ทริสเรทติ้งลดอันดับเครดิตองค์กร “บ. อาร์ ซี แอล” เป็น “BB+” จาก “BBB-” ด้วยแนวโน้ม “Negative”

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--ทริสเรทติ้ง

ทริสเรทติ้งปรับลดอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) เป็นระดับ “BB+” จาก “BBB-” โดยแนวโน้มยังคง “Negative” หรือ “ลบ” การปรับลดอันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงผลการดำเนินของบริษัทที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากภาวะอุตสาหกรรมที่อ่อนแอ ทั้งนี้ บริษัทยังคงมีผลประกอบการขาดทุนจากการดำเนินงานจำนวน 1,174 ล้านบาทในปี 2555 เมื่อเทียบกับ 2,051 ล้านบาทในปี 2554 บริษัทยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการในการปรับปรุงผลการดำเนินงาน อาทิ การชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูง การแข่งขันที่รุนแรงในภูมิภาคเอเชีย และอุปทานส่วนเกินของเรือที่ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงคณะผู้บริหารของบริษัทที่มีความสามารถและประสบการณ์ รวมทั้งสถานะผู้นำในตลาดผู้ประกอบการขนส่งทางเรือระดับภูมิภาคอันเนื่องมาจากความได้เปรียบในด้านขนาดและอายุเฉลี่ยของกองเรือ ตลอดจนความถี่ในการให้บริการ ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” หรือ “ลบ” สะท้อนถึงสถานการณ์ทางการตลาดที่ไม่เอื้ออำนวยอย่างต่อเนื่องซึ่งคาดว่าจะยังคงกดดันความสามารถของบริษัทในการปรับปรุงผลประกอบการและสถานะทางการเงินในระยะใกล้ต่อไป ทั้งนี้ อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงอีกหากบริษัทยังคงประสบภาวะขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญและประสบปัญหาด้านสภาพคล่องในช่วงไตรมาสข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม หากบริษัทสามารถปรับปรุงอัตราการทำกำไรและสร้างกระแสเงินสดที่เข้มแข็งเพียงพอที่จะใช้ชำระคืนหนี้ได้ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่ออันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัท ในปี 2555 ปริมาณการขนส่งสินค้าของบริษัทอาร์ ซี แอลลดลง 4% จากกลยุทธ์การยกเลิกเส้นทางเดินเรือที่ไม่ทำกำไร โดยการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงส่งผลกระทบต่อปริมาณการขนส่งสินค้าของบริษัท ในปี 2555 อัตราค่าระวางโดยเฉลี่ยของบริษัทเพิ่มขึ้นเล็กน้อยที่ระดับ 2.3% โดยอยู่ที่ 195 ดอลลาร์สหรัฐต่อตู้สินค้า (Twenty-foot Equivalent Unit - TEU) ซึ่งส่งผลให้รายได้รวมของบริษัทลดลงเล็กน้อยจาก 13,684 ล้านบาทในปี 2554 เป็น 13,548 ล้านบาทในปี 2555 อย่างไรก็ตาม อัตราค่าระวางยังคงได้รับแรงกดดันจากภาวะอุปทานส่วนเกินของเรือที่ยิ่งเพิ่มการแข่งขันให้รุนแรงมากขึ้นและรวมไปถึงภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเปราะบาง ทั้งนี้ ในปี 2555 ราคาน้ำมันโดยเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 673 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตันจาก 638 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตันในปี 2554 อย่างไรก็ตาม บริษัทมีค่าใช้จ่ายเชื้อเพลิงลดลงเล็กน้อยจาก 196.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2554 เป็น 184.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2555 เนื่องจากบริษัทลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงลง ในปี 2555 ผลการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยจากความสำเร็จในการปรับลดต้นทุน อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้ที่ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงานแล้วปรับตัวดีขึ้นจาก -2.3% ในปี 2554 เป็น 4.5% ในปี 2555 อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายต่อดอกเบี้ยที่ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงานแล้วเพิ่มขึ้นจาก -0.5 เท่าในปี 2554 เป็น 1.5 เท่าในปี 2555 อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมที่ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงานแล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก -6.0% ในปี 2554 เป็น 3.7% ในปี 2555 ส่วนอัตราส่วนหนี้สินต่อโครงสร้างเงินทุนที่ปรับปรุงรายการเช่าดำเนินงานแล้วก็ปรับตัวลดลงจาก 45.4% ในปี 2554 เป็น 42.2% ในปี 2555 เนื่องจากการชำระคืนหนี้ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินต่อโครงสร้างเงินทุนคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเนื่องจากบริษัทได้ซื้อเรือจำนวน 2 ลำซึ่งจะรับมอบภายในปี 2556 นี้ โดยบริษัทใช้เงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินในการซื้อเรือดังกล่าว สภาพคล่องของบริษัทยังคงตึงตัวเนื่องจากบริษัทมีกำหนดจะชำระเงินกู้ยืมจำนวน 1,680 ล้านบาทภายในปี 2556 นี้ ในขณะที่ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2555 บริษัทมีเงินสดจำนวน 2,101 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม บริษัทก็จะต้องดำรงเงินสดขั้นต่ำจำนวน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำรองเอาไว้ตามเงื่อนไขของสัญญาเงินกู้ ฉะนั้น หากผลประกอบการของบริษัทยังคงฟื้นตัวช้าเช่นเดิมก็อาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องได้ จากรายงานของ Alphaliner ปริมาณการบรรทุกสินค้าในช่วงปี 2556-2557 จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3.0 ล้านตู้ หรือคิดเป็น 18% ของปริมาณบรรทุกในปัจจุบัน นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ยังคงอยู่ในระดับสูง โดยราคาน้ำมันเฉลี่ยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 อยู่ที่ระดับ 620 ดอลลาร์สหรัฐต่อเมตริกตัน ความสามารถในการเพิ่มอัตราค่าระวางของบริษัทยังคงได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวของการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและอำนาจในการต่อรองที่บริษัทมีต่ำกว่าผู้ประกอบการรายใหญ่ ดังนั้น เพื่อสนับสนุนให้ผลประกอบการเพิ่มขึ้น บริษัทจึงวางแผนในการปรับลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ตลอดจนลดการให้บริการที่ไม่ทำกำไร และขนส่งสินค้าที่ให้กำไรสูง บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) (RCL) อันดับเครดิตองค์กร: BB+ แนวโน้มอันดับเครดิต: Negative-กภ-

