LVT คว้างานใหญ่ในบาห์เรนมูลค่า 270 ล้านบาท ดันยอด Backlog เพิ่มเป็นกว่า 3 พันล้าน มั่นใจปีนี้พลิกมีกำไร

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--2 พ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์

LVT ได้งานใหญ่อีก ล่าสุดลงนามเซ็นสัญญากับ Falcon Cement Company จากประเทศบาห์เรน มูลค่าโครงการ 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 270 ล้านบาท ในการออกแบบวิศวกรรม จัดหาเครื่องจักร อุปกรณ์ สำหรับโรงงานบดปูนซีเมนต์ 70 ตันต่อชั่วโมง มั่นใจปีนี้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะพลิกมีกำไรในรอบ 3 ปี บริษัท แอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า บริษัท Falcon Cement Company ประเทศบาห์เรน เซ็นสัญญาว่าจ้างบริษัทฯ ให้เป็นผู้ออกแบบงานด้านวิศวกรรม และจัดหาเครื่องจักร อุปกรณ์ สำหรับโรงงานบดปูนซีเมนต์ 70 ตันต่อชั่วโมง ระยะเวลาโครงการ 16 เดือน มูลค่า 9 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 270 ล้านบาท Mr.Hisham AI Rayes ประธานของ Falcon Cement Company เปิดเผยว่า โรงงานผลิตปูนซีเมนต์ของบริษัทฯ เป็นแห่งแรกและแห่งเดียวที่มีการผลิตแบบครบวงจรในประเทศบาห์เรน สำหรับการลงนามในสัญญากับ LVT ในครั้งนี้ก็เพื่อจะใช้ประสบการณ์ ความเชี่ยวชาญและการให้บริการที่มีคุณภาพของ LVT ในการเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต ซึ่งทำให้กำลังการผลิตปูนซีเมนต์ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น และยังสามารถผลิตปูนซีเมนต์ที่มีคุณภาพ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในประเทศบาห์เรน “ในรอบปีที่ผ่านมา เราได้เห็นความต้องการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่มขึ้นอย่างมาก ทั้งในภาคธุรกิจโดยรวมและตลาดอสังหาริมทรัพย์ สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของรัฐบาลในการพัฒนาอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจและการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรีพย์ของประเทศบาร์เรน และเราเชื่อว่าการลงนามในสัญญากับ LVT ในการพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพของโรงงานในด้านต่างๆ จะเพิ่มปริมาณกำลังการผลิตของโรงงาน รวมถึงปูนซีเมนต์มีคุณภาพที่ดีขึ้น ซึ่งจะตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสามารถลดการนำเข้าปูนซีเมนต์จากต่างประเทศได้” Mr.Hisham กล่าว นายแฮนส์ จอร์แกน เนียลเซ่น ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ LVT ผู้นำธุรกิจด้านการให้บริการวิศวกรรม ออกแบบ คิดค้น พัฒนา จัดหา และควบคุมการติดตั้งอุปกรณ์ในอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ในหลายประเทศทั่วโลก กล่าวว่า ความสำเร็จในการได้รับงานจาก Falcon Cement Company มาจากความมุ่งมั่นและตั้งใจของบริษัทฯ ในการเร่งหางานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนธันวาคม 2555 บริษัทฯ มีมูลค่างานที่อยู่ระหว่างการรอรับรู้รายได้ (Backlog) จำนวน 1,645 ล้านบาท และนับตั้งแต่ต้นปี 2556 ถึงปัจจุบันได้งานใหม่เข้ามาจำนวน 1,500 ล้านบาท ส่งผลให้มูลค่างานที่อยู่ระหว่างการรอรับรู้รายได้ของบริษัทฯ อยู่ที่ 3,145 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม เมื่อปี 2555 บริษัทฯ มีการปรับโครงสร้างการบริหารงานภายในทั้งเรื่องการบริหารสัญญาเพื่อให้มีกำไร การทำงานให้แล้วเสร็จภายในข้อกำหนดของสัญญา การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับแผนกการเงินและบัญชี ทั้งหมดนี้ทำให้ระบบการบริหารภายในของบริษัทฯ มีประสิทธิภาพมากขึ้น และเมื่อรวมกับการขายหุ้นบางส่วนของ LNVT ซึ่งคาดว่าจะมีกำไรประมาณ 150 ล้านบาท จะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปีนี้พลิกกลับมีกำไรสุทธิได้ในรอบ 3 ปี โดยปี 2553-2555 บริษัทฯ มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิ 239.07 ล้านบาท 23.88 ล้านบาท และ 293.20 ล้านบาท ตามลำดับ นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนการที่จะสร้างรายได้ที่สม่ำเสมอและมีความต่อเนื่อง เพื่อให้เจริญเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคตบริษัทฯ มีแผนจะเข้าร่วมลงทุนกับกลุ่มบริษัท Max Manufacturing ในการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศพม่า ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล ทั้งนี้ บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงินอย่างเพียงพอจากการขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ที่ได้รับการสนับสนุนอย่างล้นหลามจากผู้ถือหุ้นในก่อนหน้านี้ ทำให้บริษัทฯ ได้เงินเข้ามาจำนวน 215 ล้านบาทและยังจะได้รับเงินอีกประมาณ 64 ล้านบาทจากการจัดสรรหุ้นอีกจำนวน 51 ล้านหุ้น ให้กับบุคคลในวงจำกัดหรือ PP ที่คาดว่ารายละเอียดในการเพิ่มทุนจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ และจากปัจจัยดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯ สามารถลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่จะสามารถสร้างทั้งรายได้และกำไรในระยะยาว หมายเหตุ ภาพการลงนามในสัญญาระหว่างนายแฮนส์ จอร์แกน เนียลเซ่น ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการใหญ่ (คนขวาสุด) บริษัท แอล.วี.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) กับ Dr.Hassan Fakhro (คนที่ 4 จากขวา) -กภ/กผ- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศวันนี้

AKS ดึงผู้นำระดับนานาชาติร่วมยกระดับศักยภาพองค์กร

บริษัท เอเคเอส คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AKS โดยนายสง่า ตันติอมรพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 11/2568 วันที่ 11 กันยายน 2568 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่ามีมติแต่งตั้ง นายออสการ์ "แครีย์" แอล. เด เวเนเซีย จูเนียร์ เข้าดำรงตำแหน่ง กรรมการบริษัท แทนกรรมการเดิมโดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 11 กันยายน 2568 เป็นต้นไป เพื่อรับผิดชอบด้านการงานกลยุทธ์ระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งเสริมความแข็งแกร่งด้าน Corporate Governance นายออสการ์ "แครีย์" แอล. เด เวเนเซีย

นายวิรัฐ สุขชัย นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนใ... สมาคมฯ mai สนับสนุนบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมโครงการ JUMP+ สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน — นายวิรัฐ สุขชัย นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai...

นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานคณะกรรมการบริ... ผู้บริหาร SABINA เปิดโรงงานต้อนรับสมาคมนักลงทุนประเทศไทย — นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) หรือ SABINA ผู้ผลิตแล...

บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)... "โนเบิล" คว้าเกียรติบัตร "ESG DNA" สร้างวัฒนธรรมองค์กรสู่ความยั่งยืน — บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ "NOBLE" เดินหน้าตอกย้ำความมุ่งมั่นด้...

บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให... TK รักษามาตรฐานการกำกับดูแล ได้ 100 คะแนนเต็ม AGM Checklist ต่อเนื่อง 18 ปีซ้อน — บริษัท ฐิติกร จำกัด (มหาชน) หรือ TK ผู้ให้บริการเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ราย...

ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหา... "SNPS" โชว์ศักยภาพธุรกิจ ครึ่งปีแรก 2568 กำไรพุ่ง 60.72 %พร้อมเดินหน้าสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน — ดร.ธีรญา กฤษฎาพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พร้อมด้วย นายอ...

นายอาทิตย์ สุริวงศ์ (ขวา) ผู้จัดการฝ่ายทร... FVC รับเกียรติบัตรเชิดชูเกียรติจากตลาดหลักทรัพย์ฯ ตอกย้ำความมุ่งมั่นด้าน ESG — นายอาทิตย์ สุริวงศ์ (ขวา) ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์และกิจการทั่วไป บริษัท...