บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กับการบริหารจัดการด้านคอมพิวเตอร์อย่างมีระบบ

วัตถุประสงค์สำคัญในการดำเนินงานของบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ก็คือให้ความช่วยเหลือในการค้ำประกันสินเชื่อแก่ผู้ประกอบการขนาดย่อม (SMEs) ที่ขาดหลักประกัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น จากธนาคารพาณิชย์หรือสถาบันการเงินของรัฐ ซึ่งทาง บสย. ก็จะเข้าไปให้การสนับสนุนโดยค้ำประกันสินเชื่อแก่ SMEs เพื่อให้ได้รับเงินเต็มจำนวนวงเงินที่ขอกู้ตามที่ต้องการจากธนาคารพาณิชย์ สำหรับ บสย.นั้น เป็นสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ (Service Financial Institution: SFI) ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม พ.ศ. 2534 โดยปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 6,839.95 ล้านบาท โดยมีลูกค้าที่มาใช้บริการของ บสย. มากกว่า 93,000 ราย โดยตลอด 20 ปีที่ผ่านมา บสย. ให้วงเงินค้ำประกันสินเชื่อแก่ SMEs ไปแล้วกว่า 2.84 แสนล้านบาท นำเทคโนโลยีเพื่อช่วยการดำเนินธุรกิจ หัวใจสำคัญที่ถือเป็นหนึ่งของการดำเนินธุรกิจของ บสย. นั้นก็คือเรื่องของระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจ มีคุณสงขลา นันทขว้าง ซึ่งเป็นผู้จัดการส่วนปฏิบัติการเทคโนโลยี ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นผู้รับผิดชอบ กล่าวว่า บสย. ได้กำหนดแผนงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศให้สอดคล้องกับแผนรัฐวิสาหกิจองค์กร เพื่อจะนำเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศไปสนับสนุนแผนงานของฝ่ายงานต่างๆ โดยฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศจะเข้าร่วมพูดคุย เพื่อรับฟังความต้องการ (Business Requirement) พร้อมทั้งให้ข้อเสนอแนะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ รวมถึงการกำหนดรายละเอียดขั้นตอน งบประมาณ กรอบระยะเวลาและเครื่องมือ ซึ่งแต่ละปีมีโครงการด้านเทคโนโลยีสารสนเทศต่างๆ มากมาย ปัจจุบันกำลังพัฒนาโครงการในส่วนของ Core Guarantee System (CGS) และระบบ Enterprise Resources Planning (ERP) ทั้งนี้เพื่อให้รองรับกับผลิตภัณฑ์ของ บสย. ที่ให้บริการแก่ลูกค้า, คู่ค้าและคู่ความร่วมมือ อย่างไรก็ตามในการให้บริการจัดการด้านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ผ่านมาของ บสย. ได้ประสบปัญหาเกี่ยวกับการบริหารจัดการเครื่องคอมพิวเตอร์ในองค์กรและสำนักงานสาขาทั่วทุกภาคในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขาดเครื่องมือในการบริหารจัดการเครื่องคอมพิวเตอร์กอรปกับบุคลากรด้านไอทีมีจำกัด ทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้าและขาดประสิทธิผลในการให้บริการของระบบคอมพิวเตอร์ ฯลฯ ส่งผลให้ไม่สามารถตอบสนองต่อการดำเนินธุรกิจของ บสย. ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นทำให้คุณสงขลาและทีมงานจำเป็นต้องหาเครื่องมือในการบริหารจัดการเครื่องคอมพิวเตอร์มาแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยในระยะแรกได้นำเอาซอฟต์แวร์ประเภทที่เป็นแชร์แวร์/ฟรีแวร์มาใช้งาน ก็สามารถพอที่จะจัดการได้บ้าง (ก่อนหน้านั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์เพียงแค่ 40-50 เครื่องเท่านั้น) แต่ต่อมาเมื่อองค์กรขยายตัว มีการนำระบบไอทีมาใช้มากขึ้น พร้อมทั้งมีคอมพิวเตอร์เพิ่มมากขึ้น ซึ่งมีมากกว่า 250 เครื่อง ทำให้ซอฟต์แวร์เหล่านั้นไม่สามารถรับมือได้อีกต่อไป จึงทำให้ บสย. จำเป็นต้องหาโซลูชั่นด้านซอฟต์แวร์ที่มีความสามารถมากกว่า ซึ่งปัจจุบันได้หันมาใช้โซลูชัน StarCat เวอร์ชัน 2013 มาใช้งาน คุณสงขลาเล่าว่าซอฟต์แวร์ StarCat เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในองค์กรทั้งหมด เช่น การตรวจสอบสินทรัพย์คอมพิวเตอร์, การติดตั้งซอฟต์แวร์แบบกระจาย, การทำกรุ๊ปคอมพิวเตอร์โพลิซี, การแก้ไขปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์ระยะไกลและการมอนิเตอร์เพื่อเฝ้าดูพฤติกรรมการใช้งานหรือการเปลี่ยนแปลงค่า เป็นต้น ผู้จัดการส่วนปฏิบัติการเทคโนโลยี ยังเสริมต่อไปว่าการตัดสินใจเลือกโซลูชัน StarCat นั้นมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ โดยเล็งเห็นว่าเนื่องจากเป็นซอฟต์แวร์ฝีมือคนไทยที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพเทียบเคียงกับซอฟท์แวร์จากต่างประเทศ มีคุณสมบัติตรงตามความต้องการ สะดวกและใช้งานง่าย ราคาสมเหตุสมผล สามารถลดต้นทุนในการบริหารจัดการและการดูและรักษาระบบ นอกจากนั้นแล้วตัวโปรแกรมก็ยังสามารถตอบโจทย์บางส่วน ในการจัดทำข้อกำหนดให้สอดคล้องกับนโยบายความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศขององค์กร ที่อ้างอิงตามมาตรการความปลอดภัยบนระบบคอมพิวเตอร์ ISO27001 เช่น การจัดการสินทรัพย์สารสนเทศ, การบริหารจัดการช่องโหว่ของระบบ, การแจ้งเหตุการณ์และการป้องกันการใช้คอมพิวเตอร์ผิดวัตถุประสงค์ เป็นต้น คุณประโยชน์จากระบบไอที ฟีเจอร์สำคัญ ที่ บสย. ได้ใช้จาก StarCat นั้นก็มีอยู่หลักๆ เช่น การติดตั้งซอฟต์แวร์ต่างๆ แบบกระจาย, การกำหนดนโยบายด้านไอทีลงไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ได้ทั้งหมด, การทำรีโมทระยะไกลไปเพื่อแก้ปัญหาเครื่องคอมพิวเตอร์, การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมการใช้งาน จากรายงานเพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นอีกด้วย เป็นต้น คุณสงขลากล่าวถึงประโยชน์จากการใช้งาน StarCat ซึ่งทำให้ฝ่ายเทคโนโลยีสารสนเทศสามารถลดเวลาลงได้อย่างมาก ในการแก้ไขปัญหาเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์และผู้ใช้งานมีความพึงพอใจมากขึ้น ทำให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายไอทีสามารถนำเอาเวลาที่เหลือไปบริหารจัดการระบบแม่ข่ายและพัฒนาปรับปรุงระบบอื่นๆ ที่มีความสำคัญให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ซอฟต์แวร์ดังกล่าวยังช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการจ้างบริษัทจากภายนอก (Outsourcing) เพื่อมาสนับสนุนการให้บริการดูแลเครื่องคอมพิวเตอร์ได้อย่างมาก ลดดาวน์ไทม์ของเครื่องคอมพิวเตอร์ เจ้าหน้าไอทีสามารถมอนิเตอร์ได้จากศูนย์กลางทำให้ยูสเซอร์ยังคงทำงานได้อย่างราบรื่นและไม่สะดุดและแจ้งเตือนเครื่องหากมีการใช้งานที่ผิดปกติได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งเมื่อเทียบความคุ้มค่าแล้ว บสย. สามารถได้รับประโยชน์และความคุ้มค่าจากซอฟต์แวร์ StarCat เมื่อเทียบกับโซลูชันเดิมที่เคยใช้อยู่มากกว่า 70% เลยทีเดียว นอกจากตัวผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพแล้ว บสย. ก็ยังคงได้รับการสนับสนุนด้านข้อมูลและการฝึกอบรมจากทาง MOSCII Corporation ซึ่งเป็นบริษัทผู้พัฒนาตัวซอฟต์แวร์ StarCat อย่างต่อเนื่อง, สนใจรายละเอียดติดต่อข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ StarCat ได้ที่ MOSCII CORPORATION, โทรศัพท์ 02-582-8299 หรือที่เว็บไซต์ www.moscii.com หรือ www.starcatsoftware.com -กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

• ข่าวบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
• ข่าวประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม
• ข่าวประกันสินเชื่ออุตสาหกรรม
• ข่าวสถาบันการเงินเฉพาะกิจ
• ข่าวสถาบันการเงินของรัฐ