“แม็ค กรุ๊ป” แบรนด์ไทยยอดขายยีนส์อันดับหนึ่ง พร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--25 มิ.ย.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น

บมจ.แม็คกรุ๊ป หรือ MC ผู้นำธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกายและสินค้าไลฟ์สไตล์ภายใต้แบรนด์ดัง “แม็ค” ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจยีนส์เป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย จากประสบการณ์ยาวนานกว่า 38 ปี และมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา มีรายได้เติบโตเฉลี่ยปีละ 40% และสามารถรักษาอัตรากำไรสุทธิในระดับ 23-27% มั่นใจพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง ประกอบกับการขยายสาขา 537 สาขา ครอบคลุม 73 จังหวัดทั่วประเทศ (ข้อมูลสิ้นสุด 31 มีนาคม 2556) บริษัทฯ เดินหน้าเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) โดยมีบล.ธนชาต และบล. กสิกรไทย เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายร่วม พร้อมด้วย บล. ทิสโก้ และบล. ซีไอเอ็มบี ในฐานะผู้ร่วมจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย โดยเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักลงทุนจองซื้อหุ้นได้ที่ราคา 15.00 บาท ระหว่างวันที่ 26 – 28 มิถุนายน 2556 และคาดว่าจะสามารถเข้าทำการซื้อขายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2556 ในกลุ่มพาณิชย์ นางสาวสุวภา เจริญยิ่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นไอพีโอของแม็คกรุ๊ปนั้น เดิมได้กำหนดช่วงราคาการสำรวจความต้องการของนักลงทุนสถาบัน (บุ้คบิ้ว) ที่ 15-18 บาท แต่เราตัดสินใจร่วมกับบริษัทฯที่จะกำหนดราคาบุ้คบิ้วจากนักลงทุนสถาบันที่ราคาเดียวคือ ราคาขายที่ 15.00 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม คิดเป็น P/E ของบริษัทฯ ที่ค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับ P/E กลุ่มที่ค่อนข้างสูง โดยมีอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยสุทธิของบริษัท (P/E เฉลี่ย) ที่ 13 เท่า หรือคิดเป็นอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นปรับลดสุทธิของบริษัท (P/E Fully diluted) ที่ 15 เท่า ในขณะที่ P/E กลุ่มอยู่ที่ 30-33 เท่า ทั้งนี้ ถือได้ว่าบริษัทฯ ได้รับผลตอบรับที่ดีจากการบุ้คบิ้ว โดยมียอดจองจากนักลงทุนสถาบันมากกว่า 2.5 เท่า จากสภาวะตลาดที่ค่อนข้างผันผวนอยู่ในขณะนี้ ถือว่ายอดจองดังกล่าวอยู่ในเกณฑ์ดี เนื่องจากบริษัทฯ มีฐานลูกค้าอยู่ทั่วประเทศ และมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ฐานะทางการเงินที่ดี อีกทั้งแนวโน้มในการเติบโตต่อไปในอนาคตที่จะขยายสาขาให้ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงการขยายตัวไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ประกอบกับการเปิดตัวสินค้าต่างๆ ภายใต้กลุ่มแม็คกรุ๊ป ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง” นางสาวสุวภา กล่าวต่อว่า ในส่วนของผู้ถือหุ้นเดิมของ MC เองมีความตั้งใจและเต็มใจโดยประกาศไม่ขายหุ้นทั้ง 100% โดยติดล็อคอัพ (Lock up) เป็นระยะเวลา 6 เดือนหลังจากวันที่หุ้น MC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ คาดว่าจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ประกอบกับหุ้น MC เป็นหุ้นพื้นฐานดี น่าลงทุน เหมาะสำหรับลงทุนระยะปานกลาง – ยาว จึงอาจถือได้ว่าเป็นหุ้นไอพีโอน้องใหม่อีกตัวหนึ่งที่น่าจับตามมอง อนึ่ง บริษัทฯ เสนอขายหุ้นไอพีโอจำนวน 200,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น 25 % ของจำนวนหุ้นที่เรียกชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายในครั้งนี้ และจะจัดสรรให้กับนักลงทุนทั่วไป 45 % และนักลงทุนสถาบัน 55 % มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น นางสาวสุณี เสรีภาณุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MC หนึ่งในผู้นำธุรกิจค้าปลีกเครื่องแต่งกายและสินค้าไลฟ์สไตล์โดยมีสินค้าหลักคือ “แม็คยีนส์” เปิดเผยว่า สำหรับราคาขายหุ้นไอพีโอที่ราคา 15.00 บาทนั้น ถือว่าเป็นราคาที่เหมาะสม เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ และการเติบโตที่ต่อเนื่อง ซึ่งการกระจายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีทั้งจากนักลงทุนทั่วไปและนักลงทุนสถาบัน อย่างไรก็ดี คาดว่าเม็ดเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นไอพีโอนั้น บริษัทฯ จะนำเงินไปใช้ในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายประมาณ 500 ล้านบาท ใช้เพื่อพัฒนาคุณภาพของผลิตภัณฑ์ประมาณ 200 ล้านบาท ใช้ในการจัดทำคลังสินค้าประมาณ 100 ล้านบาท ใช้สำหรับการพัฒนาระบบไอทีเพื่อให้การจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกประมาณ 385 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งจะนำไปใช้ในการชำระคืนหนี้ประมาณ 750 ล้านบาท ที่เหลือคาดว่าจะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้เพื่อการลงทุนต่อไปในอนาคต ปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 400 ล้านบาท และทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 300 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญ 600 ล้านหุ้น และหลังการเสนอขายหุ้นไอพีโอทำให้บริษัทฯ มีทุนชำระแล้ว 400 ล้านบาท หรือ 800 ล้านหุ้น และบริษัทฯ มีนโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิ -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวตลาดหลักทรัพย์ฯ+ตลาดหลักทรัพย์วันนี้

