กกพ.เดินหน้าศึกษาแนวทางกำกับกิจการพลังงานที่ดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--14 มิ.ย.--กกพ.

ดร.พัลลภา เรืองรอง กรรมการกำกับกิจการพลังงาน เปิดเผยหลังจากการเดินทางไปศึกษาดูงานพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับหน่วยงานด้านพลังงาน ณ ประเทศนอร์เวย์ ว่า การวางแผนจัดการพลังงานที่ดีนำมาสู่ความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศนอร์เวย์ ถึงแม้ว่านอร์เวย์จะเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันเป็นอันดับ 8 ของโลก และส่งออกก๊าซธรรมชาติเป็นอันดับ 2 ของโลกก็ตาม แต่กลับใช้พลังงานน้ำเป็นกำลังหลักในการผลิตไฟฟ้ามากถึงร้อยละ 95 และแม้ว่า “น้ำ” จะจัดเป็นพลังงานหมุนเวียนต้นทุนถูก แต่ก็มีจุดอ่อนในเรื่องปริมาณน้ำตามฤดูกาลที่ไม่แน่นอนในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งนอร์เวย์ก็มีการแก้จุดอ่อนในข้อนี้โดยเสริมหนทางในการผลิตไฟฟ้าด้วยก๊าซธรรมชาติอีก 4% และจากพลังงานลมอีก 1% ซึ่งสิ่งนี้เป็นจุดแรกที่สะท้อนให้เห็นถึงมุมมองเรื่องการจัดการพลังงานของนอร์เวย์ได้เป็นอย่างดี โดยมุ่งเน้นการใช้พลังงานหมุนเวียนแทนพลังงานฟอสซิลที่อาจจะหมดไปได้ในอนาคต และปรับการใช้พลังงานฟอสซิลเป็นสินค้าสร้างรายได้ให้กับประเทศแทน แต่สำหรับประเทศไทยยังเป็นประเทศที่มีทรัพยากรด้านพลังงานไม่เพียงพอต่อความต้องการ ซึ่งยังต้องนำเข้าพลังงานจากต่างประเทศ และยังคงมีการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้ากว่า 70% จึงนับเป็นความเสียงด้านวิกฤตพลังงาน ตัวอย่างเช่น เหตุการณ์หยุดซ่อมบำรุงท่อส่งก๊าซยาดานาในประเทศพม่า ซึ่งเกือบจะทำให้เกิดปัญหาวิกฤตไฟฟ้าในช่วงกลางเดือนเมษายน 2556 ที่ผ่านมาเป็นต้น ดังนั้น การกระจายแหล่งพลังงานให้มีความสมดุล โดยไม่พึ่งพาเชื้อเพลิงชนิดใดชนิดหนึ่งมากจนเกินไปตลอดจนมีการซื้อขายแลกเปลี่ยนและเชื่อมโยงระบบโครงข่ายพลังงานกับประเทศเพื่อนบ้านที่จะยังช่วยเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของของประเทศมากยิ่งขึ้น “นอกจากนั้น ปัจจุบันก๊าซธรรมชาติจากพม่าก็ไม่เพียงพอในการผลิตไฟฟ้า จำเป็นต้องซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) จากต่างประเทศซึ่งมีราคาแพงมาก ส่งผลให้ค่าเอฟทีมีราคาสูงตามราคาเชื้อเพลิง ดังนั้น เพื่อสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพทางด้านราคาไฟฟ้า ในอนาคต กกพ.จึงอยากเห็นประเทศไทยมีการกระจายแหล่งพลังงานไปใช้เชื้อเพลิงประเภทอื่นๆด้วย อาทิ ถ่านหินสะอาด เป็นต้น” ดร.พัลลภากล่าว-กภ-

ข่าวพลังงานหมุนเวียน+พัลลภา เรืองรองวันนี้

ระบบกักเก็บพลังงาน (ระบบ BESS) ธุรกิจพลังงานสำรองที่กำลังมาแรง ในยุคพลังงานหมุนเวียนเฟื่องฟู

ตามร่างแผน PDP 2024 ภาครัฐมีแผนที่จะจัดสรรโควต้ากำลังการผลิตไฟฟ้าที่จะเกิดใหม่ให้กับระบบกักเก็บพลังงาน (ระบบ BESS) ทั้งหมด 10,485 เมกะวัตต์ เพื่อรักษาความต่อเนื่อง ในการจ่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน และเพิ่มความมั่นคงของระบบผลิตและจ่ายไฟฟ้า และ โดยคาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในช่วงปี 2575-78 ในการพัฒนาระบบ BESS รูปแบบที่ภาครัฐลงทุนระบบ BESS ด้วยตนเอง ประเมินว่าเป็นหนึ่งในรูปแบบที่เหมาะสม เมื่อพิจารณาในแง่วัตถุประสงค์ในการจัดสรรโควต้ากำลังการผลิตไฟฟ้าให้ระบบ BESS ในร่างของแผน

SKYWORTH กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโ... SKYWORTH PV จับมือ Solve System ลงนาม MOU พัฒนาโครงการโซลาร์ 120MW และโซลาร์โฮม 30MW ในไทย — SKYWORTH กลุ่มบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกที่มีประสบการณ์กว่...

นาย สันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที... JPARK จับมือ CHOW เดินหน้าติดตั้งโซลาร์เซลล์บนอาคารจอดรถ มุ่งสู่การบริหารจัดการพลังงานสะอาด — นาย สันติพล เจนวัฒนไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายสุดวิณ ...

นางสาวปรียาพร ธนรัฐเศรษฐ์ Chief Marketing... UAC รับโล่ "ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5" — นางสาวปรียาพร ธนรัฐเศรษฐ์ Chief Marketing Officer ผู้แทน บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC เข้ารับมอบโล่...

เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊... CPF ส่งผลิตภัณฑ์กลุ่มไข่ไก่สด ไข่ต้ม ไข่สมุนไพร และอาหารพร้อมทาน รับฉลากสิ่งแวดล้อม — เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ต...