ก.ล.ต.อนุมัติแบบคำขอกระจายหุ้น “นามยง เทอร์มินัล” มั่นใจธุรกิจสดใสหลังประเมินยอดส่งออกรถยนต์ผ่านท่าเรือ A5 สิ้นปีทะลุ 1 ล้านคัน

ข่าวประชาสัมพันธ์ »

กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์

ก.ล.ต.อนุมัติแบบคำขอกระจายหุ้น “นามยง เทอร์มินัล”มั่นใจธุรกิจสดใสหลังประเมินยอดส่งออกรถยนต์ผ่านท่าเรือ A5 สิ้นปีทะลุ 1 ล้านคันรับอานิสงส์ค่ายรถยักษ์แก้เกมตลาดในประเทศชะลอตัว ก.ล.ต.อนุมัติแบบคำขอกระจายหุ้น“นามยง เทอร์มินัล” ผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro) ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย พร้อมเสนอขาย 205.5 ล้านหุ้นให้แก่ประชาชนทั่วไป ก่อนเดินหน้าเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ด้านผู้บริหารประเมินธุรกิจสดใส เชื่อมั่นอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสุดแกร่ง หลังค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ลงทุนสร้างโรงงานในไทยเพิ่ม ดันไทยรั้งตำแหน่งผู้นำอุตสาหกรรมยานยนต์เบอร์ 1 ในอาเซียน พร้อมมองตลาดส่งออกรถยนต์ปีนี้เติบโตพุ่ง หลังค่ายรถยนต์แก้แกมตลาดในประเทศชะลอตัว ด้วยการมุ่งส่งออกมากขึ้น คาดสิ้นปีมีปริมาณยอดสินค้ารถยนต์ ผ่านท่าเทียบเรือ A5 มากกว่า 1 ล้านคัน นายธนะชัย บัณฑิตวรภูมิ หัวหน้าสายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินในการนำหุ้นบริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (แบบไฟลิ่ง) และยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.)ล่าสุด สำนักงาน ก.ล.ต.ได้อนุมัติแบบคำขอเสนอขายหุ้น บมจ.นามยง เทอร์มินัล เรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้ บมจ.นามยง เทอร์มินัลได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ ต่อ ก.ล.ต.เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก จำนวน 205.50 ล้านหุ้นคิดเป็นร้อยละ 33.15 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนโดยปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 620.00ล้านบาท โดยทุนที่ออกจำหน่ายและชำระแล้ว มีจำนวน 414.50 ล้านบาท คิดเป็น 414.50 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท บมจ.นามยง เทอร์มินัล เป็นผู้ให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์แบบครบวงจร ณ ท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือน้ำลึกหลักของประเทศไทยที่ใช้ในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และมีทำเลที่ตั้งอยู่ใกล้กับฐานการผลิตของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์โดยส่วนใหญ่ โดยการให้บริการของบริษัทฯ ประกอบด้วย การให้บริการท่าเทียบเรือ การให้บริการพื้นที่ฝากเก็บสินค้าและเตรียมความพร้อมก่อนส่งออก รวมถึงการให้บริการอื่นๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจหลัก นอกจากการให้บริการท่าเทียบเรือ A5 แล้ว ในปี 2555 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังร่วมกับกลุ่มบริษัท NYK ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขนส่งทางทะเลชั้นนำของโลก เข้าลงทุนในบริษัท แหลมฉบัง อินเตอร์เนชั่นแนล โร-โร เทอร์มินัล จำกัด หรือ LRT โดยบริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 20.00 และมีสิทธิ (Option) ที่จะซื้อหุ้น LRT เพิ่มเติมจาก NYK ได้อีกไม่เกิน ร้อยละ 29.00 รวมเป็นสัดส่วนการถือหุ้นสูงสุดร้อยละ 49.00 สำหรับ LRT เป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจให้บริการท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์และสินค้าทั่วไป ซึ่งมีท่าเทียบเรือและพื้นที่ให้บริการในบริเวณท่าเทียบเรือ C0 ท่าเรือแหลมฉบัง “หลังจาก ก.ล.ต.อนุมัติแบบคำขอกระจายหุ้นแล้ว ที่ปรึกษาทางการเงินและบริษัทฯ จะร่วมกันกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสมในการเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปต่อไป ซึ่งจะพิจารณาภาพรวมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯประกอบด้วย อย่างไรก็ตาม เชื่อมั่นว่า ด้วยพื้นฐานและประสบการณ์ในการทำธุรกิจอย่างแข็งแกร่งของนามยง เทอร์มินัล จะทำให้หุ้นได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างคึกคักแน่นอน” นายธนะชัยกล่าว ด้านนายเทพรักษ์ เหลืองสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นามยง เทอร์มินัล จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการ ท่าเทียบเรือเพื่อการส่งออกและนำเข้ารถยนต์ (Roll-on/Roll-off: Ro/Ro) แบบครบวงจรรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ณ ท่าเทียบเรือ A5 ซึ่งตั้งอยู่ในบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง กล่าวแสดงความมั่นใจว่า ธุรกิจของบริษัทฯ มีแนวโน้มสดใส โดยเฉพาะเมื่อประเมินจากภาพรวมของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ซึ่งในขณะนี้ พบว่า มีอัตราการเติบโตที่แข็งแกร่ง หลังจากภาครัฐมีนโยบายชัดเจนต่อการส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้ก้าวสู่การเป็นดีทรอยต์ของเอเชีย ทำให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ให้ความสนใจย้ายฐานผลิตมายังประเทศไทย ก่อให้เกิดการลงทุนโรงงานผลิตประกอบรถยนต์เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ ปี 2555 -2559 ซึ่งจัดทำโดย สถาบันยานยนต์ กระทรวงอุตสาหกรรม คาดว่า กำลังการผลิตรถยนต์จากผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายจะเพิ่มเป็น 3 ล้านคันต่อปีภายในปี 2558 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตทั้งสิ้น 2.5 ล้านคัน ทั้งนี้ กำลังการผลิตดังกล่าว คาดว่าจะรองรับกำลังซื้อรถยนต์ในประเทศประมาณ 7 แสนถึง 1 ล้านคันต่อปี ส่วนที่เหลือ ผู้ผลิตแต่ละค่ายจะส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศ ทำให้การส่งออกยานยนต์ของไทยยังมีแนวโน้มขยายตัว เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้ ที่พบว่าผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายต่างเร่งทำตลาดส่งออกมากขึ้น เพื่อชดเชยกับ ความต้องการซื้อรถยนต์ภายในประเทศที่ชะลอตัวลง หลังหมดมาตรการรถคันแรก ส่งผลให้การส่งออกรถยนต์ผ่านท่าเรือ A5 ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือเพื่อส่งออกและนำเข้ารถยนต์รายใหญ่ที่บริษัทฯ เป็นผู้รับผิดชอบบริหาร จะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยทำสถิติการส่งออกรถยนต์จากท่าเทียบเรือ A5 เฉลี่ยมากกว่า 8 หมื่นคันต่อเดือน ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้คาดว่าจะส่งออกได้มากกว่า 1 ล้านคัน คิดเป็นส่วนแบ่งมากกว่า 80% ของยอดปริมาณยอดส่งออกรถยนต์ทั้งหมด “ผู้ผลิตยานยนต์รายใหญ่จากทั่วโลกให้ความสนใจเข้ามาตั้งฐานการผลิตรถยนต์ในไทยเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศมากขึ้น เนื่องจากประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีศักยภาพ และมีความพร้อมด้านทักษะฝีมือแรงงานในการประกอบรถยนต์รายใหญ่ในเอเชีย ซึ่งในอดีตที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2546 – 2555 ปริมาณการส่งออกของประเทศไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย อยู่ที่ร้อยละ 17.8 โดยคาดว่า ปริมาณยอดส่งออกรถยนต์ของไทยจะยังคงรักษาอัตราการเติบโตดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะส่งออกรถยนต์ไปยังตลาดโลกประมาณ 1.5 ล้านคัน รั้งอันดับหนึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์รายใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งจะส่งผลดีต่อธุรกิจของนามยง เทอร์มินัล” นายเทพรักษ์ กล่าว เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ โดยบริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (ในนาม บมจ. นามยง เทอร์มินัล) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม : อรอนงค์ ภัทรเวชกุล (ฟ้า) โทร. 02-612-2081 ต่อ 129 E-mail : [email protected] -นท- สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net

ข่าวตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย+ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศวันนี้

จีเอเบิล ขึ้นเครื่องหมาย XD 30 เมษายนนี้ ในอัตราหุ้นละ 0.2703 บาทต่อหุ้น จ่ายปันผลในเดือนพฤษภาคม

ดร.ชัยยุทธ ชุณหะชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท จีเอเบิล จำกัด (มหาชน) หรือ GABLE เปิดเผยว่าภายหลังจากที่บริษัทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บริษัทฯ มุ่งมั่นในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจอย่างต่อเนื่องภายใต้ผู้นำด้าน "Tech Enabler" ในปี 2567 บริษัทฯ ได้ต่อยอดความสำเร็จสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยกลุ่มบริษัท ขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีศักยภาพ 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท ราวด์ ทู โซลูชั่นส์ จำกัด (R2) ในสัดส่วนร้อยละ 75 โดย R2 เป็นผู้นำด้านที่ปรึกษาระบบ Enterprise Resource Planning

ก.ล.ต. ผ่อนผันให้ SAM นำส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สั่งการให้บริษัท สามชัย สตีล อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (SAM) ส่งรายงานผลการตรวจสอบเป็นกรณีพิเศษ (special audit) ภายในวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ตามที่ SAM...

บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDL... "เงินติดล้อ" ผนึกตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งปันไอเดีย การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในองค์กร — บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณมิ่งขวัญ ประเสริ...

มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิ... THNIC จับมือ SET และ ICANN จัดงาน UA Day 2025 ใช้โดเมนและอีเมลภาษาไทย ปูทางธุรกิจไทยก้าวสู่สากล — มูลนิธิศูนย์สารสนเทศเครือข่ายไทย (ทีเอชนิค) ร่วมกับตลาดห...

นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ... RBF โชว์ศักยภาพธุรกิจ-แผนขยายตลาด ตปท. งาน "Thailand Earning Call" ปังธง ปี 68 รายได้รวม โต 10-15% — นายสุรนาถ กิตติรัตนเดช ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและก...

นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที... "MEDEZE" โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024 — นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรื...