คปก.เล็งออกกม.กลางด้านสวัสดิการสังคม มธ.เผยผลวิจัย ปฏิรูปกม.สวัสดิการฯ เสนอทบทวนกม.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมฯ ยกเลิกกม.จัดหางานให้คนไร้อาชีพ

13 Jun 2013

กรุงเทพฯ--13 มิ.ย.--สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย

คณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงและพัฒนากฎหมายด้านสวัสดิการสังคมในคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย(คปก.)จัดการประชุมคณะกรรมการฯ ครั้งที่ 12/2556 ณ ห้องประชุมสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย โดยได้เชิญ รศ.ศักดิ์ชัย เลิศพานิชพันธุ์ อาจารย์ประจำคณะสังคมสงเคราะห์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ นำเสนอผลการวิจัย เรื่อง การปฏิรูปกฎหมายสวัสดิการสังคมต่อคณะกรรมการฯ โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิต่างๆ ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมการฯ

นางสุนี ไชยรส รองประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย และประธานกรรมการพิจารณาปรับปรุงและพัฒนากฎหมายด้านสวัสดิการสังคม เปิดเผยว่า คปก.วางแนวทางการดำเนินงานปรับปรุงและพัฒนากฎหมายด้านสวัสดิการสังคม 2 ส่วนสำคัญ ภายใต้ข้อจำกัดด้านระยะเวลาที่ คปก.ชุดปัจจุบันมีวาระการดำรงตำแหน่งเหลืออีก 2 ปี คือ 1. การสร้างแนวคิดสวัสดิการสังคมที่ชัดเจน 2.พัฒนากฎหมายกลางว่าด้วยสวัสดิการสังคม เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ โดยเน้นการรณรงค์ทางสังคมเป็นหลัก

รศ.ศักดิ์ชัย กล่าวนำเสนอผลการศึกษาวิจัยเรื่อง การปฏิรูปกฎหมายสวัสดิการสังคมว่า กฎหมายสวัสดิการสังคมของประเทศไทยมีความกว้างขวางและหลากหลายจำนวนประมาณ 70 ฉบับ ผลการศึกษาพบว่า ในภาพรวมกฎหมายเก่า มีข้อสังเกต 3 ประการคือ 1. กฎหมายมีผลบังคับใช้อยู่แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้ใช้ และสมควรยกเลิก เช่น พ.ร.บ.จัดหางานให้คนไร้อาชีพ พ.ศ.2484 พ.ร.บ.อบรมและฝึกอาชีพบุคคลบางประเภท พ.ศ. 2518 2.กฎหมายบางฉบับควรนำมาพิจารณาศึกษาใหม่ โดยปรับปรุงใหม่ให้ทันสมัย ได้แก่ พ.ร.บ.สงเคราะห์บุคคลผู้ที่ได้รับการพักการลงโทษ ผู้พ้นโทษ และเด็กผู้พ้นการฝึกอบรม พ.ศ. 2497 และ3.กฎหมายที่ควรทบทวน แก้ไขปรับปรุงหรือบัญญัติใหม่ ที่สำคัญ อย่างกรณีกลุ่มกฎหมายหลัก เช่น พ.ร.บ.ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมฯ เป็นกฎหมายแม่บทในการจัดสรรสวัสดิการสังคมทั้งในส่วนของภาครัฐและภาคเอกชน แต่ในทางปฏิบัติยังมีช่องว่าง ข้อจำกัด เนื่องจากเป็นกฎหมายกลางที่ครอบคลุมกว้างขวางในหลายเรื่อง โดยไม่มีมาตรการเฉพาะเจาะจงในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ลักษณะของกฎหมายเป็นไปเพื่อการจัดสวัสดิการในภาพกว้าง เน้นหนักไปที่การส่งเสริมการดำเนินการของภาคเอกชน องค์กรสาธารณะประโยชน์

รศ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า มีข้อเสนอแนะและแนวทางการแก้ปัญหาคือ 1. ด้านตัวบทกฎหมายหรือพระราชบัญญัติที่ควรพิจารณายกเลิกหรือนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น กฎหมายสวัสดิการสังคมฉบับเก่า 3 ฉบับที่ยังมีผลบังคับใช้ ทั้งพ.ร.บ.จัดการฝึกและอบรมเด็กบางจำพวก พ.ศ.2479พ.ร.บ.จัดหางานให้คนไร้อาชีพ พ.ศ.2484 และพ.ร.บ.อบรมและฝึกอาชีพบุคคลบางประเภท พ.ศ.2518 ประการที่ 2 การแก้ไข ปรับปรุงบทบัญญัติในกฎหมายเพื่อการปฏิรูปกฎหมายสวัสดิการสังคม ควรพิจารณาแยกเป็นประเด็นกลุ่มเป้าหมาย สิทธิประโยชน์ ความเป็นธรรม รวมถึงกลไกการบริหารและหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ และทรัพยากรสาธารณะหรือแหล่งงบประมาณตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะในประเด็นกลุ่มเป้าหมาย ควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่างๆให้ความชัดเจน โดยมีกฎหมายพิทักษ์และคุ้มครองเป็นการเฉพาะแก้ปัญหาการเลือกปฏิบัติและส่งเสริมความเสมอภาคทางโอกาสให้ประชาชนทุกกลุ่ม บนแนวคิดจัดสวัสดิการพื้นฐานแก่ประชาชนทุกกลุ่มอย่างทั่วถึง

“ด้านสิทธิประโยชน์และความเป็นธรรม ควรลดวงเงินค่าลดหย่อนสำหรับคนรวย กรณีลงทุนในLTF,RMF อีกทั้งควรกำหนดสิทธิประโยชน์ให้ครอบคลุมโดยยึดหลักสังคมส่วนรวมเป็นตัวตั้ง และควรจัดระบบกองทุนสวัสดิการต่างๆไม่ให้มีการจ่ายเงินซ้ำซ้อน” รศ.ศักดิ์ชัย กล่าว

รศ. ณรงค์ เพ็ชรประเสริฐ อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า ปัจจุบันการบูรณาการความรู้ไปสู่สังคมสวัสดิการยังไม่มีความเป็นเอกภาพเท่าใดนัก เรามีความเห็นร่วมกันหรือไม่ว่า สวัสดิการสังคมควรมีอะไรบ้าง จัดเพื่อใครและใครเป็นคนจัดการ และจะใช้งบประมาณจากแหล่งใด หากพิจารณาประเด็นทางกฎหมายพบว่า กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) มีชุดความคิดที่ลงตัวแล้ว เนื่องจากรัฐบาลได้มอบหมายให้พม.ขับเคลื่อนสังคมสวัสดิการ ขณะเดียวกันในข้อเท็จจริงพบว่า ยังขาดมิติการมีส่วนร่วมทางสังคมในการจัดสวัสดิการ ประเด็นนี้ยังไม่มีกฎหมายใดรองรับ จึงควรพิจารณาในประเด็นเหล่านี้ด้วย นอกจากนี้ยังเสนอแนะคปก.ให้ทำข้อเสนอแนะในเชิงนโยบายและมาตรการเพื่อแก้ไขปัญหาสวัสดิการสังคมทั้งระบบนอกเหนือจากการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย

นายไพสิฐ พาณิชย์กุล อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า ระบบฐานข้อมูลด้านสวัสดิการสังคมค่อนข้างล้มเหลว ยังไม่ได้มีการออกแบบเป็นพลวัตร (Dynamic)และยังเป็นฐานข้อมูลที่ล่าสมัย ซึ่งส่งผลต่อการดำเนินการในเชิงนโยบาย ดังนั้น จึงควรเร่งดำเนินการในเรื่องดังกล่าวคู่ขนานกับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายด้านสวัสดิการสังคม ขณะเดียวกันบทบาทของคปก.ในระดับท้องถิ่นนอกจากการเตรียมความพร้อมด้านกฎหมายแล้วควรจะจัดทำข้อมูลพื้นฐานในท้องถิ่นด้วยเพื่อเป็นข้อมูลในการจัดสรรงบประมาณด้านสวัสดิการสังคมต่อไป

ติดต่อ:

สำนักงานคณะกรรมการปฏิรูปกฎหมาย : OFFICE OF LAW REFORM COMMISSION OF THAILAND อาคารซอฟต์แวร์ ปาร์ค ชั้น๑๙ ตำบลคลองเกลือ อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ๑๑๑๒๐ โทร.๐ ๒๕๐๒ ๖๐๐๐ ต่อ ๘๒๗๘ โทรสาร. ๐ ๒๕๐๒ ๖๐๐๐ ต่อ ๘๒๗๔

-กผ-

สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net