ธนาคารไทยเครดิต คว้า SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ระดับ "A" ตอกย้ำถึงการเป็น "ธนาคารเพื่อความยั่งยืน"

ธนาคารไทยเครดิต จำกัด (มหาชน) หรือ CREDIT ประกาศความสำเร็จครั้งสำคัญในการได้รับการจัดอันดับ SET ESG Ratings ประจำปี 2568 ที่ระดับ "A" จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย นับเป็นการติดอันดับ "หุ้นยั่งยืน" ครั้งแรกของธนาคาร ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ (IPO) เมื่อปีที่ผ่านมา สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และหลักธรรมาภิบาล (ESG) ความโปร่งใส และการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว นายรอยย์ ออกุสตินัส กุนารา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยเครดิต

'กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค' ตอกย้... "KJL" ก้าวสู่มาตรฐานความยั่งยืนระดับสูงสุด คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับ AAA จากตลาดหลักทรัพย์ฯ — 'กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค' ตอกย้ำความเป็นผู้น...

ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ปักหมุดบริ... TWPC เข้าร่วมโครงการ Jump+ ของตลาดหลักทรัพย์ฯ เสริมศักยภาพองค์กร ยกระดับธรรมาภิบาล - ESG — ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ปักหมุดบริษัทชั้นนำเอเชียแปซิฟิก...

นางสาวปณิตา ควรสถาพร (ขวา) รองกรรมการผู้จ... AGE โชว์รายได้-กำไร Q3 ยังแข็งแกร่ง เดินหน้ารองรับความต้องการรถ EV — นางสาวปณิตา ควรสถาพร (ขวา) รองกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วย นายลิขิต เลาบวรเศรษฐี (ซ้าย)...

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ... บางจากฯ แจ้งสิ้นสุดการซื้อขายหุ้น BSRC เตรียมเพิกถอนหุ้นจากตลาดหลักทรัพย์ฯ 12 ธันวาคมนี้ — บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศแจ้งต่อผู้ถือหุ้...

ก.ล.ต. ผนึกกำลัง ตลาดหลักทรัพย์ฯ และ OECD จัดงาน "OECD-Asia Roundtable on Corporate Governance 2025" ยกระดับบรรษัทภิบาลและการพัฒนาตลาดทุนไทย

ก.ล.ต. ร่วมกับตลาดหลักทรัพย์ฯ และ OECD จัดงานประชุม OECD-Asia Roundtable on Corporate Governance 2025 โดยเวทีเสวนาจะมีเนื้อหาครอบคลุมเกี่ยวกับการกำกับดู...