ้นเดือนกันยายน 2555 มีสถานีบริการน้ำมันที่บริหารงานภายใต้เครื่องหมายการค้า “เอสโซ่” จำนวน 517 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทยังดำเนินการผลิตและจำหน่ายสารอะโรเมติกส์ด้วย โดยบริษัทมีกำลังการผลิตสารพาราไซลีน (Paraxylene – PX) ทั้งสิ้น 500,000 ตันต่อปี ซึ่งโรงงาน PX ดังกล่าวเชื่อมต่อกับโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทเพื่อรับวัตถุดิบสำหรับการผลิต การดำเนินธุรกิจที่ครบวงจรทั้งโรงกลั่นน้ำมันและโรงงานอะโรเมติกส์ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการเลือกผลิตผลิตภัณฑ์ที่ให้ผลตอบแทนที่ดีระหว่างผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมี และด้วยเทคโนโลยีและการดำเนินงานตามปรัชญาของ ExxonMobil จึงส่งผลให้โรงกลั่นของบริษัทได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในโรงกลั่นที่มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานและมีหน่วยผลิตที่มีความพร้อมสูงสุดในภูมิภาคเอเซียแปซิฟิก นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับประโยชน์จากขีดความสามารถระดับโลกของ ExxonMobil ในการจัดหาน้ำมันดิบและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของบริษัทด้วย ในปี 2554 ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของบริษัทประกอบด้วยน้ำมันดีเซล 34.2% น้ำมันเบนซิน 19.1% รีฟอร์เมต (Reformate) 12.6% น้ำมันเตา 9.9% น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน 8.9% และอื่น ๆ 15.3% ในส่วนของธุรกิจค้าปลีกน้ำมันนั้น บริษัทเป็นผู้จำหน่ายน้ำมันผ่านสถานีบริการรายใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก ปตท. โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่จัดจำหน่ายผ่านสถานีบริการประมาณ 15%-18% ด้วยยอดขายจำนวน 2,500-3,000 ล้านลิตรต่อปีในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 โรงกลั่นน้ำมันของบริษัทมีอัตราการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ยที่ 80.0% เพิ่มขึ้นจากระดับ 69.8% ในช่วงเดียวกันของปี 2554 อัตราการใช้กำลังการผลิตปรับเพิ่มขึ้นหลังจากบริษัทหยุดโรงกลั่นเพื่อซ่อมบำรุงและต่อเชื่อมกับระบบของโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน (EURO IV Project) ในช่วงเดือนกันยายนถึงเดือนพฤศจิกายน 2554 แม้ว่ากำลังการผลิตโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทจะเพิ่มขึ้น แต่การผลิต PX ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 กลับลดลง 5.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเหลือเพียง 267,000 ตัน ทั้งนี้ เนื่องจากอัตรากำไรของ PX อยู่ในระดับที่ไม่ดีนัก ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทมียอดขายรวมเพิ่มขึ้น 12.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2554 เป็น 184,307 ล้านบาทเนื่องจากผลของราคาน้ำมันและปริมาณการจำหน่ายน้ำมันที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยยอดขาย 89.9% มาจากธุรกิจการกลั่นและจัดจำหน่ายน้ำมัน ส่วนอีก 10.1% มาจากธุรกิจปิโตรเคมี อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรของบริษัทลดลงในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ทั้งนี้ ค่าการกลั่นของบริษัทลดลงจาก 5.3 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 เหลือ 3.4 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ซึ่งสะท้อนถึงราคาน้ำมันที่ผันผวนเป็นอย่างมากในช่วงดังกล่าว ธุรกิจปิโตรเคมียังได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกอีกด้วย โดยผลิตภัณฑ์โพลีเอสเตอร์หลายชนิดมีราคาลดลง ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์โพลีเอสเตอร์ใช้ PX เป็นวัตถุดิบขั้นปฐมภูมิ บริษัทจึงมีผลขาดทุนสุทธิจำนวน 19 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 โดยส่วนหนึ่งเกิดจากการขาดทุนจากสินค้าคงเหลือที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2555 ฐานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงเล็กน้อยในช่วงปี 2554-2555 โดย ณ เดือนกันยายน 2555 บริษัทมีเงินกู้รวม 33,816 ล้านบาท และมีอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนที่ 58.0% ทั้งนี้ คาดว่าอัตราส่วนดังกล่าวจะดีขึ้นเนื่องจากบริษัทไม่มีแผนการลงทุนขนาดใหญ่หลังจากโครงการปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง (Euro IV Project) ดำเนินการแล้วเสร็จ นอกจากนี้ บริษัทยังมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่งจากการมีวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนจำนวน 54,000 ล้านบาทจากกลุ่มบริษัท ExxonMobil ซึ่งจะช่วยรองรับความผันผวนของราคาสินค้าทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและปิโตรเคมีให้แก่บริษัทได้ บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) อันดับเครดิตองค์กร: A+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Stable -กภ-

ข่าวบริษัทในเครือ+ธุรกิจค้าปลีกวันนี้

กลุ่มเซ็นทรัล และบริษัทในเครือ คัดสรรสินค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อผู้บริโภคและโลกที่ยั่งยืน

คุณเคยสงสัยไหมว่า สินค้าที่คุณใช้ทุกวันมาจากที่ไหน และส่งผลกระทบต่อโลกและชุมชนรอบตัวเราอย่างไร? กลุ่มเซ็นทรัลให้ความสำคัญกับคำถามนี้อย่างจริงจัง เราจึงมุ่งมั่นขับเคลื่อนธุรกิจค้าปลีกด้วยแนวทาง Responsible Sourcing หรือการจัดหาอย่างมีความรับผิดชอบ ที่ไม่เพียงแค่คัดสรรสินค้าคุณภาพ แต่ยังใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ตลอดระยะเวลากว่า 78 ปีของการดำเนินธุรกิจ เพื่อมุ่งรักษาสมดุลของการเติบโตทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน พิชัย จิราธิวัฒน์ กรรมการบริหาร กลุ่มเซ็นทรัล

เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางสาวสมปรารถนา เจิมศิริว... คาลเท็กซ์ ร่วมกับบริษัทในเครือ อโรม่า กรุ๊ป รุกขยายแบรนด์ "กาแฟชาวดอย" ในปั๊มคาลเท็กซ์ — เมื่อเร็ว ๆ นี้ นางสาวสมปรารถนา เจิมศิริวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จั...

เมื่อเร็ว ๆ นี้ คาลเท็กซ์ โดย บริษัท สตาร... คาลเท็กซ์ มอบน้ำดื่มช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยภาคเหนือ — เมื่อเร็ว ๆ นี้ คาลเท็กซ์ โดย บริษัท สตาร์ ฟูเอลส์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของบริษั...

"บมจ. คอมเซเว่น (COM7)" เดินหน้าปักหมุดเม... COM7 เดินหน้าเต็มสปีด "EV7" ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง — "บมจ. คอมเซเว่น (COM7)" เดินหน้าปักหมุดเมกะเทรนด์ EV ส่งบริษัทในเคร...

นายสุรพิทย์ กีรติบุตร ประธานกรรมการบริษัท... SNPS จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวอนุมัติจ่ายปันผล 0.13 บาทต่อหุ้น — นายสุรพิทย์ กีรติบุตร ประธานกรรมการบริษัท รศ.ดร.พรรณวิภา กฤษ...