เตรียมพร้อมตื่นตา ตื่นใจไปกับโลกวิทยาศาสตร์ ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--1 ส.ค.--คอร์ แอนด์ พีค

กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) พร้อมจัดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 (National Science and Technology Fair 2013) ภายใต้แนวคิด ‘‘ทันโลกทันวิทย์ จุดประกายความคิด สู่อาเซียน’’ อย่างยิ่งใหญ่ เต็มพื้นที่ไบเทค บางนา พบกับกิจกรรมไฮไลท์ตื่นตา ตื่นใจ ไปกับโลกวิทยาศาสตร์ ระหว่างวันที่ 6 - 21 สิงหาคมนี้ และผนวกงานเทคโนมาร์ท ระหว่าง วันที่ 14 - 18 สิงหาคม ที่ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. อาคารจามจุรีสแควร์ - 31 กรกฎาคม 2556 : ดร.พีรพันธุ์ พาลุสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2556 จัดขึ้นเนื่องในสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ โดยกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย” และ “พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย” ในปี 2556 ยังถือเป็นการร่วมฉลองปีสากลแห่งความร่วมมือเรื่องน้ำ ตามมติขององค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) จึงได้มีการจัดแสดงนิทรรศการและกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำ เป็นกิจกรรมที่ยิ่งใหญ่แห่งปีระดับประเทศ และแถบภูมิภาคเอเชีย การจัดแสดงปีนี้จัดอย่างยิ่งใหญ่ระดับอาเซียน เน้นนำเสนอผลงานความก้าวหน้า และศักยภาพทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย รวมถึงศักยภาพของนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของไทย การจัดงานในครั้งนี้ได้รับความร่วมมือด้วยดีทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชน มากกว่า 150 หน่วยงาน โดยมีหน่วยงาน จากกระทรวงต่างๆ อาทิ กระทรวงกลาโหม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงศึกษาธิการ, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงคมนาคม และกระทรวงอุตสาหกรรม, และ 16 หน่วยงานที่อยู่ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี , สมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ,หน่วยงานเอกชน ชมรมและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ สถาบันการศึกษาทั่วประเทศ นิทรรศการต่างประเทศ อาทิ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น จีน รัสเซีย ฝรั่งเศส และออสเตรเลีย รวมทั้ง ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน ในการที่จะนำนวัตกรรมทางด้านวิทยาศาสตร์ การค้นคว้าใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์มาจัดแสดงในงานเป็นจำนวนมากเต็มพื้นที่ไบเทค บางนา ในปีนี้พิเศษกว่าทุกปีจะผนวกงานเทคโนโลยีของไทย (เทคโนมาร์ท) ประจำปี 2556 เป็นนิทรรศการที่จัดแสดงเพื่อเผยแพร่ผลงานทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมของคนไทยและสร้างโอกาสการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมให้เกิดแรงบันดาลใจในการคิดค้นพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เป็นประโยชน์นำไปสู่การพัฒนาประเทศในระยะยาว กิจกรรมดังกล่าว จะช่วยกระตุ้นความสนใจทางด้านวิทยาศาสตร์ และนวัตกรรมใหม่ๆ แก่นักวิจัย นักวิทยาศาสตร์ และประชาชนทั่วไป และเพื่ออัพเดทความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของประเทศ และศักยภาพของนักวิจัยและนักวิทยาศาสตร์ของไทย พร้อมกับจุดประกายนักวิทยาศาสตร์รุ่นเยาว์ให้ตระหนักถึงความสำคัญและการนำวิทยาศาสตร์ไปใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทย และเตรียมพร้อมกับการพัฒนาสู่การเปิดเสรีอาเซียนไปพร้อมๆ กัน รศ.ดร.วีระพงษ์ แพสุวรรณ ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวถึง ความยิ่งใหญ่ของงานในครั้งนี้ว่า ภายในงาน มีการแบ่งกิจกรรมออกเป็นหลากหลายโซน บนพื้นที่ 42,000 ตารางเมตร เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าไปมีส่วนร่วม รับสาระความรู้ทางวิทยาศาสตร์ได้ทุกคน ตั้งแต่ นิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการและกิจกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การมอบรางวัลพระราชทานนักวิทยาศาสตร์ไทยดีเด่น การประกวดและแข่งขันทางวิทยาศาสตร์ การประชุม สัมมนา และการแสดงสินค้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พร้อมการนำเอาเทคโนโลยีและมัลติมีเดียใหม่ ๆ มาใช้ในการจัดแสดง เพื่อสร้างประสบการณ์ เปิดมุมมองการเรียนรู้ผ่านสื่อ Interactive กับนิทรรศการรูปแบบ 4D (4 มิติ) เพื่อสร้างความตื่นตา เร้าใจ และสนุกสนาน เพื่อเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ โซนนิทรรศการเทิดพระเกียรติรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 9 รวมทั้งพระบรมวงศานุวงศ์ โซนนิทรรศการพลังงานเพื่ออนาคต Hi-Light Live Action Theatre เรื่อง วิกฤติพลังงาน รวมพลังกู้โลก เทคนิคการถ่ายทำบน “กรีนสกรีน” ให้ผู้เข้าชมได้มีส่วนร่วมในการแสดงบทบาท ฮีโร่ช่วยโลกจากวิกฤติพลังงาน โซนนิทรรศการ “การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลกและสิ่งแวดล้อม” หรือ ClimateChange เป็นการนำเสนอสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมีสาเหตุทั้งจากธรรมชาติและน้ำมือมนุษย์ ตลอดจนผลลัพธ์ที่เกิดจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นและ ผลกระทบต่าง ๆ ซึ่ง High light ของนิทรรศการนี้ เช่น การ Mapping ลูกโลกที่แสดงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง, เกมส์ Interactive กำจัดก๊าซช่วยโลก เป็นต้น โซนนิทรรศการ “วิกฤตอาหาร” Hi-Light เป็นการจำลองเทคโนโลยีฟาร์มหมู ฟาร์มไก่ระบบปิด การจัดแสดงเทคโนโลยีช่วยเพิ่มผลการผลิต นิทรรศการ“เทคโนโลยีการแพทย์และยา” โรคภัยไข้เจ็บและโรคอุบัติใหม่, แสดงโรคภัยไข้เจ็บชนิดต่างๆและสาเหตุอันเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ วิวัฒนาการทางการแพทย์ (ครั้งแรกของโลก), แสดง Timeline วิวัฒนาการทางการแพทย์ทั้งเรื่องยาและการรักษาที่เป็นครั้งแรกของโลก เทคโนโลยีในการรักษา, แสดงเทคโนโลยีและกรรมวิธีในการรักษาคนไข้แบบต่างๆทั้งในส่วนของยา, เครื่องมือแพทย์, และแพทย์ทางเลือก 4 นวัตกรรมทางการแพทย์, แสดงงานวิจัยและเทคโนโลยีแห่งอนาคตที่จะหยุดยั้งโรคภัยไข้เจ็บต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ Hi-Light เครื่อง Kinetic X-ray เป็นเครื่องมือที่ใช้ Kinetic Sensor จับการเคลื่อนไหวของผู้เล่น แล้วแสดงผลเป็นโครงร่าง (โครงกระดูก) บนหน้าจอ นิทรรศการ“ภูมิปัญญาสู่นวัตกรรมการจัดการน้ำ” Hi-Light Simulator เรื่อง การเดินทางของน้ำร่วมผจญภัยตามสายน้ำไปกับ 4D Simulator ที่จะพาผู้ชมไปดูตั้งแต่ต้นกำเนิดของสายน้ำไปจนถึงมหาสมุทร นิทรรศการ“เทคโนโลยีสารสนเทศ” นำเสนอทุ่นเตือนภัยสึนามิ เป็นหนึ่งในหลายๆอย่างของเทคโนโลยี ที่นำมาใช้เพื่อการตรวจหาเหตุที่ทำให้เกิดภัยพิบัติ เพื่อจะได้เตือนและเตรียมการป้องกันล่วงหน้า Hi-Light Halogram เทคโนโลยีเพื่อการท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง และปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยวและผู้ประกอบการ โซนนิทรรศการ “เทคโนโลยีอุตสาหกรรม” Hi-Light Car Mapping แสดงส่วนประกอบของรถยนต์ที่เชื่อมโยงไปยัง 5 อุตสาหกรรมหลัก ของประเทศ คือ อุตสาหกรรมยาง สิ่งทอ อิเล็กทรอนิกส์พลาสติก และโลหะ นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมเยาวชน ก็มีให้เลือกหลากหลาย อาทิ การประกวดสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมนักวิทยาศาสตร์น้อย ระดับชั้น ป.5 - ป.6, การแข่งขันกระบวนการแก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์ ระดับมัธยมตอนต้นและตอนปลาย, การประกวดการแสดงทางวิทยาศาสตร์ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ, การประกวดวาดภาพการ์ตูน และวาดภาพจินตนาการทางวิทยาศาสตร์ เป็นต้น รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวต่อว่า มหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้ มีการดำเนินการปรับปรุงรูปแบบการจัดแสดงนิทรรศการให้ทันสมัยขึ้น เพิ่มกิจกรรมสำหรับทุกเพศทุกวัย ได้ร่วมสนุกและทดลอง โดยมีนิทรรศการและกิจกรรมเด่นๆ ที่ไม่ควรพลาดจากหน่วยงานต่างๆของกระทรวง อาทิ ในแต่ละหน่วยงานของกระทรวงวิทย์ทั้ง 16 หน่วยงานจะมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ จะมีหัวข้อนิทรรศการ เทคโนโลยีนิวเคลียร์กับการเกษตร โดยมีไฮไลต์ในการช่วยเหลือเกษตรกรไทยให้มีรายได้เพิ่มพูนและผลผลิตที่มีคุณภาพยิ่งขึ้น , สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ หัวข้อนิทรรศการศูนย์เฝ้าระวังทางรังสีโดยมีไฮไลต์กิจกรรมการค้นหารังสีและเฝ้าระวังภัยทางรังสี , สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หัวข้อนิทรรศการปีแห่งดวงหางมีไฮไลต์พิเศษจัดแสดงดาวหางจำลองและจัดแสดงอุกกาบาตนอกโลก , สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ สวทน. มีหน่วยงานหนึ่ง