ข่าวทริสเรทติ้ง+เศรษฐกิจโลกวันนี้

บางจากฯ ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง คงระดับเครดิต A+ จากทริส เรทติ้ง ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2

บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กร และอันดับเครดิตตราสารหนี้ประเภทหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ที่ระดับ "A+" และแนวโน้มอันดับเครดิต "stable" หรือ "คงที่" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 จากการประกาศอันดับเครดิตของทริสเรทติ้ง ตั้งแต่วันที่ 30 ตุลาคม 2568 ตอกย้ำความแข็งแกร่งของสถานะทางการเงิน การคงอันดับเครดิตนี้ครั้งนี้ สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ภายหลังจากการเข้าซื้อกิจการ บริษัท บางจาก ศรีราชา จำกัด (มหาชน) ('BSRC') โดยบริษัทฯ ได้ยกระดับความ

บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (ม... ETC คว้าอันดับทริสเรทติ้ง อัพเครดิต 2 ขั้นรวด สู่ระดับ 'BBB' — บริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC ได้ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตองค์ก...

บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน)... ทริสฯ อัพเครดิต BWG สองขั้นรวดเดียวสู่ระดับ "BBB" — บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ได้รับการปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือขององค์กร...

บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) เตรียมเสนอขายหุ... SGC เตรียมออกและเสนอขายหุ้นกู้มีประกัน ขยายพอร์ตสินเชื่อ — บมจ. เอสจี แคปปิตอล (SGC) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ และผู...