บลจ.กสิกรไทย คาดแนวโน้มดอกเบี้ยทรงตัวอีกยาว ชวนลงทุนรับสงกรานต์ กับ 4 กองทุนตราสารหนี้ ชูผลตอบแทนปลอดภาษีสูงสุด 3.20%

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--10 เม.ย.--บลจ.กสิกรไทย

นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยว่า จากการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประกาศดอกเบี้ยนโยบายให้คงอยู่ที่ 2.75% บลจ. กสิกรไทยคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีแนวโน้มจะทรงตัวต่อไปถึงสิ้นปี 2556 เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศไทยยังมีการขยายตัวในระดับที่ดี ประกอบกับการบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชนและสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่วนปัจจัยจากเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความเปราะบางอยู่นั้น ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา ทวีปยุโรป หรือ ความกังวลในสถานการณ์คาบสมุทรเกาหลี บลจ.กสิกรไทยเชื่อว่าจะไม่มีผลกระทบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อย่างไรก็ตาม สภาพคล่องในตลาดโลกที่คาดว่าจะมีอยู่เป็นจำนวนมาก ประกอบกับการอัดฉีดเม็ดเงินของทั้ง สหรัฐอเมริกา เเละ ญี่ปุ่น อาจเป็นเเรงกดดันต่อการเเข็งค่าของเงินบาทในระยะปานกลางได้ รวมถึงการเข้ามาถือครองพันธบัตรไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของต่างชาติ (Non-Resident) ตั้งเเต่ช่วงต้นปี 2556 ยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามองและอาจะส่งผลต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยได้ในช่วงครึ่งปีหลัง นายชัชชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี สามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบกำหนดอายุโครงการ (Term Fund) ซึ่ง บลจ. กสิกรไทย จะเสนอขายต่อเนื่องอีก 4 กองทุน ระหว่างวันที่ 9 – 12 เมษายน 2556 นี้ โดยจะให้โอกาสรับผลตอบแทนตั้งแต่ 2.60% ต่อปี – 3.20% ต่อปี ประกอบด้วย กองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ซีซี (KPPTF3MCC) โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.60 % ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือนซีเจ (KFI3MCJ) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.80% ต่อปี กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน บีจี (KFI6MBG) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.00% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีโอ (KFF1YBO) ซึ่งให้โอกาสรับผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 3.20% โดยผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า ตราสารหนี้ต่างประเทศที่ กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 3 เดือน ซีเจ (KFI3MCJ) จะเข้าลงทุนประกอบด้วย เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊าซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ A ทั้งยังลงทุนใน เงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี (BBB/Fitch) ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย (A+(tha)/Fitch) รวมถึงตราสารหนี้ Banco Bradesco S.A. (BBB+/Fitch) ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A. (BBB-/Fitch), และตราสารหนี้ Itau Unibanco S.A. (BBB+/Fitch), ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ ด้านกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ 6 เดือน บีจี (KFI6MBG) จะลงทุนใน เงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ที่ BBB ตราสารหนี้ ธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน), ประเทศไทย (A+(tha)/Fitch) ร่วมด้วย Commercial paper ที่รับประกันโดย Sberbank, ประเทศรัสเซีย (BBB/Fitch) รวมถึงตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A.,และ Banco ABC Brasil S.A., ประเทศบราซิล (BBB-/Fitch) และเงินฝาก Union National Bank (A+/Fitch) สำหรับกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 1 ปี บีโอ (KFF1YBO) จะลงทุนใน ตราสารหนี้ Banco Santander S.A., ประเทศบราซิล ซึ่งได้รับการจัดอันดับที่ BBB/Fitch รวมถึง Commercial paper ที่รับประกันโดย Sberbank, ประเทศรัสเซีย (BBB/Fitch) เงินฝาก First Gulf Bank, ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (A+/Fitch) เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า (A/Fitch) และตราสารหนี้ Standard Bank of South Africa, ประเทศแอฟริกาใต้ (BBB+/Fitch) ด้านกองทุนเปิดเค คุ้มครองเงินต้น ตราสารหนี้ไทย 3 เดือน ซีซี (KPPTF3MCC) จะเน้นการลงทุนระยะสั้นกับตราสารหนี้ในประเทศเป็นหลัก เหมาะกับผู้ลงทุนมีความสามรถในการรับความเสี่ยงได้ต่ำมาก โดยกองทุนดังกล่าวจะลงทุนส่วนใหญ่ประมาณ 80% ในพันธบัตรรัฐบาลไทย หรือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และส่วนที่เหลือจะลงทุนในเงินฝากประจำ 3 เดือนของธนาคารพาณิชย์ ซึ่งจะให้โอกาสรับผลตอบแทนปลอดภาษีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่ 2.60% ต่อปี การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูล นโยบายลงทุน ความเสี่ยง ผลการดำเนินงานของกองทุน และเอกสารเกี่ยวกับกองทุน KPPTF3MCC) KFI3MCJ KFI6MBG) และ …. KFF1YBO ได้ที่ www.kasikornasset.com หรือ บลจ.กสิกรไทย หรือธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือขอข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลที่เสนอขายกองทุน ก่อนตัดสินใจลงทุน กองทุน KFI3MCJ KFI6MBG และ KFF1YBO มีความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนในสกุลเงินของหลักทรัพย์ที่ลงทุน ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน -กภ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.อีสท์สปริง โชว์จ่ายปันผลกองทุนอสังหาฯ และโครงสร้างพื้นฐานต่างประเทศ 3 กองทุน รวม 342 ล้านบาท ดีเดย์ 22 ธ.ค. 68 นี้

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน อีสท์สปริง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ บลจ.อีสท์สปริง เตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนภายใต้การบริหารจัดการจำนวน 3 กองทุน ประกอบด้วย กองทุนเปิดอีสท์สปริง Asia Pacific Property Flexible (ES-APPF) สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ในอัตรา 0.30 บาทต่อหน่วย ส่วนอีก 2 กองทุน สำหรับรอบระยะเวลาบัญชี 3 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2568 ถึงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 ได้แก่ กองทุนเปิดอีสท์สปริง Property and Infrastructure Income Plus

บลจ.ทิสโก้ปลื้มกองทุน ทิสโก้ โกลบอล สมาร์... บลจ.ทิสโก้ ปลื้ม ! กองทุน TGSMART กระแสตอบรับดี ประกาศเพิ่มทุนเป็น 4,000 ล้านบาท — บลจ.ทิสโก้ปลื้มกองทุน ทิสโก้ โกลบอล สมาร์ท แอลโลเคชั่น (TGSMART) กระแสต...

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไว้วางใจ บริษั... ธปท.แต่งตั้ง บลจ.ทิสโก้ ร่วมบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ — ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไว้วางใจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด (บลจ.ทิสโก้) แต่งตั...

BBLAM เสนอขาย IPO กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 1... BBLAM เสนอขาย IPO 'กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/25' วันที่ 3-8 ธ.ค. 2568 — BBLAM เสนอขาย IPO กองทุนรวมบัวหลวงธนรัฐ 10/25 หรือ Bualuang Thanarat 10/25 เน้นลงทุ...