ชื่อ สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นสูง ได้ร่วมมือกับสถาบันการศึกษา จัดสร้างหลักสูตรเทคโนโลยีวิชาชีพเฉพาะทาง เพื่อเป็นการปูทางพื้นฐานเส้นทางการศึกษาและเส้นทางอาชีพที่รองรับผู้สำเร็จการศึกษา โดยเบื้องต้นจะมีการนำร่องก่อน 4 สาขาวิชา คือ เทคโนโลยีหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีรถไฟความ เร็วสูงและรถไฟฟ้า นวัตกรรมเพื่อการเกษตรเน้นสาขาการปรับปรุงพันธุ์พืชและการผลิตพันธุ์พืชและเมล็ดพันธุ์ และสาขาเทคโนโลยีชีวภาพและพันธุวิศวกรรมศาสตร์ ได้นำพันธุ์ข้าว ข้าวไรซ์เบอรี่ (Riceberry) ได้จากการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างข้าวเจ้าหอมนิลกับข้าวขาวดอกมะลิ 105 ลักษณะเป็นข้าวเจ้าสีม่วงเข้ม รูปร่างเมล็ดเรียวยาวมาโชว์ในงานด้วย , สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย คิดค้นน้ำมันที่สกัดจากสาหร่าย , องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ( อพวช.) มีกิจกรรมนิทรรศการ หัวข้อ SCI on the Move คือ นิทรรศการอินเตอร์แอคทีฟที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันและธรรมชาติรอบตัว นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมของเยาวชนอีกมากมาย อาทิ ประดิษฐ์ตุ๊กตากลิ้งม้วน ประดิษฐ์ภูเขาไฟในขวด ฟองเต้นระบำ เป็นต้น รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงวิทย์ฯลฯ พร้อมให้บริการในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ความพร้อมของสถานที่ ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ระบบจราจรภายในสถานที่ การรักษาความปลอดภัย การปฐมพยาบาล การต้อนรับ และจัดคิวลำดับชมงาน พร้อมเจ้าหน้าที่ที่มีประสบการณ์ในการดูแลและอำนวยความสะดวกแก่นักเรียน เยาวชน และผู้เข้าเยี่ยมชมงานที่มาเป็นหมู่คณะ โดยเฉพาะในปีนี้ ทางองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ( อพวช.) ได้ดำเนินการด้านการตลาดล่วงหน้าโดยการเชิญไปยังโรงเรียนต่างๆ กว่า 40,000 โรงเรียนทั่วประเทศ และขณะนี้มียอดจองเข้าชมงานเป็นหมู่คณะ แล้วประมาณ 400,000 คน และคาดว่าในปีนี้จะมีผู้เข้าชมตลอดการจัดงานไม่น้อยกว่า 1.25 ล้านคน นั่นแสดงถึงผลสำเร็จในการจัดงานที่ผ่านมา เป็นที่สร้างความประทับใจแก่ผู้ที่ได้เข้าชมงาน รศ.ดร.วีระพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า กระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ และทุกหน่วยงานพร้อมแล้ว ที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี จัดแสดงแก่ประชาชนทุกคน โดยเฉพาะการที่จะกระตุ้นและสร้างบันดาลใจแก่เยาวชนไทย ในการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เป็นรากฐานสำคัญต่อการใช้ชีวิต และการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า ทั้งนี้ เยาวชน ครอบครัว และประชาชนทั่วไป สามารถเข้าชมงาน “มหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2556” ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 6 - 21 สิงหาคม 2556 เวลา 09.00 - 20.00 น. ณ ไบเทค บางนา และ งานเทคโนมาร์ท ในวันที่ 14 - 18 สิงหาคม ณ ลานหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ เวลา 10.00 – 20.00 น. สำหรับโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาที่ต้องการเข้าชมเป็นหมู่คณะ ติดต่อ 02 577 9960 ส่วนเวลาที่เหมาะสมของการเข้าชมสำหรับประชาชนทั่วไป จันทร์-ศุกร์ เวลา 15.00 - 20.00 น. และเสาร์-อาทิตย์ ตั้งแต่ 09.00 – 20.00 น. นอกจากนี้ยังสามารถพบกับ 2 พรีเซนเตอร์ของงาน จ่อย (พงศกร เมตตาริกานนท์) และ พลอย ภัทรากร ตั้งศุภกุล) แห่งละครคุณชายรัชชานนท์ได้ภายในงาน ติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดงานได้ที่ www.nstf2013.com / www.facebook.com/nstf2013 / instagram ที่ nst2013thailand call center 1313 และสนใจเข้าชมเป็นหมู่คณะโทร. 02-5779960 สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ( อพวช.) โทรศัพท์ 02-577 9999 ต่อ 2106, 2127 (สุตานันท์ , ชัญญ์ชญา) - ศูนย์บริการร่วมกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โทร.1313 - คุณธนิษฐา วิทยานนท์ (ปุ๊ก) ปรึกษาประชาสัมพันธ์ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2556 โทร 0-2439-4600 ต่อ 8302, Email: [email protected] -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ+งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีวันนี้

"เอ็นไอเอ" ชวนเยาวชนเรียนรู้ทักษะ “นวัตกร” ในงานมหกรรมวิทย์ 67 พร้อมเนรมิตพื้นที่ S4i Learning Mart เปิดเครื่องมือต่อยอดการเรียนรู้ สร้างทักษะนวัตกร

กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้าส่งเสริมนวัตกรรุ่นใหม่ ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2567 ผ่านกิจกรรมใน “บูธ S4i Learning Mart” ที่ได้รวบรวมเครื่องมือพัฒนาทักษะนวัตกร ด้วยกระบวนการ “STEAM4INNOVATOR” ไว้อย่างหลากหลาย ที่ใช้ความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์พร้อมแนวคิดด้านธุรกิจที่ครบครัน จัดกลุ่มเครื่องมือให้ได้ศึกษาและหยิบทดลองใช้งานทั้งกลุ่มครูอาจารย์ สถานศึกษา พ่อแม่ผู้ปกครองและตัวน้องๆ เยาวชนเอง รูป

บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ ... BSRC ร่วมสร้างสังคมวิทยาศาสตร์ สนับสนุนงานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ — บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) หรือ BSRC ร่วมสนับสนุนการจัดงานมหกรร...

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประ... วว. พร้อมโชว์ผลงานขับเคลื่อน BCG Economy Model ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ฯ 2567 — สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) พร้อมนำผลงานวิจัยและพ...

ชวนเยาวชนร่วมผจญภัยค้นหาไฟฟ้าที่เป็นมิตรต... กฟผ. เปิดบูท 'EGAT Carbon Neutrality Land: ตะลุยดินแดนไฟฟ้า ความเป็นกลางทางคาร์บอน' — ชวนเยาวชนร่วมผจญภัยค้นหาไฟฟ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การใช้พลังงาน...

นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐ... วว. โชว์กิจกรรม นวัตกรรมอาหารเพื่ออนาคต BCG : Food for the future @ มหกรรมวิทย์ 2566 — นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการ...